คอลัมนิสต์

ตีกลับงบสภา "พรเพชร" โยน "ข้าราชการ"  ขอเกินพอดี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตีกลับงบสภา "พรเพชร" โยน "ข้าราชการ"  ขอเกินพอดี : คอลัมน์... เจาะประเด็นร้อน   โดย.... ขนิษฐา เทพจร

 

          “ผมเข้าใจนะว่าคนที่มีไอโฟน7 แล้วอยากได้ ไอโฟน 10 แต่สิ่งที่ต้องตอบให้ได้ คือ จำเป็นหรือไม่”

          การก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่มีปัญหาไม่จบไม่สิ้นตั้งแต่โครงสร้างยันตบแต่งภายใน และล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้ตีกลับงบประมาณเทคโนโลยีและสารสนเทศกว่า 8,000 ล้านบาท โดยตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสม และที่สำคัญหลายอย่าง “แพงเกินไป” 

          มีการระบุถึง “ไมโครโฟน” ตัวละ 120,000 บาท และ “นาฬิกา” เรือนละ 75,000 บาท ด้วย 

          แค่นี้ก็ร้อนพอที่จะให้ “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ออกมาชี้แจง แต่ดูเหมือนว่างานนี้ จะเป็นการถล่มข้าราชการประจำอย่าง  “สรศักดิ์ เพียรเวช” เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะเจ้าของโครงการ โดยระบุว่า ได้ระบุให้กำหนดงบประมาณภายใต้ความพอเพียง 

          “แต่ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมถึงไม่รับฟัง” พรเพชรระบุ

          เขาบอกด้วยว่า หน้าที่ของเขามีเพียงการกำกับงานให้โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาเดินหน้า แต่ไม่มีอำนาจที่จะสั่งการ หรือแทรกแซงการดำเนินการใดๆ ของส่วนราชการที่ปฏิบัติงานได้ ส่วนที่มีข้อท้วงติงเรื่องการจัดซื้อที่แพงเกินไป อาจต้องขอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาลดงบประมาณลงมา ซึ่งอาจเกี่ยวกับการลดสเปกด้วย

 

ตีกลับงบสภา "พรเพชร" โยน "ข้าราชการ"  ขอเกินพอดี

 

          “พรเพชร” ยังชี้แจงถึงการตั้งข้อสังเกตต่อกรณีการแบ่งการเสนอของบประมาณในโครงการก่อสร้างรัฐสภา ออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงก่อสร้างอาคาร ที่ได้รับอนุมัติวงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท และช่วงของระบบไอที ที่อยู่ระหว่างเสนอขออนุมัติ ว่า ตนคิดเอาเองว่าการเสนอของบประมาณช่วงปี 2556 ที่เสนอขอรวมทั้งการก่อสร้างและระบบไอที วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท นั้นมากเกินไป คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดที่พิจารณา จึงขอตัดส่วนระบบไอทีวงเงิน 3,000 ล้านบาทออกไปก่อน และอาจรอเวลาการพัฒนาระบบไอทีที่มีการปรับเปลี่ยน

 

 

          “ตอนนั้น ปี 2556 ผมทราบว่างบไอซีที ตัดออกไปประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่มาถึงปัจจุบันมีการเสนองบเข้าไปใหม่ แต่มูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 8,000 กว่าล้านบาท ทางเลขาธิการสภาฯ ได้ชี้แจงกับผมเบื้องต้นแล้วว่าระบบไอที ที่มีทั้งไมโครโฟน, การบันทึกคะแนน, ความปลอดภัย, การตรวจสอบองค์ประชุม และอีกสารพัด ผมจึงบอกเขาไปว่า หากเสนอแบบนี้ต้องอธิบายให้ได้ โดยเฉพาะส่วนของงบประมาณที่เสนอขอเพิ่มขึ้นจากก้อนเดิม ผมเข้าใจนะว่าคนที่มีไอโฟน7 แล้วอยากได้ไอโฟน10 แต่สิ่งที่ต้องตอบให้ได้ คือ จำเป็นหรือไม่” นายพรเพชร กล่าว


          ทั้งนี้ เขายังปฏิเสธด้วยว่า ไม่รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง และรายละเอียดที่เสนอในงบประมาณด้านระบบไอทีของรัฐสภาใหม่ แม้นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร จะระบุว่าการจัดซื้อเป็นแบบพิเศษ ที่ผ่านมาขออนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการรัฐสภา (ก.ร.) ที่มีเขาเป็นประธาน พร้อมยืนยันการทำหน้าที่ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2557 คือ กำกับ เร่งรัดให้โครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่แล้วเสร็จตามเป้าหมาย และแก้ปัญหาค้างเก่า

 

ตีกลับงบสภา "พรเพชร" โยน "ข้าราชการ"  ขอเกินพอดี

 

          “ผมยอมรับว่าตอนนี้บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จํากัด (มหาชน) ฐานะบริษัทรับจ้าง ยังปิดงานก่อสร้างไม่ได้ เพราะติดปัญหาของการเข้าไปทำด้านระบบไอที เช่น เขาปิดฝ้าเพดานไม่ได้ เพราะต้องรอเดินสายคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ดังนั้นการได้รับงบประมาณส่วนนี้ที่ล่าช้า เพราะปัญหาจุกจิก อาจทำให้การก่อสร้างล่าช้าด้วย แต่ผมพยายามประสานว่า แม้จะของบยังไม่ได้ ต้องทำให้งานเดินหน้าไปให้ได้” พรเพชร กล่าว

          เมื่อถูกซักว่าการกำกับงานก่อสร้างและท้วงติง แต่ไม่ได้ดูรายละเอียด เป็นประเด็นที่เปิดทางให้เกิดการทุจริตหรือฮั้วกันได้หรือไม่ “พรเพชร” ระบุว่า พร้อมรับการตรวจสอบ หากมีประเด็นร้องเรียนเรื่องการทุจริตก็พร้อมตั้งเรื่องสอบสวน อย่างไรก็ดี เชื่อโดยสำนึกสามัญชนว่า หากใครทำทุจริตอะไร ต้องมีคนรู้ ส่วนกรณีที่คณะทำงานและคณะกำกับงานก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ มีสมาชิก สนช.เข้าไปกำกับด้วยนั้น ยืนยันว่าไม่เคยมีฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซง

          อย่างไรก็ตามในวันที่  18 พฤษภาคม  ที่จะถึงนี้ “สรศักดิ์ เพียรเวช” เลขาธิการสภาฯ ฐานะเจ้าของโครงการ เตรียมเรียกประชุมส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณ และการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ ในช่วงเวลา 09.30 น. ที่อาคารรัฐสภา ห้อง 3701 จากนั้นหลังประชุมจะแถลงรายละเอียดและชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด

          ถึงตอนนี้คงชัดแล้วว่า งบประมาณต้องปรับลดลง สเปกก็น่าจะต้องปรับลด  แต่คำถามยังคงค้างคาในใจแน่ๆ ว่า ใครเป็นคนตั้งงบประมาณแบบนี้ ลองล้วงลึกดูสักทีอาจเห็นไส้ในอะไรที่ไม่ชอบมาพากลอีกมาก

 
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ