คอลัมนิสต์

ฮ่องกงเอฟเฟกต์ "แม้ว"เสื่อม มวลชนถดถอย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ที่เคยเชื่อกันว่า 15.7 ล้านเสียงเมื่อปี 2554 ของเพื่อไทยเหนียวแน่นเป็น "ของตาย" วันนี้พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง

        ********************

           มาเร็วกว่าที่คาด คล้อยหลังวันหย่อนบัตรแค่วันเดียว “ทักษิณ ชินวัตร” ได้ออกมาโวยเรื่องทหารกับการสืบทอดอำนาจ เหมือนส่งสัญญาณให้พรรคเพื่อไทย เดินหน้ารวมขั้ว “ไม่เอาประยุทธ์” ชิงธงตั้งรัฐบาล

          ขณะที่ “พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์” ที่เกษียณราชการจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาได้ 2 ปี แต่ก็เฝ้ามองสถานการณ์การเมืองอยู่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์ “ทักษิณ” ตรงไปตรงมา ทำเอาเอฟซีชินวัตรไม่พอใจยิ่ง

 

ภาวะทักษิณขาลง

          อาจารย์พิชิต ฟันธงว่า ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในภาวะขาลง “ที่เคยเชื่อกันว่า 15.7 ล้านเสียงเมื่อปี 2554 ของเพื่อไทยเหนียวแน่นเป็น “ของตาย” วันนี้พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง เพื่อไทยเหลือ 7.4 ล้านเสียง ส่วนหนึ่งไหลไปบรรดาพรรคทางเลือก แต่แม้เพื่อไทยบวกพรรคทางเลือกทุกพรรค ก็ยังได้เพียง 13 ล้านเสียง ที่หายไปคือ คะแนน ส.ส.ที่โดนดูด มุ้งที่แยกตัวไป และประชาชนที่ทิ้งประชานิยมทักษิณไปหา “บัตรคนจน”...”

          จะว่าไปแล้ว ทักษิณก็กินบุญเก่าที่คนอีสานบางส่วนยังฝังใจแบบ “รักแล้วรักเลย” โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวและวัยกลางคน แต่คนสูงวัยกลับนิยม “ลุงตู่” เพราะบัตรคนจน

          นักวิชาการที่เคยชื่นชมคนเสื้อแดงประเมินว่า “ทักษิณเคยเป็นจุดแข็ง ของค่ายเพื่อไทยจนถึงเลือกตั้ง 2554 ความ “เสื่อม” และภาวะขาลงของทักษิณ เริ่มที่ พฤษภาคม 2556 เมื่อทักษิณประกาศกลางราชประสงค์ให้ยุบเลิกขบวนเสื้อแดง มาแผลงฤทธิ์ตอนเหมาเข่งปลายปี 2556 จนปรากฏชัดที่ 8 กุมภาพันธ์ (ซึ่งก็คือ “เหมาเข่งรอบสอง”) และเลือกตั้ง 2562”

          ปรากฏการณ์ “ฮ่องกงเอฟเฟกต์” ก่อนเลือกตั้ง 2 วัน ก็ส่งผลให้พรรคฝ่ายลุงตู่ทะยานขึ้นแท่นเบอร์ 1 ในเมืองหลวง 

 

ชนะแต่พ่าย..คะแนนหาย

          เมื่อส่องเข้าไปดูคะแนนแต่ละภาค จะพบว่า “พรรคทักษิณ” ยังยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคอีสานเหนือ และอีสานกลาง รวมถึงภาคเหนือตอนบน แต่ที่น่าตกใจ “คะแนนหาย” ไปเยอะ

          ยกตัวอย่างสนามเลือกตั้งเชียงใหม่ ถือว่าเป็นเมืองหลวงในภาคเหนือของพรรคเพื่อไทย เมื่อเลือกตั้ง 2554 ผู้ชนะของเพื่อไทย จะได้แต้มเฉลี่ย 5-6 หมื่นคะแนน บางเขตทะลุ 7 หมื่นคะแนน

 

ฮ่องกงเอฟเฟกต์ "แม้ว"เสื่อม มวลชนถดถอย

กิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่

 

          สำหรับเลือกตั้ง 2562 ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทยทั้ง 9 เขตของเชียงใหม่ ได้แต้มเฉลี่ยเขตละ 4 หมื่นคะแนน ต่ำสุด 2 หมื่นกว่าคะแนน และสูงสุด 6 หมื่นคะแนน

          เฉพาะเขต 4 แชมป์เก่า-วิทยา ทรงคำ ได้ 37,357 คะแนน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ส่งคนหน้าเดิม-กิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ได้ 30,472 คะแนน แถมคนหน้าใหม่จากพรรคอนาคตใหม่ ยังเก็บมาได้ 35,504 คะแนน

          ทำนองเดียวกัน อุดรธานี เมืองหลวงของเพื่อไทยในภาคอีสาน การเลือกตั้ง 2554 ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ได้แต้มเฉลี่ย 5 หมื่นคะแนน บางเขตได้ถึง 7 หมื่นคะแนน แต่เลือกตั้ง 2562 แต้มหายไปเขตละ 2-3 หมื่น

          อย่างที่เขต 4 อาภรณ์ สาราคำ ภรรยาของขวัญชัย ไพรพนา ได้ 47,734 คะแนน เปรียบเทียบคะแนนของอดีต ส.ส.เขตนี้ ทองดี มนิสสาร ที่โกยไป 70,581 คะแนน 

 

ฮ่องกงเอฟเฟกต์ "แม้ว"เสื่อม มวลชนถดถอย

อาภรณ์ สาราคำ

 

          แนวโน้มวันข้างหน้า เพื่อไทยอาจรักษา “พื้นที่” ภาคเหนือตอนบนยากขึ้น เมื่อ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เบียดยึดพะเยาได้ 2 ที่นั่ง ส่วนภาคอีสานนั้น ชัดเจนแล้วว่า สนามนครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์ และชัยภูมิ ไม่ใช่ที่มั่นอันแข็งแกร่งของเพื่อไทยอีกต่อไปแล้ว

          ถ้าเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านไปอีก 4 ปี เชื่อว่าฐานเก่าจะถูกเจาะจนพรุนแน่

 

ฮ่องกงเอฟเฟกต์ "แม้ว"เสื่อม มวลชนถดถอย

ป้ายขอบคุณคนพะเยา

 

“พปชร.-อนาคตใหม่” แบ่งแต้ม

          การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว สมรภูมิอีสานมีเพียง 2 พรรคใหญ่คือ “เพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย” ที่แข่งกันอย่างเอาจริงเอาจัง ต่างจากหนนี้ ที่มีพรรคพลังประชารัฐ และพรรคอนาคตใหม่ พร้อมกับพรรคอื่นๆ นับกว่า 20 พรรคในแต่ละเขต

          พรรคพลังประชารัฐตกเป็นเป้าโจมตีจากกลุ่มคนเสื้อแดงว่า “นอมินีทหาร” แต่ “บัตรคนจน”, “เงินค่าเกี่ยวข้าว”, “เบี้ยคนแก่” และ “เงิน อสม.” ทำให้คนอีสานนิยมชมชอบ ส่งผลให้ผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ มีคะแนนหลักหมื่นขึ้นไป ยกเว้นบางเขตที่มีอดีต ส.ส.เกรดเอลงสนาม ก็ได้ 2-3 หมื่นคะแนน 

          มิเพียงพลังประชารัฐที่แบ่งแต้มเพื่อไทย หากแต่อนาคตใหม่ก็มาแรง ด้วย “ปรากฏการณ์ธนาธร” ที่โดนใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก และบางเขตเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ส.ของอนาคตใหม่เอาชนะ ส.ส.เก่าของเพื่อไทยไปได้

 

ฮ่องกงเอฟเฟกต์ "แม้ว"เสื่อม มวลชนถดถอย

กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์

 

           อย่างเช่นเขต 1 มหาสารคาม กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ พรรคเพื่อไทย ได้ 39,864 คะแนน, นงลักษณ์ ทุงจันทร์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ 21,530 คะแนน และภคพล ช่างยันต์ พรรคอนาคตใหม่ ได้ 20,364 คะแนน 

 

ฮ่องกงเอฟเฟกต์ "แม้ว"เสื่อม มวลชนถดถอย

นงลักษณ์ ทุงจันทร์

 

          นี่คือตัวอย่างของการโหวตเชิงยุทธศาสตร์ และสัญญาณบอกอาการขาลงของเพื่อแม้ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ