ได้หรือไม่ ? หาก "หมูป่า" อยากเป็น SEAL ตามรอยฮีโร่

 

          เปิดเส้นทางหาก “หมูป่า” อยากเดินตามรอยฮีโร่เข้าเป็นหน่วยซีล ชี้บางคนอาจหมดสิทธิเหตุ ไร้สัญชาติ

          จากกรณีที่นักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่า อะคาเดมี่ ที่ประสบภัยในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย และมีทุกภาคส่วนเข้าไปช่วยเหลือจนสามารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้ โดยหน่วยงานหนึ่งที่เป็นตัวจักรสำคัญและได้รับการยกย่องคือ “นักทำลายใต้น้ำจู่โจม” หรือที่เราเรียกกันว่า หน่วย SEAL

          ทั้งนี้หากเด็กทั้ง 12 คน โตขึ้นและต้องการเป็นหน่วย SEAL เพื่อเจริญรอยตามผู้ที่ช่วยเหลือพวกเขา พวกเขาต้องทำอย่างไรจึงจะได้เข้าศึกษาและจบออกมาปฏิบัติภารกิจ

          โดยหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม อยู่ในการดูแลของกองเรือยุทธการ

          โดย มีการกำหนดว่าในหนึ่งปีจะรับจำนวนเท่าไหร่ โดยในปี 2562 จะรับจำนวน 100 นาย ซึ่งจากการกำหนดระบุรับเพียงข้าราชการทหารและตำรวจเท่านั้น

          ผู้ที่มีโอกาสมากที่สุดคือ กองทัพเรือ ได้ 89 นาย แบ่งเป็นสัญญาบัตร 9 นาย และ ประทวน 80 นาย

          หน่วยนอกกองทัพเรือได้ 11 นาย ประกอบด้วย กองบัญชาการกองทัพไทย 2 นาย กองทัพบก 5 นาย กองทัพอากาศ 2 นาย และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 นาย

          ทั้งนี้ผู้ที่เป็นนายทหาร ตำรวจชั้นสัญญาบัติ ต้องยศไม่เกินร้อยเอก เรือเอก เรืออากาศเอก และ ร้อยตำรวจเอก ขณะที่นายทหาร ตำรวจประทวนต้องมียศไม่เกิน สิบเอก จ่าเอก จ่าอากาศเอก และ สิบตำรวจเอก

          นอากจากนี้หากเป็นชั้นสัญญาบัตรพวกเขาต้องจบโรงเรียนทหารของเหล่าทัพ หรือโรงเรียนทหารต่างประเทศที่เทียบเท่า หรือสถาบันการศึกษาที่จัดให้มีการศึกษาตามหลักสูตรเทียบเท่าปริญญาตรี ส่วนชั้นประทวนก็ต้องสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทหารของเหล่าทัพอื่นที่เทียบเท่า

          โดยมีอายุไม่เกิน 29 ปี ณ วันที่ 1 ตุลาคมของปีนั้นๆ

          และการคัดเลือกจะต้องผ่านการทดสอบร่างกาย โดยต้องดึงข้อ 7 ครั้ง ไม่จำกัดเวลา ยึดพื้น 30 ครั้ง ในเวลา 2 นาที ลุกนั่ง 45 ครั้ง ใน 2 นาที วิ่งกลับตัว 300 หลา ในเวลา 60 วินาที วิ่ง 1,600 เมตร ในเวลา 7 นาที ว่ายน้ำ 1,800 เมตร ในเวลา 55 นาที

          ดังนั้นหากน้องๆ ต้องการที่จะเป็น SEAL ด่านแรกคือพวกเขาต้องสมัครเข้ารับราชการทหาร หรือเข้าโรงเรียนทหารของเหล่าทัพให้ได้เสียก่อน และหมายความว่าการเป็นทหารเกณฑ์จะไม่สามารถเข้าหลักสูตรนี้ได้ตามข้อกำหนด

          อย่างไรก็ตาม การเป็นทหารนั้นมีปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งที่น้องๆ ทีมหมูป่าบางคนอาจจะไม่สามารถสมัครเข้ารับราชการทหารได้ เพราะติดปัญหาเรื่องสัญชาติ

          โดยคุณสมบัติประการสำคัญข้อหนึ่งของผู้ที่สามารถสมัครนักเรียนเตรียมทหาร ซึ่งจะเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยของแต่ละเหล่าทัพคือ "มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด" และมี "บิดา มารดา ที่มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด" ยกเว้น "บิดาเป็นทหารหรือตำรวจ มารดาจะไม่ใช่ผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้

          ส่วนโรงเรียนนายสิบทหารบก โรงเรียนนายสิบทหารบก โรงเรียนจ่าทหารเรือ โรงเรียนจ่าอากาศ และโรงเรียนนายสิบตำรวจ ก็กำหนดคุณสมบัติประการหนึ่งไว้เหมือนกันคือ "มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด" และมี "บิดา มารดา ที่มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด" ยกเว้น "บิดาเป็นทหารหรือตำรวจ มารดาจะไม่ใช่ผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้

          ซึ่งคุณสมบัติเช่นว่านี้เองต่อให้ น้องบางคนในทีมหมูป่า อยากเป็นอย่างพี่ๆ ที่มาช่วยเขาก็ไม่สามารถเป็นได้ โดยมีการระบุว่ามี 3 คนที่ไม่มีสัญชาติไทย และที่สำคัญแม้ได้รับสัญชาติในภายหลังก็ยังเป็นไม่ได้เพราะหลักเกณฑ์กำหนดว่าต้องมี “สัญชาติไทยโดยกำเนิดเท่านั้น”