อดีตส.ส.ค่ายสะตอ ทำท่าว่าจะสอบตก พอนายชวนมากล่อม คนก็กลับมาเลือกอีกสมัย
000 สภากาแฟเริ่มพูดกันหนาหู กรณี “คนดังคนเด่น” ของ 2 พรรคใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ จะ “สอบตก” อันเนื่องมาจากกติกาเลือกตัั้ง ส.ส.แบบใหม่ คือ “ระบบจัดสรรปันส่วนผสม” หมายถึง “บัตรใบเดียว” แต่ยังมี “ส.ส. 2 ระบบ” กรณีคะแนนเฉลี่ย 8 หมื่นคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน สมมุติว่า พรรคใหญ่ได้ ส.ส.เขต 200 คน เมื่อนำคะแนน ส.ส. เขตรวมทั้งประเทศและคิดสูตร ส.ส.พึงมีลบด้วย ส.ส.เขตพรรคใหญ่อาจจะไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเลยแม้แต่คนเดียว
000 เหตุนี้เอง “นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี” จึงออกมาเสนอ “โหวตยุทธศาสตร์” พรรคเพื่อไทยชนะในเขตเลือกตั้งยิ่งมากเขตเท่าใด จะยิ่งยกระดับคะแนนที่ต้องการเพื่อได้ “ส.ส.พึงมี” มากขึ้นเท่านั้น เช่นเพื่อไทยได้เขตละ 8 หมื่นคะแนน ไปถึงมากกว่า 1 แสนคะแนน ก็จะทำให้คะแนน “ส.ส.พึงมี” 1 ต่อ 1 แสนคะแนน ไม่ใช่ 1 คนต่อ 8 หมื่น ทำให้พรรคขนาดกลางจำนวน ส.ส.ลดวูบ และพรรคขนาดเล็กไม่ได้ ส.ส.เลย
000 พรรคประชาธิปัตย์ก็คิดได้ไม่ต่างจากพรรคเพื่อไทย “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” จึงประกาศทุกเวทีในโค้งสุดท้ายต้องเลือกแบบไม่เกรงใจใคร เลือกผู้สมัคร ปชป.ระบบเขต ให้ได้คะแนนเกิน 8 หมื่นคะแนน เพราะคะแนนที่เหลือถือว่าได้กำไร และทำให้หัวหน้ามาร์ค และประธานชวน ไม่สอบตก
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
000 ส่วน “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” พูดย้ำแล้วย้ำอีกเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์เลือก “เพื่อไทย” อย่างถล่มทลาย หมายถึงต้องได้มากกว่า 8 หมื่นคะแนนขึ้นไป เหมือนกับที่ ปชป.เสนอ หากไม่เป็นไปตามนี้คงได้เศร้าทั้งพรรค เมื่อคุณหญิงหน่อย และ “เหลิม บางบอน” ไม่ได้เข้าสภา
000 พรรคใหญ่พยายามสร้างกลยุทธ์ “เบ่งคะแนน” ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ก็ลุ้นปาฏิหาริย์ครั้งที่ 3 ให้ประชาชนออกมาเทคะแนนให้ “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” โดยปาฏิหาริย์ครั้งที่ 1 คนไทยหลั่งไหลออกมาหลายล้านคนโค่นรัฐบาลภายใต้ระบอบทักษิณได้สำเร็จ และปาฏิหาริย์ครั้งที่ 2 ประชาชนลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ 16.8 ล้านเสียง
000 เนื่องจาก “ลุงกำนัน” แสดงตัวหนุน “ลุงตู่” สุดกำลัง แต่เวลานี้กองเชียร์ลุงตู่ทุ่มเทสุดหัวใจเลือก “พรรคพลังประชารัฐ” อาจทำให้คะแนนที่พรรค รปช.วาดหวัง ไม่ได้ตามเป้าหมาย
000 สนามชุมพร เขต 3 “สุเทพ” หวังได้ ส.ส.เขต 1 ที่นั่ง จาก “ลูกช้าง" สุพล จุลใส อดีตนายกอบจ.ชุมพร ที่สร้างฐานการเมืองมานานหลายปี แต่ “โกจ้าว” ธีระชาติ ปางวิรุฬรักษ์ แชมป์เก่า ปชป. คงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ การต่อสู้ยกแรก “ลูกช้าง” เสียงดีกว่า “โกจ้าว” แต่ยกหลังๆ ลุงกำนันออกมาอาละวาดลำเลิกเบิกประจาน “อภิสิทธิ์” และปชป. ก็ส่งผลให้ลูกช้างคะแนนเสียงตกวูบ
ลูกช้าง สุพล จุลใส หาเสียงค่ำไหนนอนนั่น มุ่งล้มเสาไฟฟ้า
000 สังเกตว่าลุงกำนันลดการวิพากษ์อภิสิทธิ์ลงทันที หลัง “นายชวน” ออกมาปรามแบบนิ่มๆ ฉะนั้น สองวันสุดท้าย “ลูกช้าง” อาจต้องออกแรงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเพื่อจะเบียดเข้าป้าย แต่ “โกจ้าว” ยังต้องพึ่ง “นายชวน” โฉบมาที่เขต 3 แค่ไม่กี่นาทีก็คงได้เป็น ส.ส.อีกสมัย
โกจ้าว ธีระชาติ ยังพึ่งบารมีชวน เข้าสภา
000 มิเพียงเท่านั้นลุงกำนันยังเจอ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” นำทัพอนาคตใหม่ ลุยเมืองหอยใหญ่ โดยวันก่อนมีการปราศรัยใหญ่ที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี มีคนมาให้กำลังใจมากกว่า 4 พันคน
ธนาธร ปราศรัยใหญ่ที่สุราษฎร์ธานี
หากดูรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคส้มหวาน ก็ไม่ต้องแปลกใจ อย่างเขต 1 "ส.จ.แอ๊ด" ธีรพงศ์ศักดิ์ เมืองราม ที่เคยลงสมัคร ส.ส.สังกัดพรรคชาติพัฒนามาแล้ว หรือเขต 2 ณัฐดนัย หิมทอง หรือ กำนันยศ อดีตกำนันดังในเกาะสมุยที่มีฐานเสียงหลักใน อ.เกาะสมุยและเกาะพะงัน
กำนันณัฐดนัย ที่ธนาธร หวังปักธง ส.ส.เขต 2 สุราษฎร์ธานี
000 สำหรับพรรค ปชป.ยังดำเนินกลยุทธ์ปราศรัยใหญ่ทั่วภาคใต้ และที่ขาดไม่ได้คือ “ชวน หลีกภัย” ที่มาวอนขอให้คนใต้เลือก “พรรคคนใต้” ซึ่งลีลาการปราศรัยโน้มน้าวใจคนบ้านเดียวกัน มักจะส่งผลต่อการตัดสินใจของชาวบ้าน หลายเขตหลายจังหวัด อดีตส.ส.ค่ายสะตอ ทำท่าว่าจะสอบตก พอนายชวนมากล่อม คนก็กลับมาเลือกอีกสมัย
ชวน หลีกภัย เทพเจ้าการเมืองของคน ปชป.
000 ครั้งนี้กลับมีปรากฏการณ์ธนาธรเกิดขึ้น ทำให้แกนนำพรรค ปชป.กังวลเรื่องคะแนนเสียงภาพรวมจะลดลง เฉพาะสนามพัทลุงที่เจอสองเด้งทั้ง “ไพร่หมื่นล้าน” และ “เจ๊เปี๊ยะ” ค่ายภูมิใจไทย ทำให้ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ต้องมาย้ำ “พัทลุง เปรียบเสมือนเมืองหลวงของพรรค ปชป.” หากว่าที่สนามเมืองลุงแพ้ 1-2 เขต ก็ถือว่าพ่ายแพ้ทั้งภาค
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่พัทลุง
000 คอการเมืองเฝ้าจับตาสนามภาคใต้อย่างใกล้ชิด ต่างลุ้นกันว่า “ปรากฏการณ์ธนาธร” จะสร้าง “เสาไฟฟ้า” ยุคดิจิทัล ขึ้นมาได้หรือไม่? และจะถึงกาลอวสานของ “เสาไฟฟ้า” ยุคอนาล็อก ใช่หรือไม่?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง