คอลัมนิสต์

มวยข้างเวที ล็อตเตอรี่ 30 ล้าน ใครน็อค ใครน่วม!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คนไทยก็เกือบโล่งใจได้พักหัว แต่เปล่าเลย!! หันมามองด้านล่างเวทีกลับมีบรรดาคู่ชกคู่อื่นฟัดกันนัวฝุ่นตลบ นับได้ 3 คู่หลักๆ!

 

          วันนี้คนไทยยังงงว่าข่าว “หวย 30 ล้าน” ยังไม่จบหรือนี่? บอกเลยยัง! เพราะระหว่างที่คู่ชกหลักอย่าง ครูปรีชา และลุงจรูญ กำลังออกลีลาชกอยู่บนเวที

          ล่าสุดกับประเด็นที่ว่าทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก เสนอให้ครูปรีชาและทีมงานไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ช่วยตัดสินเป็นเปาบุ้นจิ้น

          ตอนแรกทำท่าจะแรง แต่ภายหลังทนายตั้มออกมาสรุปว่าเป็นการพูดเชิงประชด ที่อีกฝ่ายออกลีลาส่อแววว่าจะหันมาบั่นทอนความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ที่กำลังดำเนินการเรื่องคดีอยู่

          คนไทยก็เกือบโล่งใจได้พักหัว แต่เปล่าเลย!! หันมามองด้านล่างเวทีกลับมีบรรดาคู่ชกคู่อื่นฟัดกันนัวฝุ่นตลบ นับได้ 3 คู่หลักๆ!

          คู่แรก “เจอกันพอเรียกน้ำย่อย”

          สำหรับคู่ของ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กับ ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ต้องบอกว่าคู่นี้ดูทรงแล้วไม่น่าถึงยก 3

          เพราะถ้าพูดถึงเทอดศักดิ์ หรือ ดร.โต้งแล้ว หลังจากได้รับฉายาจากชาวเน็ตว่า “คนเงิบ 2018” วันนี้ชื่อของเขาก็เริ่มแผ่วๆ หมดความสำคัญไปมาก

          เพียงแต่เจ้าตัวยังไม่ยอมหลุดวงโคจร ยังคงนำเสนอทฤษฎีของตัวเองออกมาเรื่อยๆ จนฝ่ายของ “อัจฉริยะ” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ต้องออกมาปะฉะดะ!

          โดยล่าสุดวันที่  13 มีนาคม ที่ผ่านมา อัจฉริยะเข้าแจ้งความกับ ดร.โต้ง ข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานและความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

 

มวยข้างเวที ล็อตเตอรี่ 30 ล้าน ใครน็อค ใครน่วม!

 


          เนื่องจากไปโพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหาว่าตำรวจที่สอบสวนครูปรีชา และ รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น มีการข่มขู่ให้รับสารภาพในคดีลอตเตอรี่ 30 ล้าน

          งานนี้ร้อนถึงเจ้าหน้าที่รัวๆ ต้องเร่งพิจารณาดำเนินคดีว่าเข้าข่ายข้อหาใด โดยจะตรวจสอบเพิ่มว่ามีกลุ่มเครือข่ายพฤติกรรมเดียวกันอีกหรือไม่

          ปรากฏว่าผ่านไปไม่กี่วัน ช่วงวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา ดร.โต้ง ออกมาแก้ลำแล้ว โดยเข้ายื่นเอกสารชี้แจงกรณีดังกล่าวที่กองบังคับการปราบปราม

          แต่งานนี้สีหน้ากังวลชัดเจน โดยปฏิเสธไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นใส่ความเจ้าพนักงาน หากแต่เป็นการทำหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชน

          พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มครูปรีชา ใคร่ครวญ หากแต่มั่นใจว่าลอตเตอรี่ชุดนั้นเป็นของครูแน่ๆ

          แถมยังบอกว่าหลังจากนี้จะรวบรวมหลักฐานแจ้งความกลับอัจฉริยะ ฐานหมิ่นประมาทอีกด้วย!!!

          ก็น่าคิดว่าจะลงท้ายยังไง แต่เชื่อว่าเคสนี้ อัจฉริยะบอกว่านี่แค่น้ำจิ้ม เรียกน้ำย่อยคนดู!


          คู่สอง "ไม่อยากเจอ ต้องเจอ!"

          อีกคู่ที่ฝ่ายหนึ่งคือเจ้าเก่า “อัจฉริยะ” ส่วนฝ่ายท้าชิงมาใหม่ คือ ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่มาช่วย ฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ “แผน” พยานที่เห็นลงุจรูญก้มเก็บลอตเตอรี่

          เขาเคยกล่าวอย่างเผ็ดร้อนในรายการโหนกระแส ช่อง 28 ว่า “ถ้าผมจะเป็นกุนซือให้นายแผน แล้วมันหนักกบาลใคร!!”

          ว่าแล้วจัดเลย 17 มีนาคม ที่ผ่านมาเหมือนกันที่เขาและแผนได้เข้าแจ้งความที่สน.บางเขน เอาผิด อัจฉริยะ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จากการที่เขาไปเฟซบุ๊กไลฟ์เมื่อวันที่ 16 มีนาคม โจมตีว่ามีทนายความอยู่เบื้องหลังเป็นกุนซือให้ “แผน”

          โดยมุ่งไปที่ข้อหาฐานขัดคำสั่งคสช. คือนำเสนอหรือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไปสู่ประชาชนด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริง อีกทั้งยังฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลที่บัญญัติห้ามคู่ความมิให้เผยแพร่ข้อมูลและพยานหลักฐาน ซึ่งอาจกระทบต่อการพิจารณาคดีของศาลจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

 

มวยข้างเวที ล็อตเตอรี่ 30 ล้าน ใครน็อค ใครน่วม!

 

          เรื่องนี้บางคนอาจงงว่า ไปไงมาไง เพราะก่อนนี้สุกิจคนนี้เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่าลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวไม่ใช่ของครูปรีชา แต่วันนี้เขากลับออกมาอยู่ข้าง “แผน” ก็น่าคิด

          เขาเลยชี้แจงผ่านโพสต์เฟซบุ๊ก “สุกิจ พูนศรีเกษม” เมื่อ 19 มีนาคม ว่า “นายเป็นเพียงพยานบอกเล่า และเป็นพยานแวดล้อมที่เห็นหมวดจรูญเก็บสลากได้เท่านั้น แต่จะเป็นสลากหมายเลขใดนั้น นายแผนไม่ได้ยืนยัน”

          “หากนำเขามาเป็นพยานแล้วไปจับเขาอีกก็เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ คงไม่มีใครกล้าเป็นพยานแล้วตำรวจกองปราบต้องรับแจ้งคดีแจ้งความเท็จไม่หยุดหย่อน มาตรฐานทางกฎหมายต้องมี”

          ถือว่าแรงพอตัวจนหลายคนอยากรู้จัก ปรากฏว่าต้องตะลึง เมื่อ “คม ชัด ลึก ออน ไลน์” เคยเปิดวาร์ปพบว่า เขาคือคนที่ได้ฉายาว่า “ทนายเทวดา!!” เลยทีเดียว

          เพราะเคยว่าความให้คนดังๆ ระดับประเทศหลายคน เช่น พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค, พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ฯลฯ

          งานนี้ฝ่ายอัจฉริยะจะมีหนาวหรือไม่ ไม่รู้ แต่ตอนนี้เดินหน้าฟ้องกลับเช่นกันในเรื่อง ดร.สุกิจ ที่ไปกล่าวหาว่าเขาอ้างว่าเป็นเด็กในคาถานายตำรวจใหญ่ แล้วรีดเงินจากผู้เสียหายถึง 30 คน

          สุดท้ายคนไทยมึนยกกำลังสอง เพราะที่จริงคู่นี้กำลังฟัดกันอยู่กับคดีอื่นอีก คือคดีหวย “3 ป้า หวยหาย 30 ล้านคำชะโนด” ซึ่งยังไม่จบ
แต่สำหรับอัจฉริยะคงไม่ยั่น เพราะเขาไลฟ์เฟซบุ๊ก บอกเลยว่างานนี้รอดูฉากต่อไปต้องมีคนหนาวแน่ๆ

          “ขณะนี้คดีหวย 30 ล้าน เป็นทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง ทำเป็นขบวนการครบ 11 คนแล้ว มีการส่งมอบให้กองปราบปรามไปแล้ว”

          ตอนนี้เลยปรากฏว่า แผนเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนไปเป็นวันที่ 7 เมษายนนี้แล้ว!!

          คู่สาม “เจอแล้วเจออีก!!”

          สำหรับทนายตั้ม หรือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน วันนี้ผ่านเรื่องเสื้อยืดมาได้ เมื่อสภาทนายความปฏิเสธว่าไม่ใช่มติของกรรมการสภา แต่เป็นเรื่องของอุปนายกสภาทนายความ ที่กล่าวถึงความเหมาะสมในพฤติกรรมต่างๆ ของเขา ซึ่งหากใครยังติดใจ สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนต่อประธานกรรมการมรรยาททนายความได้เลย

          แต่ทนายษิทราของคนไทยยังต้องมาเจอ “โจทก์เก่า” ที่เหมือนจะเป็นตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามาเป็นคู่ชกในคดีหวย นั่นคือ “ประธานบอย” หรือ ธนาพิพัฒน์ ชัยธนาธนธัต

 

มวยข้างเวที ล็อตเตอรี่ 30 ล้าน ใครน็อค ใครน่วม!

 

          แต่ปรากฏว่าประธานบอยผู้นี้บอกเลยไม่เกี่ยวกับหวยและช่วยใครทั้งสิ้น แต่ที่มาคือเรื่องอื่น!! โดยเขาปฏิเสธผ่านเฟซบุ๊ก Thanapiphat Chaitanatanatat ว่า

          “ผมไม่เคยสนหวยใคร ผมไม่สนเสื้อใคร ผิดมรรยาทหรือไม่มันไร้สาระ แต่วันนี้ผมแค่มาตามทวงสิทธิของผม กับ ปธ.มรรยาทฯ ในคดีที่ทนายดังท่านหนึ่งเขายุยงส่งเสริมคนเป็นคดีกัน และอวดอ้างสรรพคุณว่าตนมีมากกว่าทนายความคนอื่นๆ”

          โดยเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่่ผ่านมา เขาเดินทางมาสภาทนายความ ทวงถามในคดีที่เคยร้องเรียนทนายตั้มเรื่อง “มรรยาททนายความฯ” ที่เขาและพวกยุยงส่งเสริมให้คนเป็นคดีความกัน และโพสต์ข้อความอวดอ้างคำพูดของผู้พิพากษา ทำให้ดูเหมือนว่าตนเองอยู่เหนือทนายคนอื่น นอกจากนี้ยังจะไปเอาเรื่องร้องเรียนเพิ่มกับ “ประธานมรรยาททนายความ” ว่าทำงานล่าช้า

          ที่สุดจึงยื่นคำขาด 30 วัน ถ้าไม่ได้คำตอบจะไปร้อง รมว.ยุติธรรม ต่อ!!

          มวยคู่นี้บอกเลยไมใช่ครั้งแรกที่ขึ้นชกกัน อย่างที่รู้กันว่าทนายตั้มใช้โซเชียลทำงานด้วย และแทงตรงไม่มีกั๊ก ปัญหาจึงบานปลายปิดหน้าท้าศึกออกมาเรื่อยๆ

          อย่างเคสประธานบอยก็เกิดจากการโพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงเรื่องหนึ่ง จนเขาต้องมาร้องเรียนเรื่องมารยาทของทนายตั้ม ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา

          ถามว่าประธานบอยคนนี้เป็นใคร ค้นประวัติดู อู้หู ธรรมดาที่ไหน ช่วงมกราคม ที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่เคยเรียกเงิน 6 ล้านจากห้างดังเชียงใหม่ เหตุเจอแมลงสาบในจานข้าว!!

          ตอนนั้นเป็นข่าวดัง แต่เขาออกมาบอกว่า ตนไม่ได้เป็นทนายแต่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย และมีบริษัทให้ความรู้แก่คนทั่วไป เกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย

          สุดท้ายเรื่องแมลงสาบกลายเป็นมหากาพย์เปิดศึกฉะกับ 2 ทนายชื่อดังผ่านรายการหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ “ทนายตั้ม” นั่นเอง

          แต่น่าสนใจ ที่สำหรับทนายตั้มแล้วมักจะออกลีลาชกด้วยสีหน้าสบายๆ ตลอด อย่างเคสนี้เขาบอกเลย “ไร้สาระ" และ "ไม่มีความกังวลอะไรเลย เขาร้องเรียนผมมาหลายเรื่องแล้ว"

          หันมาข้างคนไทยน่าจะตรงกันข้าม เพราะดูทรงแล้วยากจะลงเอยได้ง่ายๆ ไม่ต้องนับว่าฝ่ายของลุงจรูญ และครูปรีชา จะต้องรัวหมัดใส่กันไปอีกนานแค่ไหน

.....................................................
ภาพ : ภาพจากเฟซบุ๊ก Thanapiphat Chaitanatanatat
“ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา”
“สุกิจ พูนศรีเกษม”
“ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ”
“ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม”
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ