คอลัมนิสต์

'ไทม์ไลน์'ไขคดีฆ่านายจ้างอำมหิต 3เดือนปิดจ๊อบ.!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ไทม์ไลน์'ไขคดีฆ่านายจ้างอำมหิต 3 เดือนปิดจ๊อบ.! : รายงาน  โดย...  กัมปนาท ละออง


 

          ปิดฉากไปแล้วสำหรับคดีลึกลับแต่ไม่ซับซ้อน ในการสังหารโหด นายนวพงศ์ สัจธรรมภิวัตน์ อายุ 56 ปี เจ้าของไร่แห่ง อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งท้ายที่สุดก็ไม่ใช่ฝีมือใครที่ไหน หากแต่เป็น “ลูกน้องคนสนิท” กับ “เมียสุดเลิฟ” ของผู้ตายเอง ได้ร่วมกันวางแผนฆ่าอำมหิต ! ก่อนปิดบังอำพรางให้เป็นเงื่อนงำนานกว่า 3 ปี โดยคิดว่าจะไม่มีใครสามารถเปิดโปงพฤติกรรมชั่วร้ายครั้งนี้ได้ แต่ตำรวจกองปราบฯ “ปิดจ๊อบ” ได้ใน 3 เดือนหลังรับเรื่องร้องทุกข์จากลูกในไส้

          การไขคดี “อำมหิต” ครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2561 เนื่องจาก นายภิเษก สัจธรรมภิวัตน์ อายุ 21 ปี ลูกชายคนกลางของผู้ตาย ได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อทวงความเป็นธรรมให้แก่ผู้เป็นพ่อ ที่หายตัวลึกลับไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558 ทั้งที่ลูกชายคนนี้รู้ดีว่า นี่ไม่ใช่การหายไปแบบธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เขาทราบดีกว่า นายภูผาทอง ผาทองภูมิ หรือ ใหญ่ อายุ 36 ปี หัวหน้าคนงานในไร่ของพ่อตัวเอง จะต้องเป็นผู้วางแผนทั้งหมด 

 

'ไทม์ไลน์'ไขคดีฆ่านายจ้างอำมหิต 3เดือนปิดจ๊อบ.!

 

          เหตุไฉนลูกชายคนกลางของ นายนวพงศ์ ถึงปักใจเชื่อว่าการหายตัวไปของพ่อต้องเป็นฝีมือ นายภูผาทอง ลูกน้องคนสนิทที่ไว้ใจให้เป็นหัวหน้าคนงานในไร่ นั่นเพราะเขารู้อยู่แกใจว่า ลูกน้องของพ่อคนนี้ “ลอบเล่นชู้” กับ นางสุภัชญา ศิริสุข หรือ เอียด วัย 47 ปี ซึ่งเป็นแม่ของเขาเอง ตลอดจนการหวังครอบครองสมบัติที่ดินหลายแปลง ซึ่งมีมูลค่าหลายสิบล้านบาท

          นายภิเษก เล่าเรื่องราวความน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของฆาตกรรมอำพรางเกี่ยวกับตัว นายภูผาทอง ให้แก่หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีอย่าง พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. ว่า เมื่อปี 2555 นายภูผาทอง ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ในฐานะคนงานในไร่ หลังจากสึกจากการเป็นพระลูกวัดถ้ำมะเดื่อ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยขณะที่ นายภูผาทองยังเป็นพระอยู่นั้น ได้มาบิณฑบาตที่หน้าบ้านอยู่เป็นประจำ จากรูปลักษณ์ภายนอกรวมถึงคำพูดคำจาเป็นที่น่าเลื่อมใส ทำให้พ่อกับแม่ศรัทธาอยู่ไม่น้อย 

 

'ไทม์ไลน์'ไขคดีฆ่านายจ้างอำมหิต 3เดือนปิดจ๊อบ.!

 

 

          “ภายในระยะเวลา 1 ปี ที่นายใหญ่เข้ามาทำงาน เขาเริ่มมีความสนิทสนมกับแม่ของผมจนผิดสังเกต จากนั้นไม่นานจึงรู้ว่าแม่กลายเป็นเมียของนายใหญ่ โดยที่พ่อยังไม่รู้เรื่องราวใดๆ แต่ความลับไม่มีในโลก ในที่สุดเรื่องก็แดง พอพ่อรู้เรื่องการเล่นชู้ระหว่างแม่กับนายใหญ่ จึงมีปากเสียงกับแม่และนายใหญ่ ก่อนจะไล่นายใหญ่ออกไปอยู่กระท่อมในไร่ แต่ยังไม่เฉลียวใจให้ทำงานในไร่ต่อไป หลังการทะเลาะกันครั้งนั้นแม่ก็ยังไม่หยุดความสัมพันธ์ เพราะยังคงลักลอบไปหานายใหญ่บ่อยครั้ง แถมยังให้ลูกทั้ง 3 คน ซึ่งรวมถึงผมด้วย รู้จักสนิทกับนายใหญ่ มิหนำซ้ำนายใหญ่พยายามใส่ร้ายพ่อว่าเป็นผู้ที่มีความฝักใฝ่ทางไสยศาสตร์มนต์ดำ เล่นคุณไสยใส่คนในบ้านจนเกิดอาการเจ็บป่วย ไม่สบายเนื้อสบายตัว ซึ่งเป็นการพูดย้ำอยู่ทุกๆ วัน จนทำให้แม่และคนรอบข้างเชื่ออย่างหมดใจ” นายภิเษก เล่าถึงที่มาที่ไป

 

'ไทม์ไลน์'ไขคดีฆ่านายจ้างอำมหิต 3เดือนปิดจ๊อบ.!

 

          นายภิเษก เล่าถึงจุดพีคที่น่าจะเป็นวันที่พ่อถูกสังหารอำพรางศพ ว่า การดำเนินชีวิตยังเป็นวังวนอยู่อย่างนั้นเรื่อยมา กระทั่งวันที่ 3 สิงหาคม 2558 พ่อหายไปอย่างไร้ร่องรอย พอสอบถามแม่ก็บอกแต่เพียงว่า พ่อตัดสินใจบวชเป็นพระในประเทศพม่า แทนที่การหายตัวไปของพ่อจะทำให้แม่เป็นห่วง กินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่กลับกัน แม่ไม่ทุกข์ร้อน ซ้ำร้ายยังได้คบหากับนายภูผาทองอย่างเปิดเผย จากนั้นก็ทยอยขายทรัพย์สินของพ่อจนหมด เงินที่ได้มาก็เอาไปซื้อที่ดิน กิจการแพแม่น้ำ โดยมีนายภูผาทองเป็นคนดำเนินกิจการทั้งหมด !

          ทันทีที่ตำรวจกองปราบฯ ได้ข้อมูลจากลูกชายผู้ตายก็ไม่รีรอ โดย พ.ต.อ.ภูมินทร์ ได้สั่งการด่วนให้ พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป พร้อมด้วย พ.ต.ต.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.5 บก.ป. และกำลังเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. ลงพื้นที่หาตัว นายภูผาทอง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง 

          แม้เหตุการณ์จะผ่านมานานกว่า 3 ปี ทว่าตำรวจยังเชื่อมั่นจะคลี่คลายคดีนี้ให้ได้ โดยยึดหลักสสารไม่มีวันหายไป มีแต่เปลี่ยนสภาพ จากนั้นรุ่งเช้าวันที่ 28 สิงหาคม 2561 พ.ต.ต.มนต์ชัย พร้อมกำลังตำรวจ กก.5 บก.ป. ตัดสินใจนั่งเรือมุ่งหน้าหมู่บ้านอีต่อง ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี หลังพบเบาะแสจากปากคำพยานแวดล้อมว่า นายภูผาทอง หรือใหญ่ ได้ไปเปิดกิจการแพท่องเที่ยวอยู่ที่นั่น การเดินทางเป็นไปค่อนข้างลำบาก เนื่องจากต้องนั่งเรือออกไปกลางแม่น้ำแควหลายสิบกิโล แต่ด้วยการข่าวที่แน่นอนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงสามารถเข้าควบคุมตัวนายภูผาทองคาแพพักของเจ้าตัว ซึ่งทันทีที่นายภูผาทองเห็นตำรวจก็ถึงกับตกใจ แต่ไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้ เพราะถูกจู่โจมเข้าจับกุม

          หลังการจับกุมผู้ต้องสงสัยเบอร์หนึ่งได้ การสอบสวนอย่างเคร่งเครียดจึงเริ่มขึ้น จากนาทีกลายเป็นชั่วโมง นายภูผาทองยังเป็น “ผู้ร้ายปากแข็ง” แต่ด้วยจิตวิทยาการซักถามของตำรวจกองปราบฯ ทำให้ นายภูผาทองยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ได้วางแผนสังหาร นายนวพงศ์ ผู้ป็นนายจ้างจริง โดยเตรียมการวางแผนอย่างดีกว่า 1 เดือน มีผู้ร่วมลงมือในครั้งนี้อีก 4 คน เป็นแรงงานพม่าและคนไทย ประกอบด้วย นายโซนี นายโอม นายกอล์ฟ และ นายอิม ทั้งหมดเป็นคนที่นายใหญ่รู้จักเป็นอย่างดี โดยที่ นายกอล์ฟ ยังมีศักดิ์เป็นหลานของผู้ตายอีกด้วย

 

'ไทม์ไลน์'ไขคดีฆ่านายจ้างอำมหิต 3เดือนปิดจ๊อบ.!

 

          คำสารภาพแรกของ นายภูผาทอง อ้างว่า แผนสังหารเกิดขึ้นหลังจากมีปากเสียงกับผู้ตาย เนื่องจากถูกผู้ตายทำไสยเวทจนใช้ชีวิตไม่ได้ และยังถูกจับได้ที่แอบเป็นชู้กับเมียผู้ตาย จนถูกไล่ออกจากบ้านไปอยู่กระท่อมกลางไร่ จึงรู้สึกโกรธแค้น หลังสะสมความแค้นมานาน จึงเริ่มคิดวางแผนสังหาร เริ่มจากไปดูสถานที่สำหรับอำพรางศพ ซึ่งเป็นไร่มันอยู่ท่ามกลางหุบเขา โดยชาวบ้านละแวกนั้นเรียกว่า “เขากิโล7” กระทั่งวันก่อเหตุได้นัดแนะกับเมียผู้ตายให้มาหาที่กระท่อมในไร่พร้อมกับลูกๆ ทั้งหมด และติดต่อให้พวกอีก 4 คน มาหารือกันก่อนออกไปลงมือ

          เหตุฆาตกรรมอำมหิตเริ่มจาก นายภูผาทอง สั่งการให้นายโอมและนายโซนี ขับรถจักรยานยนต์ออกไปหาผู้ตายที่บ้านใน ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พร้อมกับถืออาวุธไม้และมีดติดตัวไปด้วย เมื่อไปถึงนายโซนีที่สนิทกับผู้ตายมากที่สุดได้เข้าไปทำทีขอกินข้าวด้วย ส่วนผู้ตายเองก็ไม่ได้เฉลียวใจแม้แต่น้อย จึงได้ให้นายโซนีเข้าไปในบ้าน ส่วนตัวผู้ตายได้ปลีกตัวออกมานั่งสมาธิที่ห้องดูทีวี ในจังหวะนี้เองนายโซนีได้ลอบเข้าไปด้านหลังก่อนที่จะใช้ไม้ไผ่ที่เตรียมมากระหน่ำตีไปที่ท้ายทอยผู้ตายจนนอนแน่นิ่ง พร้อมตะโกนให้นายโอมเข้ามาช่วยกันตี จากนั้นนายโซนีก็ชักมีดแทงซ้ำอีก 3 ครั้ง ในเวลาเดียวกันนายโอมได้ขับรถกระบะของผู้ตายออกไปรับนายภูผาทองและพวกที่เหลือ ให้มาช่วยกันยกศพไปอำพราง โดยนำเสื้อผ้า ที่นอน ของผู้ตายไปด้วย เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการเผา

          เวลา 3 ทุ่มของวันที่ 3 สิงหาคม 2558 ที่กลางไร่มันและข้าวโพด ซึ่งลักษณะทางภูมิศาสตร์มีภูเขารอบด้าน นายภูผาทอง และพวกได้นำศพ นายนวพงศ์ ขึ้นรถมาทิ้งไว้บนคันดินไร่มัน ก่อนที่จะช่วยกันเผาศพด้วยเชื้อเพลิงและน้ำมันที่เตรียมมา เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงศพก็ยังไหม้ไม่หมด นายภูผาทองจึงสั่งให้ลูกน้องกลับไปเอาเชื้อเพลิงที่บ้านผู้ตายมาเพิ่มอีก จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถเผาศพได้หมด จึงตัดสินในขุดหลุมฝังศพตรงจุดที่เผา โดยที่นายโซนีได้ตัดหัวผู้ตายแยกออกจากตัว จากความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ก่อนทำการจะฝัง จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปกบดาน

 

'ไทม์ไลน์'ไขคดีฆ่านายจ้างอำมหิต 3เดือนปิดจ๊อบ.!

 

          ภายหลังตำรวจจับนายภูผาทองได้แล้ว ก็ขยายผลไปจับกุมพรรคพวกที่เหลืออีก 4 ราย โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้นซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด”

          หลังจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพหมดแล้ว ตำรวจได้คุมตัวไปค้นหาศพตรงบริเวณกลางเขาไร่มัน ในวันที่ 29 สิงหาคม 2561 โดยประสานรถแบ็กโฮเข้าสนับสนุนการค้นหา ใช้เวลากว่า 9 ชั่วโมง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งวัน แต่ก็ยังไม่พบศพ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเปลี่ยนสภาพไปมาก มีการไถกลบเพื่อทำไร่มันหลายสิบครั้ง ทำให้เป็นอุปสรรคในการค้นหา จนใกล้แสงสุดท้ายของวันเจ้าหน้าที่พบเพียงกระป๋องน้ำมันหล่อลื่น 2 กระป๋อง ซึ่งผู้ต้องหายืนยันว่า คืนก่อเหตุได้ใช้น้ำมันดังกล่าวเป็นเชื้อเพลิง จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน แม้ไม่พบศพ แต่ญาติที่มาคอยติดตามสถานการณ์ต่างไม่ติดใจ เพราะเห็นว่าพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากจริง ก่อนที่จะคุมตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันที่ 30 สิงหาคม 2561

          จากปากคำลูกสมุนที่ร่วมฆ่านายจ้าง ต่างให้การตรงกันว่า นายภูผาทอง เป็นผู้บงการทั้งหมด พ่วงกับ นางสุภัชญา เมียของผู้ตาย ก็รู้เห็นเป็นใจกับการวางแผนอีกด้วย ตำรวจจึงได้ขออำนาจศาลจังหวัดกาญจนบุรีออกหมายจับ “เมียใจอำมหิต” ในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย” และเข้าจับกุมในวันที่ 31 สิงหาคม 2561

 

'ไทม์ไลน์'ไขคดีฆ่านายจ้างอำมหิต 3เดือนปิดจ๊อบ.!

 

          ถึงกระนั้น นางสุภัชญา ยังให้การภาคเสธ รับเพียงว่า ได้พูดคุยกับ นายภูผาทอง เรื่องวางแผนทำร้ายสามีตัวเองให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและพิการ ไม่ได้ต้องการให้เสียชีวิต แต่เมื่อเหตุการณ์มันเลยเถิดไป จึงได้แต่ปล่อยให้เรื่องเงียบไปเท่านั้น

          แม้คดีนี้จะไม่สามารถค้นหาศพเจอ แต่ตำรวจมั่นใจว่า คำรับสารภาพที่มีการดำเนินตามขั้นตอนอย่างรัดกุม ประกอบกับวัตถุพยาน รวมไปถึงขั้นตอนการทำแผนรับสารภาพที่สอดคล้องกับคำให้การทั้งหมด จะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการดำเนินคดีในชั้นศาล..!!

 

'ไทม์ไลน์'ไขคดีฆ่านายจ้างอำมหิต 3เดือนปิดจ๊อบ.!
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ