คอลัมนิสต์

ขอคนไทยร่วมดับใต้ด้วยนโยบายของพรรค 'วันมูหะมัดนอร์ มะทา'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...   ทีมข่าวการเมือง เครือเนชั่น

 

         

          “พรรคประชาชาติ” ที่นำโดย "วันมูหะมัดนอร์ มะทา” คนการเมืองที่ผ่านประสบการณ์มาหลายสิบปีและหลากตำแหน่งหลักในสนามการเมือง วันนี้นำทัพประชาชาติขอปักธง ส.ส. ที่แม้ว่าพรรคนี้จะมีฐานหลักในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่หัวหน้าพรรคคนนี้ยังหวังที่จะได้ ส.ส.ในหลายเขตและปาร์ตี้ลิสต์

 

 

          หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวกับเครือเนชั่นว่า “ผมอายุ 74 ปี ยังแข็งแรงมีกำลังใจ บางคนถามว่าทำไมไม่พัก วันนี้ผู้นำมาเลเซียอายุ 94 ปียังชนะเลือกตั้ง ผมพร้อมเสนอตัวเป็นนายกฯ ในบัญชีของพรรคที่มีสามคน (วันมูหะมัดนอร์ นับถือศาสนาอิสลาม, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคนับถือศาสนาพุทธ, ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม รองหัวหน้าพรรคนับถือศาสนาคริสต์) ตรงนี้คือจุดขายของพรรคที่เน้นพหุสังคม”


          พรรคนี้คือพรรคของคนไทยทุกคน ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ทุกภูมิภาคมาร่วมงาน พรรคของเราส่ง ส.ส.เขต 200 กว่าคน นับถือศาสนาอิสลาม 25 คน ที่เหลือนับถือศาสนาต่างๆ ตรงนี้ยืนยันว่า พรรคนี้คือพรรคของทุกคน

 

 

ขอคนไทยร่วมดับใต้ด้วยนโยบายของพรรค 'วันมูหะมัดนอร์ มะทา' "วันมูหะมัดนอร์ มะทา”

 

 

          ส่วนที่บางฝ่ายมองว่าประชาชาติคือสาขาของพรรคเพื่อไทยที่แยกตัวออกมาสร้างจุดขายใหม่ โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ หัวหน้าพรรคประชาชาติกล่าวยืนยันพรรคประชาชาติไม่ใช่สาขาของพรรคเพื่อไทย พรรคนี้เกิดจากชาวบ้านที่เสนอว่าควรสร้างพรรคใหม่จากกติกาใหม่เพื่อแก้ปัญหาของสังคมและจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนั้นมีการทำโพลล์ในพื้นที่ พบว่าชาวบ้านสนับสนุนจึงเดินหน้า 


 


          ส่วนคีย์แมนพรรคที่ถูกมองว่าย้ายมาจากพรรคเพื่อไทยกันเยอะนั้น หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า "ขอเรียนว่าต้องนำคนที่มีอุดมการณ์และรู้จักกันมาก่อน ตรงนี้มีร้อยละ 20 ที่ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย จากนั้นก็มีมาจากหลายพรรคและหลายภาคส่วนมาร่วมงานกับพรรค”


          “ส่วนที่บางฝ่ายมองว่าพรรคเกี่ยวพันกับพรรคเพื่อไทย จึงต้องแยกพรรคออกมา เพราะคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เอาพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่จริงเพราะโพลล์ท่ี่พรรคทำไว้พบว่าคนชื่นชอบพรรคและแกนนำก็มี ชื่นชอบพรรคอื่นก็มี ไม่ใช่ว่าไม่เอานายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แม้เลือกตั้งครั้งล่าสุด พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งเกือบหมดในพื้นที่ จนกลุ่มวาดะห์ที่ตอนนั้นยังอยู่พรรคเพื่อไทยสอบตก บางคนบอกว่าชาวบ้านสั่งสอนพวกเรา เพราะแก้ปัญหาความไม่สงบแบบผิดพลาด ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับมุมมอง แต่ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้น พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล (การปล้นปืนในปี 2547) แต่ข้อเท็จจริงนั้นปัญหาความไม่สงบในพื้นที่มีมานับร้อยปี เพราะปี 2536 ก็มีการเผาโรงเรียนจำนวนมาก ตอนนั้นพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล สถานการณ์ในภาคใต้มันสะสมหลายยุค มันเป็นหน้าที่ของทุกคนและพรรคประชาชาติต้องช่วยแก้ไข”

 

ขอคนไทยร่วมดับใต้ด้วยนโยบายของพรรค 'วันมูหะมัดนอร์ มะทา'

 


          ส่วนแนวทางการแก้ปัญหานี้ หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า "ทุกยุคนั้นมีปัญหานี้มาตลอด ช่วงที่ผมเคยร่วมรัฐบาลนั้น การแก้ไขยังไม่ลุล่วง แนวทางแก้ไขนั้น เราต้องเปลี่ยนวิธี เราควรนำประชาชนทุกศาสนาและทุกชาติพันธุ์เป็นศูนย์กลางแก้ไขร่วมกับภาครัฐ เพราะไม่มีใครรู้ปัญหาดีเท่าคนในพื้นที่ ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น หากรอคนอื่นมาแก้ไข ไม่มีทางสำเร็จ ตรงนี้ต้องเปลี่ยนวิธีแก้ไข เพราะที่ผ่านมาใช้ส่วนราชการเป็นศูนย์กลางแก้ไข


          ตอนที่ผมอยู่ในรัฐบาลไทยรักไทยนั้น แนวทางแก้ปัญหาในตอนนั้น หลายฝ่ายไม่รับฟังแนวทางผมที่เสนอไปคือ ควรฟังคนในพื้นที่ และที่ประชุมตอนนั้นไปใช้วิธีอื่น คือรับฟังวิธีของส่วนกลางมากกว่า เมื่อเป็นแบบนั้นผมก็ปล่อย เพราะตอนนั้นเหมือนผมมีเสียงเดียวและอาจรวมถึง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่เสนอแนวทางเหมือนผมแต่ก็ไม่มีใครฟัง วันนั้นหากเดินพลาดไปแล้ว วันนี้จะใช้แนวทางที่ผมเสนอไปก็ได้ วันนั้นใครบางคนมองเป็นปัญหาเล็กๆ เป็นปัญหาในพื้นที่ แต่วันนี้มันเป็นปัญหาของประเทศ และอาจลามเป็นปัญหาของอาเซียนได้ หากใครเป็นนายกฯ และฝ่ายความมั่นคงควรรับฟังแนวคิดของผม 


          เชื่อว่าคนไทยอยากให้สถานการณ์สงบ ผมคิดว่าเมื่อทุกคนมีเป้าตรงกัน ต้องระดมกำลังมาร่วมกัน พรรคศึกษาข้อมูลนี้มาละเอียด เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะรับฟังแนวทางของพรรค วันนี้ผมหวังว่าจะได้ 25 ส.ส.และน่าจะได้ร่วมรัฐบาล หรืออย่างน้อยได้เข้ารัฐสภา พรรคจะได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว"

 

 

 

ขอคนไทยร่วมดับใต้ด้วยนโยบายของพรรค 'วันมูหะมัดนอร์ มะทา'

 


          หากถามว่าการแก้ไขความไม่สงบใน 6 รัฐบาลนั้นถูกทางแล้วหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาชาติ บอกว่า “6 รัฐบาลที่ผ่านมาแก้ปัญหาถูกบางส่วนแต่ยังรักษาไม่ถูกจุดที่หัวใจคือ นำประชาชนในพื้นที่เป็นหลักในการแก้ไขและได้รับประโยชน์ด้วย”


          วันนอร์ กล่าวถึงจุดยืนของพรรคว่า “พรรคนี้สนับสนุนประชาธิปไตย แต่ คสช.มาจากการยึดอำนาจ ผมไม่สามารถจำแนกว่าพรรคพลังประชารัฐอยู่ฝ่ายใดระหว่างฝ่ายเผด็จการหรือฝ่ายประชาธิปไตย ผมมองว่าไม่ควรใช้คำว่าเผด็จการไว้ประณามใคร วันนี้จะมีการเลือกตั้งแล้ว ควรดูที่พฤติกรรมที่ฝ่ายนั้นๆ กระทำ ชาวบ้านจะตัดสินใจเองว่าพรรคนั้นๆหนุนแนวทางใด”


          "หากถามว่าถ้าพรรคพลังประชารัฐมาชวนร่วมรัฐบาล โดยเสนอชื่อ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรืออุตตม สาวนายน เป็นนายกฯ พรรคอาจจะพิจารณา แต่หากเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคขอปฏิเสธ” หัวหน้าพรรคประชาชาติระบุ


          ส่วนนโยบายของพรรคที่จะใช้หาเสียง หัวหน้าพรรคประชาชาติ บอกว่า “พรรคมีนโยบายพหุวัฒนธรรม และการศึกษาเป็นจุดขาย ให้ทุกคนในชาติมีพลังและรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ สามคนของพรรคที่มีชื่อเป็นแคนดิเตตนายกฯ มีประสบการณ์ต่างกัน ผมทำงานการเมืองมานาน, เลขาธิการพรรคก็ทำงานด้านความมั่นคง (อดีตเลขาธิการศอ.บต., อดีตอธิบดีดีเอสไอ), รองหัวหน้าพรรคเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถทางการบริหารการศึกษา”


          "อีกเรื่องหนึ่ง คือ ปากท้องอิ่ม มีรายได้จากสินค้าเกษตรคือยางพารา โดยให้ภาครัฐดูแลและไม่ปล่อยให้เสือยางพารามาคุม เพราะสามชาติที่ปลูกยางพาราคือไทย อินโดฯ มาเลเซียนั้นผมคุยประสานงานได้ รวมทั้งราคาปาล์มที่วันนี้ตกต่ำด้วย วันนี้คนไทยร้อยละ 70 เป็นเกษตรกร สินค้าเกษตรคือสมบัติของชาติ แต่กลับไม่ให้ความสำคัญกับเกษตรกร ตรงนี้พบว่าไม่ให้ความสำคัญกับพวกเขาแต่กลับไปมุ่งเน้นการส่งออก หลายชาตินั้นคนรวยคือเกษตรกร ฉะนั้นพรรคจะดูแลเกษตรกรให้ดีขึ้น และให้มีสถาบันการศึกษาแบบนานาชาติที่มีคุณภาพให้มีนักศึกษาไทยและนานาชาติมาเรียน ตรงนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ แต่ไม่ทิ้งอัตลักษณ์ของพื้นที่”


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ