คอลัมนิสต์

หัวหน้าเพื่อไทยไม่สำคัญเท่าชินวัตร กดปุ่ม!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หัวหน้าเพื่อไทยไม่สำคัญเท่าชินวัตร กดปุ่ม! : คอลัมน์... กวาดบ้านกวาดเมือง โดย... ลมใต้ปีก


 

          การเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ที่ได้ผู้รักษาการคนเดิม อย่าง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ มานั่งเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งภายในจากกลุ่มต่างๆ ภายในพรรค หรือการจะมีการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ที่หมายถึงชื่อผู้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต ที่ปรากฏชื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ , จาตุรนต์ ฉายแสง และชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อาจจะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อ แต่ไม่มีชื่อสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี (นอกทำเนียบ) อยู่ด้วยก็ชัดเจนว่ากลุ่มของเจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ (น้องสาวทักษิณ ชินวัตร อีกคน) คงไปตั้งมั่นที่พรรคเพื่อธรรมเป็นสำคัญ แต่ชื่อเหล่านั้นไม่สำคัญเท่ากับพรรคเพื่อไทยและพรรคเครือข่ายหาได้หลุดพ้นจากการบงการของ ทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวไม่


 

          การเลือกหัวหน้าพรรคเป็นเพียงพิธีกรรมทางการเมืองอย่างหนึ่งเท่านั้น เพราะใครต่างก็รู้ว่าพรรคนี้ “มีเจ้าของ” หาใช่การที่สามารถตัดสินใจอย่างอิสระได้ไม่ ต่อไปนี้พรรคเก่า คนเก่าของเพื่อไทยจะเดินหน้าเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างแท้จริงหลังถูกยึดอำนาจมาร่วม 5 ปี

 

          แต่หนทางบนถนนเลือกตั้งครั้งนี้ของเพื่อไทยไม่ง่ายเหมือนก่อน เพราะรัฐธรรมนูญใหม่ การเลือกตั้งระบบใหม่ อำนาจรัฐที่เป็นปฏิปักษ์กับขั้วทักษิณอย่างชัดแจ้ง จึงทำให้ “การทำงานด้านการเลือกตั้ง” ของเพื่อไทยลำบากกว่า 3-4 ครั้งที่ผ่านมา

 

          แน่นอนการเดินหมากเกมการบริหารประเทศและการเมืองที่ "พลาด” และเข้าทางฝั่งตรงข้ามของรัฐบาล คสช. เช่นกระบวนการทางการเมืองในการสืบทอดอำนาจที่ “ไม่เนียน” หรือกรณีการจัดการกับ “เพลงแร็พ ประเทศกูมี” อย่างไม่ชาญฉลาด” ทำให้คะแนนนิยม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่ำลง ล่าสุดนิด้าโพล เปิดผลสำรวจประชาชนกว่าร้อยละ 50 ไม่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำงานทางการเมืองต่อในสมัยหน้า

 

          แต่บนจังหวะที่ก้าวพลาดของ คสช. พรรคเพื่อไทยก็ยังก้าวพลาดกว่า ทั้งเรื่องการยินยอมให้ทักษิณและครอบครัวบงการทางการเมือง ที่อาจจะเข้าข่ายผิดมาตรา 28 และ 29 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งมีโทษสูงถึงยุบพรรค รวมทั้งการจัดกระบวนทัพที่มีเสียงเล็ดลอดจะผลักดัน “ลูกโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ขึ้นเป็นรองหัวหน้าพรรคและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เสียเลย


          ความจริงหาก “โอ๊ค” พานทองแท้ เป็นเด็กหนุ่มทั่วไปที่ไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามสำหรับการเลือกตั้งจะเข้ามาเล่นการเมืองก็ควรต้อนรับอย่างดียิ่ง แต่การที่เป็นลูกชายของอดีตนายกรัฐมนตรีหนีคดี และหลานอาของอดีตนายกรัฐมนตรีหนีคดี ซึ่งทั้งสองอดีตนายกรัฐมนตรีที่หนีคดีนี้ล้วนคือพี่น้องตระกูลชินวัตร การที่คนในครอบครัวชินวัตร ยังคิดปักธงในการเมืองอีกจึงมีคำถามเรื่องความ “สง่างาม”

 

          ความจริงถ้า “โอ๊ค” ลงมาอยู่เป็นบุคคลสาธารณะ ในแวดวงการเมืองก็น่าจะดี เพราะจะได้มีผู้ช่วยตรวจสอบประวัติ ย้อนหลัง ตั้งแต่การร่ำเรียนในมหาวิทยาลัย การใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่น และการทำธุรกิจ จนกระทั่งการตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ที่เกี่ยวเนื่องกับการกู้เงินธนาคารกรุงไทยของกลุ่มกฤษดามหานคร และประวัติเหล่านี้คงออกมายาวเหยียด จึงอยากให้ “โอ๊ค” ประกาศตัว (จริงๆ)

 

          ทั้งหมดที่ว่าไว้ ไม่ว่าเพื่อไทยและพรรคเครือข่ายจะตัดกระบวนทัพ จัดคนลงในพรรคไหนก็แล้วแต่ แต่การจัดกระบวนทัพที่ออกมานั้นไม่สำคัญใดๆ เลย ตราบใดที่เพื่อไทยและพรรคเครือข่ายไม่สามารถ “สลัดพ้นจากการครอบงำของคนจากชินวัตร” เล่นการเมืองต่อไปก็หามีประโยชน์ไม่ หากทำการเมืองโดยมีจิตสำนึก “ทดแทนคุณแผ่นดิน” น้อยกว่าทดแทนคุณ ทักษิณ ชินวัตร


          จงก้าวให้ข้าม “ชินวัตร” ก่อนคิดประกาศนโยบายสาธารณะรับใช้ประชาชน
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ