คอลัมนิสต์

"เพื่อไทย" ปรับลุค "แม่ทัพหญิง "ลั่นกลองรบ !ปล่อยทัพหลวง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เพื่อไทย" ปรับลุค "แม่ทัพหญิง "ลั่นกลองรบ !ปล่อยทัพหลวง : คอลัมน์...  ขยายปมร้อน  โดย....  โอฬาร เลิศรัตนดำรงกุล


 

          ผ่านไปแล้วสำหรับการเลือกกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม แต่เมื่อไล่เรียงจากรายชื่อกรรมการบริหารพรรคแล้ว ก็ไม่มีอะไรตื่นเต้นมากนัก เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นหน้าเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเท่าที่ควร ประมาณว่าจากรักษาการมาเป็นเต็มตัวตั้งแต่หัวหน้าพรรค พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เลขาธิการพรรค ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นต้น

 

 

          สิ่งที่ทุกคนต่างจับตามองน่าจะเป็นการแต่งตั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้คาดกันว่าจะมานั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคอย่างแน่นอน แต่โค้งสุดท้ายหลังกระแสยุบพรรคหนาหูขึ้นทุกทีจึงมีการปรับยุทธศาสตร์กันใหม่หลังจากที่บินกลับมาจากการขอคำปรึกษาจากนายใหญ่เเห่งดูไบ


          ในที่สุดก็ลงตัวที่แต่งตั้งให้คุณหญิงสุดารัตน์ เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เลือกตั้ง ซึ่งไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคและหากดูจากตำแหน่งแล้วก็ชัดเจนแล้วว่า คุณหญิงหน่อยคนถือธงนำลงพื้นที่หาเสียง


          เมื่อได้แม่ทัพเต็มตัวแล้ว ได้เวลาปล่อยทัพ หลังจากที่ปล่อยฝ่ายตรงข้ามลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่โดยใช้เหตุผลการหาเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรค เเละย้ำว่าไม่ใช่การหาเสียงเลือกตั้งใหญ่แต่ดูแล้วลีลาก็ไม่ต่างกัน


          หรือพรรคร่วมพลังประชาชาติไทย ของกำนันสุเทพ เทพสุบรรณ ที่เดินสายลงพื้นที่ต่างๆ มาทั่วแล้ว จบกลับมาตรวจเรตติ้งด้วยการเดินคารวะแผ่นดินที่ให้เหตุผลว่าลงไปรับสมาชิกพรรคไมได้หาเสียงและขัดคำสั่งคสช.

 

          ตอนแรกพรรคเพื่อไทยมีข่าวว่าจะยังไม่ลงพื้นที่เดินสายรับสมาชิกพรรค แต่จะเดินสายเปิดสาขาพรรคให้ครบทั้ง 4 ภาคก่อน เพราะขณะนี้ได้เปิดไปแล้ว 2 สาขา คือ ภาคอีสาน จ.อุดรธานี และภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ซึ่งยังขาดอีกสองภาค คือ ภาคกลาง ที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งจะไปเปิดในสัปดาห์นี้ และสุดท้ายภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช ที่จะไปเปิดในสัปดาห์หน้า


 


          แต่เมื่อมีแม่ทัพคนใหม่ก็ต้องมีเหล่าบรรดาขุนพล ขุนศึก หัวหมู่ทะลวงฟันช่วยรบ จึงมีการแต่งตัวประธานผู้ประสานในภาคต่างๆ ขึ้นมา หรือเรียกง่ายๆ คือประสานภาค ไว้ค่อยประสานงานเหล่าบรรดาอดีตส.ส.ในแต่ละภาคหรือช่วยคัดสรรผู้สมัครอีกทางหนึ่ง โดยมี 4 ขุนศึก แบ่งได้ดังนี้ ประธานภาคเหนือ นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานภาคกลาง นายวิทยา บุรณสิริ ประธานภาคอีสาน นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ ประธานภาคใต้ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์


          หลังจากนี้จะมีการจัดทัพลงพื้นที่ภาคต่างๆ โดยจะแบ่งภาคละประมาณ 3-4 จังหวัดต่อครั้ง ซึ่งการแบ่งเป็น 5-6 ทัพ โดยมีทัพหลวง นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ จะพยายามลงพื้นที่ให้ได้มากที่สุด


          และในส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นแกนนำของพรรค สลับกันลงพื้นที่สัปดาห์ละ 4 วัน คือ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ ในช่วงแรกตั้งเป้าเอาไว้ 1 เดือน เพื่อที่จะได้ตัวแทนสาขาพรรคครบ 76 จังหวัด เพื่อจะได้ส่งส.ส.ได้ครบ 350 เขต


          เมื่อไม่กี่วันก่อนพรรคเปิดตัวแม่ทัพหญิงลงสนามเป็นครั้งแรก “คุณหญิงหน่อย” ได้หอบแกนนำพรรคส่วนหนึ่งพร้อมอดีตส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ของพรรค ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชนและเดินสายรับสมัครสมาชิกพรรคที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นประตูสู่ภาคอีสานและยังเป็นจังหวัดที่มีจำนวนส.ส.เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากกทม. 


          และเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่ต้องใช้คุณหญิงสุดารัตน์ทำในนามประธานคณะยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากคุณหญิงสุดารัตน์ จะเข้ามาเป็น 1 ใน 3 รายชื่อแคนดิเดตนายกฯ คุณหญิงสุดารัตน์ ก็ต้องมีการปรับภาพลักษณ์!


          ต้องอย่าลืมว่าเดิมคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นภาพที่ถูกมองจากคนรอบข้างว่ามีความเข้าถึงได้ยาก เป็นอดีตส.ส.กทม. มีฐานเสียงอยู่เฉพาะในพื้นที่กทม.เข้าใจแต่คนกทม.จะมีความติดดินเข้าใจหัวอกคนต่างจังหวัดหรือไม่ จึงต้องมีการปรับภาพลักษณ์ให้เป็นที่ยอมของประชาชนในวงกว้างมากขึ้น


          จ.นครราชสีมา คือบ้านของนายสมพล เกยุราพันธุ์ ซึ่งเป็นบิดาของคุณหญิงสุดารัตน์ และยังเคยเป็นส.ส.นครราชสีมา ในนามอิสระเมื่อการเลือกตั้งปี 2512 มาก่อน จุดนี้จึงสามารถทำให้ภาพของคุณหญิงสุดารัตน์ สามารถพูดได้ว่าเป็น “ลูกอีสาน หลานย่าโม” อย่างเต็มตัว

 

          จากภาพการลงพื้นก็จะเห็นว่าคุณหญิงสุดารัตน์ มีการปรับภาพลักษณ์ บุคลิก การแต่งตัว การพูดคุย ให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย เดินตลาดสด นั่งกินอาหารในตลาดสดได้ เข้าถึงประชาชน ซึ่งก็เชื่อว่าจะได้เห็นภาพในลักษณ์แบบนี้ในทุกจังหวัดในทุกพื้นที่ที่ทัพหลวงมีการลงพื้นที่ 

 

          หลังจากนี้ก็ต้องมาจับตาดูกันว่า การลงพื้นที่แต่ละครั้งของทัพเพื่อไทย จะมีสีสันหรือมีลูกเล่นเพื่อเรียกคะแนนบ้าง แต่ที่สำคัญแว่วๆ มาว่า เมื่อปลดล็อกพรรคการเมืองอย่างเต็มตัว จะมีแคมเปญทีเด็ด ซึ่งจะเป็นไม้ตายในการชูหาเสียงและเป็นหมัดน็อกทำให้เพื่อไทยชนะเลือกตั้งอย่างแน่นอน...

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ