คอลัมนิสต์

ไม่ใช่บุพเพ! เมื่อ “รอมแพง” ลุยเอง มือดีมีหนาว !!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไม่ใช่บุพเพ! เมื่อ “รอมแพง” ลุยเอง มือดีมีหนาว มนต์กฎหมายลิขสิทธิ์!!


          ข่าวใหญ่ของละครดัง ปังทั้งสยาม “บุพเพสันนิวาส”

          ขณะที่คนดูยังชื่นมื่น สุขใจกับละครอยู่ดีๆ และเตรียมตัวไปอุดหนุนผลงานนักเขียนในงานสัปดาห์หนังสือที่กำลังจะมีขึ้นปลายเดือนนี้

          ปรากฏว่า “รอมแพง” นามปากกาของนักเขียนนิยายเล่มนี้ ต้องมาวุ่นวายกับการสะสางปัญหาที่สุมรุมเข้ามาในเรื่องของการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา !!

 

          มนต์ใดหรือจะสู้กฎหมาย!

          เรื่องนี้ ตอนแรกเป็นข่าวกรุ่นๆ อยู่ในหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจ “รอมแพง” เมื่อเจ้าตัวออกมาโพสต์ว่า

         “ประเดี๋ยวข้าจักร่ายมนต์ กฤษณะกาลีใส่พวกที่แจกไฟล์ฟรี ขายไฟล์ถูกเสียให้หมด”

          เนื่องจากเจ้าตัวได้รับรู้ว่า มีมือดีคัดลอกสำเนานวนิยายดังกล่าว ไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนผ่านทางสื่อออนไลน์ พูดง่ายๆ ว่า สแกนแล้วแปะลงหน้าเว็บกันเลยทีเดียวตั้งแต่ปกหน้าจนปกหลัง !!

 

ไม่ใช่บุพเพ! เมื่อ “รอมแพง” ลุยเอง มือดีมีหนาว !!

 

          ที่สุดวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.)

          พร้อมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์นิยาย “บุพเพสันนิวาส” กับผู้ที่คัดลอกสำเนานวนิยายดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนผ่านทางสื่อออนไลน์

          ดำเนินการโดย บริษัท แฮปปี้ บานานา จำกัด ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในงานวรรณกรรม (หนังสือบุพเพสันนิวาส) และได้รับมอบอำนาจในการปกป้องลิขสิทธิ์ในงานวรรณกรรมจาก “จันทร์ยวีร์ (หรือ เกศณี) สมปรีดา” เจ้าของลิขสิทธิ์

          ทั้งนี้ เบื้องต้นจะมีการรวบรวมพยานเอกสารที่พบจากสื่อออนไลน์ พร้อมหนังสือมอบอำนาจเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันศุกร์ที่ 9 มีนาคม นี้

          ส่วนใครที่สงสัยว่าผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ต้องเจออะไรบ้าง บอกเลย “มนต์กฤษณะกาลี” ที่รอมแพงจะเสก ยังไม่แรงเท่ากฎหมาย ที่เธอจะฟ้องหมดทั้งแพ่งและอาญา !

 

ไม่ใช่บุพเพ! เมื่อ “รอมแพง” ลุยเอง มือดีมีหนาว !!

 

          ตามความผิด การละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าด้วยการทำซ้ำดัดแปลงและเผยแพร่ต่อสาธารณชนซึ่งงานวรรณกรรม (หนังสือบุพเพสันนิวาส) ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

          แถมงานนี้โดนหมด ทั้งมือดีคนแรกที่เป็นผู้คัดลอก และนำไปเผยแพร่ รวมไปถึงผู้นำไปแชร์ต่อ ไม่ว่าการแชร์นั้นจะเพื่อแสดงความคิดเห็นแย้ง และตำหนิการคัดลอกผลงานก็ตาม

          โดยผู้โพสต์มีโทษจำคุก 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000-800,000 บาท ส่วนผู้แชร์มีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000-400,000 บาท

       

  รอมแพง คือ จันทร์ยวีร์


          หันมาข้างรอมแพง หรือ เจ้าของผู้ประพันธ์นวนิยายสุดเปรี้ยงตอนนี้ เธอคือ “อุ้ย" จันทร์ยวีร์ สมปรีดา หญิงสาวชาวใต้ ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

          สาวอุ้ย เรียนจบชั้นมัธยมที่โรงเรียนดังอย่าง “โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช” ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช จบช่วงปี 2538

 

ไม่ใช่บุพเพ! เมื่อ “รอมแพง” ลุยเอง มือดีมีหนาว !!


          จากนั้นสอบเข้าเรียนต่อที่ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร รุ่น 41

          แต่ด้วยนิสัยรักการอ่าน และช่างคิดช่างเขียน ก็สามารถก้าวเดินตามฝันมาจนเป็นนักเขียนที่มีผลงานมากมายเช่น ดาวเกี้ยวเดือน, บุพเพสันนิวาส, มิติรักข้ามดวงดาว, คีตโลกา, เรือนพะยอม

          โดยส่วนใหญ่ ที่ถนัดเลยคือแนว “โรแมนติกคอมเมดี้” เพราะตนเองเป็นคนสนุกสนานร่าเริง

          มุมหนึ่งที่น่าสนใจในเส้นทางการเป็นนักเขียนของเธอนั้น เริ่มจากการเล่นเกมออนไลน์ “มังกรหยก” จนสามารถนำมาถ่ายทอดเป็นนวนิยายเรื่องแรกแนวแฟนตาซี อย่าง “มิติรักข้ามดวงดาว” ได้

          ที่สุด เมื่อได้เผยแพร่ผลงานในเว็บไซต์พันทิป กระแสตอบรับดีมาก เธอจึงมีเรื่องอื่นๆ ตามมาเรื่อยๆ รวมแล้วถึงปีนี้ก็เป็นเวลา 11 ปีที่เขียนนวนิยายมา

          ซึ่งระหว่างทางผลงานของเธอก็มีการันตี ทั้ง “ดาวเกี้ยวเดือน” ชนะเลิศอันดับหนึ่งประจำเดือนกรกฎาคม วอยส์ อวอร์ด และ บุพเพสันนิวาส รางวัลหนังสือดีเด่นประจำปี 2553 รองชนะเลิศอันดับสอง เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ซึ่งครั้งนั้นเป็นการตีพิมพ์ครั้งแรก
          ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะบุพเพสันนิวาสนั้น อ่านสนุก และมีเสน่ห์ที่ตัวตนของ “เกศสุรางค์” หรือ แม่หญิงการะเกด (รับบทโดย เบลล่า ราณี) ที่เข้าขั้น “สายฮา” แต่น่ารักขี้เล่น

          ไม่ต่างจากตัวตนของผู้เขียนเอง ที่ชื่อ “เกศสุรางค์” ก็มาจากชื่อเดิมของสาวอุ้ย คือ “เกศนี” เห็นๆ ! แถมนางเอกเป็นนักศึกษาโบราณคดีเช่นเดียวกัน

 

ไม่ใช่บุพเพ! เมื่อ “รอมแพง” ลุยเอง มือดีมีหนาว !!

          และเชื่อหรือไม่ว่า ที่เห็นสนุกสนานดูแล้วอารมณ์ดีนั้น กว่าจะได้มาเป็นเล่มนั้น สาวอุ้ยค้นคว้าข้อมูลนานถึง 3 ปี ! แต่เป็น 3 ปีที่มีความสุข สนุกสนาน และด้วยวิสัยทัศน์เธอรู้แล้วว่าต้องฮิต !!

          “ตอนแรกก็คิดอยู่แล้วว่า น่าจะดังในระดับหนึ่ง เพราะเป็นโครงเรื่องที่คนยุคปัจจุบันข้ามไปในอดีต แล้วอิงประวัติศาสตร์อีก เป็นพีเรียดแล้วคนน่าจะชอบกัน แต่ก็ไม่คิดว่าเปรี้ยงปร้างขนาดนี้ แบบตกใจมาก ตกใจจนขนลุกเลย” (ให้สัมภาษณ์เนชั่นบันเทิง)

 

เรื่องฝีมือ ต้องเกรงใจกัน

 

          กลับมาที่คดีความที่กำลังมีปัญหา น่าเห็นใจตัวจริงต้นฉบับ เพราะกว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่ง่ายๆ

          ไม่เพียงนามปากกา “รอมแพง” ที่ได้มาจากชื่อของนางเอก เรื่อง “เวียงกุมกาม” สาวอุ้ยต้องใจกล้าขนาดไหน ในการเข้าไปกราบขอจากเจ้าของผลงานชั้นครู อย่าง “ทมยันตี” และก็นับเป็นเกียรติที่ “คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์” ไม่ปฏิเสธ

          และนี่ จะเรียกว่าเป็นตัวอย่างเบาๆ ของการไม่ยอมละเมิดผลงานของใครและต้องเกรงใจเจ้าของ ! ก็ว่าได้ ดังนั้น สำหรับคดีความครั้งนี้ เจ้าตัวย้ำว่า ยังไงก็ต้องเอาเรื่องถึงที่สุด !!

          เพราะเชื่อหรือไม่ว่า ในขณะที่ อุ้ยเคยพูดเรื่องนี้เมื่อ 10 ปีก่อน ในงานเสวนา “นักเขียนกับจิตสำนึกด้านลิขสิทธิ์” ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า

          “ทางออกที่ดีที่สุด คือ การนำเอางานเขียนที่สำเร็จแล้วทุกครั้งไปจดลิขสิทธิ์ก่อนที่จะโพสต์ในอินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันการถูกละเมิดจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไป”

          แต่ผ่านมาทศวรรษ เรื่องราวการละเมิดแบบนี้ก็ยังเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่สาวอุ้ยต้องเจอ หากแต่ที่ผ่านมาทางสำนักพิมพ์จะเป็นคนเดินเรื่องทางกฎหมายแทน

          เพียงแต่ครั้งนี้ เธอกล่าวกับทีมข่าว “คม ชัด ลึก” ว่า ถือเป็นการละเมิดที่สร้างความเสียหายหนักมาก จึงต้องออกโรงด้วยตนเองด้วยทางหนึ่ง

          “คนละเมิดคราวนี้สร้างความเสียหายวงกว้างมากกว่าที่เคยเจอ และเขาค่อนข้างท้าทาย ก็มีคนแชร์ออกไปหลายหมื่นในเวลาอันรวดเร็ว มีคนตำหนิก็ไม่สนใจ ฝ่ายกฎหมายสำนักพิมพ์ไปเตือนก็ไม่สนใจค่ะ”

          นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนชื่อเพจจาก “บุพเพสันนิวาส 2018” เป็น “บุพเพสันนิวาส by รอมแพง” ทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าเจ้าของตัวจริงคือคนโพสต์

 

ไม่ใช่บุพเพ! เมื่อ “รอมแพง” ลุยเอง มือดีมีหนาว !!

          “เรื่องนี้เลยเกิดความเข้าใจผิด ว่าเราละเมิดสัญญาตรงส่วนนั้น และยังทำให้เสียรายได้อีกด้วย ถึงจะไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ แต่การกระทำของเขาที่แจกไฟล์ฟรี กลับสร้างความเสียหายในวงกว้างมากกว่าการละเมิดเพื่อการค้าจากผู้ละเมิดบางรายเสียอีก”
           ที่สุด รอมแพงจึงสะท้อนว่า ปัญหานี้ มีต้นตอเรื่องเดียวเลยคือ

          “ความรู้ด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ของไทยยังไม่ทั่วถึงค่ะ บางคนไม่ทราบด้วยซ้ำว่าการกระทำแบบใดบ้างที่ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์”

            ดังนั้น สำหรับเรื่องนี้ เมื่อเปิดฉากแล้ว รอมแพงรับรองเลยว่า ยังไงก็ต้องเอาให้จบ !!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ