“คนรุ่นใหม่” ในพรรคการเมืองเก่า

 
          นาทีนี้กระแสคำว่า “คนรุ่นใหม่” คงเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า เพราะเทคโนโลยีที่มีความเปลี่ยนแปลงรวมเร็ว โซเชียลมีเดียลุกลามไปทุกวงการ โดยเฉพาะในแวดวงการเมือง ไล่ตั้งแต่ คนรุ่นใหม่ ข้างถนน มีการชุมนุมเรียกร้องต่างๆ อาทิ กลุ่มคนอยากเลือกตั้งและเครือข่ายต่างๆ ที่มีการชุมนุมดาวกระจาย อยู่อย่างต่อเนื่อง ก็ล้วนแต่เป็นคนรุ่นใหม่ซะส่วนใหญ่ และพรรคการเมืองใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น มีพรรคของคนรุ่นใหม่เกิดขึ้นหลายพรรค

          รวมถึงพรรคใหญ่อย่าง “เพื่อไทย” ซึ่งมีคนรุ่นใหม่ นักการเมืองรุ่นใหม่ ออกมาขับเคลื่อน ทดแทนหรือสานต่องานการเมืองจำนวนไม่น้อย ที่ผ่านมาพรรคก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาหรือผลิตบุคลากรการเมืองรุ่นใหม่ มีเปิดคอร์สจัดกิจกรรมอบรมสำหรับนักการเมืองรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี ศิลปวัฒนธรรม กฎหมาย และการเมือง เพื่อจะมาทดแทน ช่วยงาน สานต่องาน เตรียมทำงานร่วมกับนักการเมืองรุ่นเก่าๆ

          “ขัตติยา สวัสดิผล” หรือ “น้องเดียร์” อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่อีกคนหนึ่ง ของพรรคเพื่อไทย มองว่า ตอนนี้กระแสคนรุ่นใหม่กำลังมาแรง คำว่าคนรุ่นใหม่ไม่ได้เอาอายุมาเป็นตัววัด แต่เป็นเรื่องของแนวความคิดที่เปิดกว้าง มีการพัฒนาตนเอง มีการเรียนรู้อยู่เสมอ ยอมรับสิ่งใหม่ๆ แสวงหาความรู้ใหม่อยู่เสมอมีความกระตือรือร้นตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

          ส่วนพรรคเพื่อไทยมุมมองของคนรุ่นใหม่ ถือว่าผู้ใหญ่ในพรรคให้ความสำคัญและเปิดกว้างมาก เพราะในปัจจุบันและในอนาคต คนรุ่นใหม่จะเป็นฐานเสียงที่ใหญ่ หรือเป็น นิวโหวตเตอร์ เราจึงให้ความสำคัญ ซึ่งหากมีคนรุ่นใหม่อยู่ในพรรค เราจะสามารถเข้าถึงหรือรู้ว่าคนรุ่นใหม่ต้องการอะไร ควรเจาะตรงนั้น คนรุ่นใหม่ก็ย่อมรู้ความต้องการของคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือว่า มีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงแน่นอน

         “คนรุ่นใหม่ในพรรคล้วนแล้วแต่มีคุณภาพ ทั้งการศึกษา ความรู้ทางการเมือง การลงพื้นที่ และถ้าติดตามโซเชียลมีเดีย จะมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ มีการสังสรรค์แลกเปลี่ยน พูดคุยซึ่งก็มีแนวคิดใหม่ๆ เสนอผู้ใหญ่ของพรรคอยู่เสมอ”

          “น้องเดียร์” ระบุว่า แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ก็ไม่เคยขัดแย้งกับคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่แม้จะมีอิสระทางความคิด แต่เรื่องการเคารพผู้อาวุโสก็ยังมีความสำคัญอยู่ สุดท้ายคนรุ่นเก่าอาจจะมีประสบการณ์มาก แต่บางครั้งก็อาจจะใช้ไม่ได้กับการเมืองสมัยนี้ที่อยู่ในยุคออนไลน์เทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พอมีคนรุ่นใหม่เข้ามา ก็จะเข้าใจง่ายขึ้นเพราะมีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี หากอาศัยประสบการณ์ของคนรุ่นเก่ารวมกับความคิดริเริ่มการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ หากนำมาผสมผสานกันจะเป็นเรื่องที่ลงตัว

          “พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ” อดีตส.ส.กทม. อีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ ของพรรคเพื่อไทย มองว่า ระบอบประชาธิปไตยได้เปิดกว้างให้ประชาชนหลายกลุ่มได้เข้ามามีส่วนร่วม “คนรุ่นใหม่” หรือ “เลือดใหม่” จึงไม่ตายตัว ไม่ได้ดูกันที่อายุแต่ดูที่แนวคิดมากกว่า ซึ่งคนรุ่นใหม่ต้องมีแนวคิดเปิดกว้าง ก้าวไปพร้อมกับเทรนด์ของโลกในหลายๆ มิติ

          “นักการเมืองแบบเดิมๆ ถูกมองว่าโกงกิน คอร์รัปชั่น ทำเพื่อพวกพ้อง แต่คนรุ่นใหม่จะเข้ามาทำการเมืองแบบใหม่พร้อมลุกขึ้นมาปฏิวัติระบบเก่าๆ และปรับตัวเพื่อการเมืองที่ดีกว่าที่เป็นอยู่”

          พรรคเพื่อไทยจำเป็นที่จะต้องรับฟังคนรุ่นใหม่และนำเอาความเห็นเหล่านั้นมาปรับปรุง แก้ไข ให้สามารถขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้าพร้อมกับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่พรรคจะได้สำรวจตัวเอง สำรวจความคิดของประชาชน สร้างบรรยากาศใหม่ ที่จะสามารถดึงเอาศักยภาพของคนในพรรคทั้งรุ่นเก่าและใหม่ มาร่วมมือกันได้อย่างเต็มที่

          “พลภูมิ” ระบุว่า คนรุ่นเก่าๆ มาด้วยประสบการณ์แต่หลายคนก็มีแนวคิดที่ก้าวหน้า ทันโลกทันเทคโนโลยีและแหลมคม หากสามารถนำเอาแนวคิดและพลังของสองกลุ่มนี้มาร่วมกันขับเคลื่อนจะช่วยเสริมให้กลายเป็นจุดแข็งไปพร้อมกัน

          อยากให้ประชาชนมองนักการเมืองในแบบใหม่ว่า “นักการเมืองรุ่นใหม่” ได้มีการพัฒนาตนเองโดยเรียนรู้ประสบการณ์จากในอดีตเพื่อนำมาปรับใช้ในปัจจุบันและอนาคต เพื่อที่จะได้ตอบสนองความต้องการให้แก่ประชาชนได้ดียิ่งขึ้น เป็นที่พึ่งพิงได้และสามารถเข้าถึงได้ง่าย และขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่านักการเมืองทุกคนสามารถจะเป็นตัวแปรในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่อนาคตได้

          “ชยิกา วงศ์นภาจันทร์” ลูกสาว “เยาวเรศ ชินวัตร” และหลานสาว “ทักษิณ ชินวัตร” หนึ่งในทีมทำงานคนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทย มองว่าคนรุ่นใหม่ นักการเมืองรุ่นใหม่ คือกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้จำกัดด้วยอายุ แต่มีอุดมการณ์ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือ อยากอาสาเข้ามารับใช้ประเทศชาติและประชาชน ภายใต้สถานการณ์ที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว บริบทของยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญ ทำให้ปัญหาของคนในยุคนี้แตกต่างออกไปจากปัญหาที่ผู้มีอำนาจในปัจจุบันมองและยังคงยึดติด ตีกรอบอนาคตแบบเดิมๆ ให้แก่คนรุ่นใหม่ นักการเมืองรุ่นใหม่

          คนรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มบุคคลที่มองอนาคตของประเทศเป็นด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลก ของสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล ในขณะเดียวกันก็ยังคงรัก เคารพ ผู้ใหญ่ และวัฒนธรรมอันดีงามของไทยด้วย

          สิ่งที่ประชาชนต้องการจากสถาบันพรรคการเมือง น่าจะต้องการให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่เป็นตัวแทนของประชาชนได้อย่างแท้จริง เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม รับฟังความคิดเห็น และแก้ปัญหาประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง

          “กระแสพรรคที่เกิดใหม่ที่ให้ประชาชนร่วมตั้งชื่อพรรคในโซเชียล ทำให้นึกย้อนไปถึงเมื่อครั้งที่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร เปิดแคมเปญรณรงค์ให้ประชาชนโหวตตั้งชื่อพรรคไทยรักไทยใน ปี 2543 จนชนะเลือกตั้งในวันนั้น แม้วันนี้กว่า 10 ปีให้หลัง ในยุคเทคโนโลยีที่ปัจจัยภายนอกเปลี่ยน แต่หัวใจสำคัญพื้นฐานยังคงเดิม คือ ประชาชน”

          นี่ก็เป็นเพียงมุมมองของคนรุ่นใหม่ นักการเมืองรุ่นใหม่ ส่วนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของนักการเมืองทั้งหมด แต่ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองรุ่นใหญ่ นักการเมืองรุ่นเก่า นักการเมืองรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่ หากบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนของประชาชน เอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก นำความรู้ความสามารถมาช่วยแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ทำให้คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นไหนๆ ก็เชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเพื่อให้เข้ามาเป็นตัวแทนของพวกเขาอย่างแน่นอน...หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว..