คอลัมนิสต์

คนที่ไม่เหมือนเดิม?? สุเทพ - ประยุทธ์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คนที่ไม่เหมือนเดิม?? สุเทพ - ประยุทธ์

 

                หลายคนคงจับอาการ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ว่าวันนี้ดูเหมือนความรู้สึกของเขาที่มีต่อ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เหมือนเดิมซะแล้ว ขณะที่บางคนก็อาจจะรู้ว่าวันนี้ สายตา “ฝ่ายลุงตู่” ก็มอง “สุเทพ” เปลี่ยนไปเช่นกัน

                หลายคนคงยังจำได้ถึงเหตุการณ์ชุมนุมเรียกร้องของ กปปส.ที่นำโดย “ลุงกำนัน” เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้วได้ ซึ่ง “ลุงกำนัน” ไม่สามารถเอาชนะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ จนสุดท้าย “ลุงตู่” ในฐานะ ผบ.ทบ.ขณะนั้นต้องนำคณะเข้ามายึดอำนาจจากรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

                บางคนน่าจะยังจำคำพูดของ “ลุงกำนัน” จากงาน “กินข้าวกับลุงกำนัน” เพื่อระดมทุนช่วยเหลือ กปปส. ที่บาดเจ็บระหว่างการชุมนุม ที่เป็นข่าวออกมาในช่วงเดือนมิถุนายน 2557 ได้ว่า ลุงกำนันบอกกับคนที่มาร่วมงานว่า ในช่วงชุมนุม กปปส.เขาคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านไลน์ ก่อนประกาศกฎอัยการศึก พล.อ.ประยุทธ์ บอกกับสุเทพว่า “คุณกับมวลมหาประชาชน กปปส.เหนื่อยมามากแล้ว จากนี้เป็นหน้าที่ของกองทัพบกในการเข้ามาดูแลแทนเอง”

                และยังบอกด้วยว่าเขาปรึกษาหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่เหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองปี 2553 ในการกำจัด “ระบอบทักษิณ"

                แน่นอนเมื่อข้อความดังกล่าวไม่เป็นผลดีกับ พล.อ.ประยุทธ์ และฝ่าย คสช. ก็ออกมาปฏิเสธ

                หลังจากนั้นงาน “กินข้าวกับลุงกำนัน” ที่เดิมสุเทพบอกว่าจะจัดทุกวันเสาร์ก็ต้องยุติไป และมีการรักษาระยะห่างระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ สุเทพ อย่างชัดเจน

                ต่อมา 15 กรกฎาคม 2557 สุเทพ ได้ไปบวชและสึกออกมาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2558 รวมระยะเวลาบวชไป 1 ปี 13 วัน

                ปลายปี 2560 สุเทพ เริ่มกลับสู่แวดวงการเมืองอีกครั้ง หลังเคยประกาศว่าจะไม่เล่นการเมืองและไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง

                การขยับทางการเมืองครั้งแรกของสุเทพ คือ การยื่นหนังสือลงวันที่ 8 ธันวาคม 2560 เสนอแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองต่อ สนช. ในนามเลขาธิการ กปปส. จากก่อนหน้านี้เขาจะทำกิจกรรมต่างๆ ในนาม “ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย”

 

คนที่ไม่เหมือนเดิม?? สุเทพ - ประยุทธ์

(อ่านต่อ...เปิดจม. 'สุเทพ' เสนอแก้ กม.พรรคการเมือง ในนาม กปปส.)

 

                การกลับมาครั้งนั้นของสุเทพ กลับมาท่ามกลางข่าว กลุ่มสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อดันลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ควบคู่ไปกับข่าวที่ว่าสุเทพก็จะตั้งพรรคเช่นกัน

                หลังจากนั้นการเข้าสู่การเมืองอีกครั้งของสุเทพก็เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการตั้งพรรคขึ้นมา

                หลายคนคงยังจำภาพสุเทพหลั่งน้ำตาในวันเปิดตัวพรรคได้ พร้อมโดนวิจารณ์ “ตระบัดสัตย์” แต่เขาก็ยอม และประกาศไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรคและไม่ลงสมัคร ส.ส.

 

คนที่ไม่เหมือนเดิม?? สุเทพ - ประยุทธ์

 

                ในช่วงแรกของการกลับมาของสุเทพ ต้องถือว่าเป็นไปอย่างคึกคัก แทบทุกครั้งที่มีการให้สัมภาษณ์ สุเทพ ประกาศชัดเจนว่า “สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์” เมื่อตั้งพรรคแล้วสุเทพก็ประกาศอยู่หลายครั้งว่าพรรคของเขาจะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน

                แต่เมื่อเวลาผ่านไป และเมื่อมี “พรรคพลังประชารัฐ” ขึ้นมาจริงๆ ดูเหมือนคำตอบของสุเทพ เมื่อถูกถามว่ายังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ อยู่หรือไม่ เริ่มเปลี่ยนไป

                จากที่เคยบอกว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ระยะหลังสุเทพ บอกว่า นั่นเป็นความเห็นส่วนตัว แต่จากนี้ไปเป็นเรื่องของพรรค และต้องฟังเสียงประชาชน

 

คนที่ไม่เหมือนเดิม?? สุเทพ - ประยุทธ์

 

                มีข้อมูลจากฝั่งผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า สายตาของคนฝั่งนี้ก็มองสุเทพเปลี่ยนไปแล้ว

                “ตอนนี้เราจัดว่าพรรคคุณสุเทพอยู่ในกลุ่มพรรคที่ไม่แน่นอนแล้วว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ จากเดิมอยู่กลุ่มหนุน พล.อ.ประยุทธ์ พรรคที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ แน่นอนตอนนี้นับแค่พรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาชนปฏิรูปของคุณไพบูลย์ นิติตะวัน ฉะนั้น 2 พรรคจะต้องได้เสียงรวมกันเกิน 126 เสียง เพื่อไปรวมกับเสียง ส.ว. 250 คน แล้วทำให้อีกฝั่งตั้งรัฐบาลไม่ได้”แหล่งข่าวจากผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

                มีคนตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากน้ำเสียงของ “สุเทพ” เริ่มเปลี่ยนไป ก็เกิดกระแสเรื่องการตรวจสอบการก่อสร้างโรงพักตำรวจทั่วประเทศ ที่สุเทพถูกกล่าวหา ซึ่งสำนวนอยู่ที่ ป.ป.ช.กลับมาอีกครั้ง

                ล่าสุด กติกาการเลือกตั้งของ กกต.เกี่ยวกับเรื่องป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ก็ส่งผลกระทบกับสุเทพแบบเต็มๆ

 

คนที่ไม่เหมือนเดิม?? สุเทพ - ประยุทธ์

(อ่านต่อ...สกัด 'ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์' สะเทือน 'ชวน - สุเทพ' !!)

 

                ตามร่างระเบียบของ กกต. ให้บุคคลเพียง 3 ประเภทอยู่ในป้ายหาเสียง 1.ผู้สมัคร ส.ส. 2.หัวหน้าพรรค 3.ผู้ที่จะอยู่ในบัญชีนายกฯ ของพรรค

                ตอนนี้มีเสียงเรียกร้องให้ กกต.ผ่อนคลายระเบียบส่วนนี้ใหม่

                เสียงเรียกร้องแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกขอเพิ่มอีกนิด คือให้เปิดให้ผู้สมัคร ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์อยู่ในป้ายหาเสียงได้ด้วย อีกกลุ่มขอมากกว่ากลุ่มแรก คือ หากเป็นสมาชิกพรรคก็อยู่ในป้ายหาเสียงได้ กรณีนี้ถ้าได้สุเทพก็ได้ด้วย

                มีการวิเคราะห์ว่าระเบียบนี้เปิดทางให้ “บิ๊กตู่” มาอยู่ในป้ายหาเสียงได้ ทั้งที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค เพราะจะอยู่ในกลุ่มผู้อยู่ในบัญชีนายกฯ ของพรรค

                ถามว่าหาก กกต.ยอมแก้ระเบียบตามเสียงเรียกร้อง ใครจะได้บ้าง ถ้าแก้ระดับแรกแทบทุกพรรคได้ รวมทั้งพรรคฝ่ายทักษิณ เพราะตอนนี้หัวหน้าพรรคเป็นพวกที่ไม่ค่อยโดดเด่น มีคำถามว่าหากแก้ให้ฝ่ายเพื่อไทยได้ประโยชน์ด้วย จะมีการแก้ไหม

                ส่วนแก้ระดับสอง เปิดกว้างให้สมาชิกทั้งหมด อันนี้สุเทพน่าจะได้ด้วย แต่ดูแล้วก็ยาก

                ตอนนี้สุเทพยังอยู่กับภารกิจนำทัพพรรครวมพลังประชาชาติไทยเดินคารวะแผ่นดิน หลังจากเริ่มลงพื้นที่วันแรกเมื่อ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีเป้าหมายเดินให้ครบทุกภูมิภาคภายในเดือนมกราคมนี้ ตอนนี้ยังเหลือพื้นที่อีสานตอนบน ภาคเหนือ และภาคกลางบางส่วน

                แม้จะเจอ “ก้อนอิฐ” ระหว่างการลงพื้นที่บ้าง แต่ทางพรรคยังประเมินว่าการลงพื้นที่พบปะประชาชนเป็นผลบวกมากกว่า ดังนั้นจึงจะเดินหน้าต่อไปให้ครบทุกพื้นที่

                “การลงพื้นที่ทำให้ประชาชนรู้จักเรามากขึ้น มากกว่าแค่รู้จักผ่านสื่อ และดีกว่าไปลงพื้นที่ตอนใกล้ๆ เลือกตั้ง เพราะตอนนั้นทุกพรรคก็จะไปเหมือนกัน การลงพื้นที่ตอนนี้ประชาชนจะจดจำได้มากกว่า” แหล่งข่าวจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยกล่าว ทั้งนี้จุดในการลงพื้นที่จะเน้นที่ตลาด ร้านค้า ห้องแถว ย่านเศรษฐกิจของชุมชน

                ย้อนความหลังอีกหน่อย มีข้อมูลว่าก่อน “สุเทพ” จะตัดสินใจตั้งพรรค มีการหมายมั่นว่าจะใช้ “พรรคประชาธิปัตย์” เป็นกลไกหลักในการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาอีกครั้ง แต่ “ดีล” ไม่ลงตัว จึงต้องคิดตั้งพรรคขึ้นมาใหม่

                เมื่อคิดตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ มีข้อมูลว่าทั้ง “สุเทพ” และ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ต่างก็ต้องการเป็นคนทำพรรค ช่วงแรก “ผู้ใหญ่ใน คสช.” พยายามเจรจาให้ทั้งสองมาทำร่วมกันแต่ “ดีล” ไม่ลงตัว ติดปัญหาว่าใครจะเป็นผู้นำ สุดท้ายจึงออกมาเป็น 2 พรรค

                แม้ “สมคิด” จะยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ด้วยความที่ 4 รัฐมนตรีที่ไปเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ล้วนเป็นคนใกล้ชิดสมคิด จึงทำให้ปฏิเสธได้ยาก

                บวกกับ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” แกนนำคนสำคัญของพรรคพลังประชารัฐเป็นคนออกมาพูดเองว่ามาทำพรรคนี้เพราะสมคิดขอ ก็ยิ่งทำให้คำยืนยันของสมคิดมีน้ำหนักน้อยลงไปอีก

                วันนี้ “สมคิด” เก็บตัวเงียบ รักษาระยะห่างกับพรรคพลังประชารัฐ

                ในช่วงแรกของการตั้งพรรค “สุเทพ” พยายามที่จะดึง พล.อ.ประยุทธ์ มาอยู่ในบัญชีนายกฯ ของพรรค แต่เขาก็ทำไม่สำเร็จ และเมื่อพรรคพลังประชารัฐใช้ “พลังดูด” อดีตนักการเมืองเข้ามาอยู่ในพรรค จนมีการมองว่าพรรคนี้มีสิทธิได้ ส.ส.ถึงหลักร้อย “ราคา” ของพรรคลุงกำนันก็ยิ่งลดลงไป

 

คนที่ไม่เหมือนเดิม?? สุเทพ - ประยุทธ์

(อ่านต่อ...ศึกชิงนาง? สุเทพ - สมคิด เปิดศึก ชิง "ประยุทธ์")

                ก็ตาม แม้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของสุเทพ จะค่อนข้างลำบาก แต่สุเทพก็สั่งห้ามคนในพรรคออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. รวมไปถึงพรรคพลังประชารัฐ 

                คนในพรรครวมพลังประชาชาติไทยจึงอยู่ในภาวะ “น้ำท่วมปาก” พูดมากไม่ได้

                สำหรับ “สุเทพ” เอง ตอนนี้ก็มีสภาพเหมือนต้องยอม “กลืนเลือด”

                ไม่แน่ “สุเทพ” อาจจะเป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่รอเวลาเหมาะๆ เพื่อ “เอาคืน” พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้

 

คนที่ไม่เหมือนเดิม?? สุเทพ - ประยุทธ์

====================

โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์

 

ดูคลิป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ