คอลัมนิสต์

จบแล้ว"ลุงตู่" อีกครั้ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบรรณาธิการ นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน 2562

 

 

          เหลือเพียงอีก 3 วันประเทศไทยคงได้เห็นโฉมหน้าของนายกรัฐนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยกันแล้ว หลังจากนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภานัดประชุม 500 ส.ส.กับ 250 ส.ว.เพื่อกำหนดอีเวนต์เลือกนายกรัฐมนตรีในวันพุธที่ 5 มิถุนายนนี้ ส่วนใครจะดำรงตำแหน่งนายกฯ นั้น ก็ต้องได้เสียงสนับสนุนไม่น้อยกว่า 376 เสียงขึ้นไป และใครคนนั้นก็คงจะเป็น “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบบไม่ต้องไปคาดเดา..มาถึงตรงนี้พวกฟ้า พวกมารอย่าไปนั่งฝันว่าประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะแหกคอกไม่ร่วมรัฐบาลลุงตู่ เพราะส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้มัน End game ตั้งแต่วันที่ 116 เสียงพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมใจโหวตเลือกนายชวน เป็นประธานสภาในวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคมไปแล้ว แต่ที่ยังปิดจ๊อบไม่ลงตัวลากยางมาถึงวันนี้ก็คงเป็นเรื่องการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีของพลังประชารัฐกับประชาธิปัตย์เท่านั้นเอง

 

 

          หลายคนอาจตั้งคำถามและกังขาว่า “เฮ้ย” เป็นไปไม่ได้ที่ประชาธิปัตย์ จะโหวตสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เพราะหากทำเช่นนั้นมันจะสวนทางกับสิ่งที่ปชป.ที่เคยหาเสียงไว้ก่อนเลือกตั้งว่าจะขอเป็นเส้นขนานกับเผด็จการ...เมื่อคำมั่นมันค้ำคอตรงนี้แหละ “ประชาธิปัตย์” จะกล้าผิดคำสาบานกับประชาชนเชียวหรือ แต่ก็อย่างที่กล่าวข้างต้นทุกอย่างมัน “จบ” ตั้งแต่วันที่นายชวนดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมแล้ว เพราะ 116 เสียงของพลังประชารัฐที่โหวตให้นายชวนมันคือข้อผูกมัดแล้วว่า “ประชาธิปัตย์ต้องร่วมรัฐบาล” เสียงโหวตในวันนัั้นมันคือ “ผลประโยชน์ต่างตอบแทน" ระหว่างพปชร.กับปชป.ที่เจรจาต่อรองกันจนสะเด็ดน้ำมาขั้นนึงแล้ว ดังนั้นเชื่อว่าในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ 53 เสียงของประชาธิปัตย์คงไม่มีใครแตกแถวไม่สนับสนุน “ลุงตู่” อย่างแน่นอน


          อะไรที่ทำให้มั่นใจถึงขนาดนั้นว่าเสียงของ “ประชาธิปัตย์” จะไม่แหกคอก ขอตอบง่ายๆ แบบตรงไปตรงมาคือ “ความเป็นประชาธิปัคย์” ที่ยึดมั่นในหลักเกณฑ์และมติของพรรคอย่างเคร่งครัดมาตลอดเกือบทศวรรษคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด “ประชาธิปัตย์” เป็นพรรคการเมืองที่มีมาตรฐาสูง คนประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองอาชีพที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ และหลักการอย่างเหนียวแน่น แม้ในบางครั้งจะมีความเห็นแตกแยกจนพรรคแทบล่มสลาย แต่เมื่อมติพรรคออกมาแบบใด คนประชาธิปัตย์ก็พร้อมจะปฏิบัติตามโดยไม่อิดออด


 


          แต่ภารกิจส่ง “ลุงตู่” กลับทำเนียบรัฐบาลจะสำเร็จลุล่วงไปได้ดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีจะเป็นไปตามความต้องการของประชาธิปัตย์หรือไม่ คือเก้าอี้ รมว.เกษตรฯ พาณิชย์ และพัฒนาสังคมฯ เพราะ ณ เวลานี้ “ประชาธิปัตย์” ถือแต้มต่ออย่างเห็นได้ชัด แม้จะเป็นพรรคยึดหลักการแต่ประชาธิปัตย์ก็มีด้านมืดแบบเขี้ยวลากดินชนิดที่ใครก็รู้กันมานาน วันนี้ประชาธิปัตย์รู้ดีว่าจะเล่นการเมืองแบบไหนให้ตนเองได้ประโยชน์สูงสุด..และด้วยสถานการณ์ที่บีบรัดและรอไม่ได้ “พลังประชารัฐ” คงต้องยอมจำใจยกเก้าอี้ให้ประชาธิปัตย์แบบไม่มีทางเลือกมากนัก


          แม้ภาพต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างประชาธิปัตย์และพลังประชารัฐ จะดุเดือดเข้มข้นเพียงใด แต่ก็อย่างที่บอกสุดท้ายนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ก็ยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่วันยังค่ำ และเชื่อว่าภายใน 2 วันนี้ทุกอย่างจะลงตัวและจบสิ้นอย่างแน่นอน..ไม่มีหรอกครับ “ฝ่ายค้านอิสระ” ไม่มีหรอกครับตั้ง “รัฐบาลขั้วที่ 3” และยิ่งไม่มีหรอกครับ “รัฐบาล 7 พรรคฝั่งประชาธิปไตย” เพราะวันที่ 5 มิถุนายน จะมีแค่พลังประชารัฐ 117 เสียง ประชาธิปัตย์ 53 เสียง ภูมิใจไทย 51 เสียง ชาติไทยพัฒนา และพรรคพันธมิตรกว่า 30 เสียง + ส.ว.อีก 250 เสียงส่งลุงตู่ถึงสวรรค์ชั้น 30 ขึ้นเป็นนายกฯ แบบวินๆ แต่จะวินได้นานแค่ไหนอันนี้ต้องรอดูตอนจบของภาค 2...!

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ