ลีลาเสี่ยหนู บนแผ่นดินเมืองเลย กับตำนานนักเลือกตั้งแห่งดินแดนทะเลภูเขา ว่าด้วยเรื่องเครือข่ายความสัมพันธ์แบบไทยๆ ที่ผูกด้วยผลประโยชน์ทางการเมืองและธุรกิจ!
พักนี้ นักเลือกตั้งต้องเว้นวรรคกิจกรรมทางการเมือง และถอยให้กับ “ปฏิบัติการนำหมูป่ากลับบ้าน” ขนาดพรรคพลังประชารัฐ วางแผนจะเปิดตัวต้นเดือน ก.ค. ยังต้องเลื่อนยาวไปถึงกลางเดือน ส.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ตระกูล “ทิมสุวรรณ” ประกอบด้วย “ธนเทพ ทิมสุวรรณ” อดีต ส.ส.เลย , “ธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ” อดีตนายก อบจ.เลย และ “นันทนา ทิมสุวรรณ” อดีต ส.ส.เลย จัดงานทำบุญให้บิดาคือ “สุรัตน์ ทิมสุวรรณ” อดีตประธานสภาจังหวัดเลย ที่บ้านพักใน อ.วังสะพุง จ.เลย
ในงานทำบุญภายในครอบครัว มีแขกพิเศษไปร่วมงานด้วยคือ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตามคำเชิญของ “ทศพล สังขทรัพย์” อดีต ส.ส.เลย และแกนนำพรรคภูมิใจไทย
สำหรับ “ทศพล” นั้นนับถือ สุรัตน์ ทิมสุวรรณ เสมือนบิดาคนหนึ่ง เนื่องจากช่วงที่เขาเล่นการเมืองใหม่ๆ ได้อาศัย “บุญบารมี” ของเสี่ยสุรัตน์มากพอควร
สุรัตน์ ทิมสุวรรณ ไม่ใช่คนเมืองเลยโดยกำเนิด แต่ทำธุรกิจโรงโม่หินสุรัตน์การศิลา ที่ อ.วังสะพุง จ.เลย นอกจากนี้ยังได้ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ,สัมปทานแร่ ,จําหน่ายพืชพันธุ์และอุปกรณ์การเกษตร
เสี่ยสุรัตน์ยังเป็น ส.จ.เขตวังสะพุง และได้ขยายเครือข่าย ส.จ.ไปยังอำเภอต่างๆ จนได้รับการสนับสนุนให้เป็นประธานสภาจังหวัดเลย และได้รับฉายาว่า “เจ้าพ่อวังสะพุง”
ทศพล สังขทรัพย์ อนุทิน ชาญวีรกุล และ นันทนา ทิมสุวรรณ
ส่วน “พ.ต.อ.กฤช สังขทรัพย์” เคยเป็นผู้บังคับบัญชาตํารวจในหลายท้องที่ของเมืองเลย ซึ่งในการปฏิบัติหน้าที่สู้รบครั้งหนึ่งในขณะดํารง ตําแหน่งยศพันตํารวจตรีได้นํากําลังตํารวจ 30 คน เข้ายึดหมู่บ้านม้งบนภูขี้เถ้า (รอยต่อเลย-พิษณุโลก) และถูกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ปิดล้อมนานถึง 15 วัน ต่อมา กองทัพภาคที่ 2 นำกําลังไปช่วยรบจนได้รับชัยชนะ จนสื่อมวลชนขนานนาม "อัศวินภูขี้เถ้า"
หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ต.อ.กฤช ถูกย้ายไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรเพชรบุรี โชว์ผลงานปราบมือปืนอยู่พักใหญ่ ก็ลาออกจากราชการตำรวจไปสมัคร ส.ส.เลย ในสังกัดพรรคชาติไทย ได้เป็น ส.ส.เลย ปี 2519 และ 2552 ต่อมา พ.ต.อ.กฤชเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ฮ.ตกที่ดอยอ่างขาง
“แบรนด์อัศวินภูขี้เถ้า” กลายเป็นเครื่องมือในการสร้างคะแนนนิยม ให้ พ.ต.อ.กฤช บวกกับเครือข่ายตำรวจในพื้นที่เมืองเลยช่วยหาเสียงให้ จึงต้นทุนการเมืองให้ลูกชาย
ปี 2524 มีเลือกตั้งซ่อม ทศพล สังขทรัพย์ ลูกชายลาออกจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาสมัคร ส.ส.แทนบิดา ระหว่างการปราศรัยหาเสียง เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับการหาเสียงมาก่อน เมื่อทศพลขึ้นปรากฏตัวบนเวที จะกล่าวคําพูดซ้ำๆ กันทุกเวทีว่า “ถ้าคิดถึงพ่อผม ให้เลือกผมนะครับ ผมพูดไม่เก่ง แต่ผมจะทํางานเหมือนพ่อผม เลือกผมนะครับ”
หลังจากนั้น “ทศพล” ได้เป็น ส.ส.เลยอีก 8 สมัย และคนในเมืองเลยทราบดีว่า เสี่ยสุรัตน์แห่งวังสะพุง ได้ให้การสนับสนุนเขา และอีกด้านหนึ่งเสี่ยสุรัตน์มีความสนิทสนมกับ “เจ้าพ่อวังน้ำเย็น” เสนาะ เทียนทอง
ช่วงปี 2537-2538 เสี่ยสุรัตน์ เผชิญมรสุมชาวบ้านร่วมกับเอ็นจีโอต้านโรงโม่หิน ส่งผลให้ทศพลสอบตกเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งปี 2538
ปี 2539 เสี่ยสุรัตน์ส่ง “ธนเทพ ทิมสุวรรณ” ลูกชายลงสนามเลือกตั้งในสีเสื้อพรรคความหวังใหม่ เนื่องจากเสนาะย้ายจากพรรคชาติไทยมาอยู่พรรคความหวังใหม่ โดยทศพลไม่ลงสมัคร ส.ส. เพื่อเปิดทางให้ธนเทพได้เป็น ส.ส.สมัยแรก
ธนเทพ ทิมสุวรรณ
ปี 2544 ทศพลและธนเทพ ย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย แต่วันนี้ ธนเทพยังอยู่ค่ายชินวัตร และทศพลย้ายไปค่ายบุรีรัมย์หลายปีมาแล้ว
นี่คือตำนานนักเลือกตั้งบนแผ่นดินเมืองเลย ว่าด้วยเรื่องเครือข่ายความสัมพันธ์แบบไทยๆที่ผูกด้วยผลประโยชน์ทางการเมืองและธุรกิจ
//////
ภาพจากเฟซบุค ทศพล สังขทรัพย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง