คอลัมนิสต์

“ธนาธร” ขยับ สมการการเมืองเปลี่ยน “คสช.” คิดหนัก !!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ทำสมการการเมืองเปลี่ยน คสช.คิดหนัก !!

 

               วันแรกที่ กกต.เปิดให้กลุ่มการเมืองไปแจ้งเพื่อเตรียมตั้งพรรคการเมือง มีว่าที่พรรคการเมืองไปขอจดจองชื่อไว้ทั้งหมด 42 พรรค แต่กลับยังไม่มีพรรคที่ประชาชนกำลังจับตา
               42 พรรคที่ปรากฏออกมา ส่วนหนึ่งคือกลุ่มที่เคยประกาศไว้แล้วว่าจะตั้งพรรค อีกส่วน น่าจะเรียกได้ว่ายังไม่รู้ที่ไปที่มาของพวกเขา รวมไปถึงพรรคพลังประชารัฐ ที่ “นายชวน ชูจันทร์” ไปยื่นขอจดแจ้ง แม้จะมีชื่อพ้องกับชื่อพรรคที่มีข่าวว่าฝั่ง คสช.จะไปตั้งก็ตาม  
               สำหรับพรรคที่คนการเมืองและผู้ติดตามการเมืองกำลังจับตา แต่ยังไม่ปรากฏออกมา มี 2 พรรค
               พรรคหนึ่งคือ พรรคมวลมหาประชาชน ของ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ 
               อีกพรรคหนึ่ง คือ พรรคของ “ธนาธร จึงรุ่งรืองกิจ” รองประธานกรรมการบริหาร ไทยซัมมิทกรุ๊ป นักธุรกิจหนุ่มวัย 39 ปี
               สำหรับ “สุเทพ” นั้น การตั้งพรรคไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าเทียบกับการเคลื่อนไหวในนามมวลมหาประชาชนอันนั้นน่าจะง่ายกว่าเยอะ อุปสรรคอย่างหนึ่ง คือ การที่เขาเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง 
               ดังนั้นทันทีที่มีข่าวว่า ”สุเทพ” จะตั้งพรรค จึงมีคำถามและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ “เสียสัตย์” ถาโถมเข้ใส่ 

“ธนาธร” ขยับ สมการการเมืองเปลี่ยน “คสช.” คิดหนัก !!

(อ่านข่าว : "สุเทพ" คิดหนัก ต้องรักษาสัจจะ หรือ ถือธงนำลงเลือกตั้ง)


               โดยเฉพาะยิ่งมีข่าวว่าจะตั้งพรรคเพื่อสนับสนุน “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ยิ่งเกิดเสียงวิจารณ์มากขึ้น เพราะอย่าลืมว่า วันนี้คะแนนนิยมของ “บิ๊กตู่” ไม่ได้ฮิตติดลมบนเหมือนวันที่ กปปส. ชักนำเข้ามา
               มีรายงานข่าวว่า ตอนนี้ “สุเทพ” กำลังตัดสินใจจะวางบทบาทของตัวเองในพรรคใหม่ไว้ตรงไหนดี จะเป็นเพียง “ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค” หรือจะ “ขอโทษประชาชนที่ต้องเสียสัจจะ” แล้วกระโดดมาถือธงนำพรรคเต็มตัว
               ภายในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งทางพรรควางไว้ว่าจะไปแจ้งขอตั้งพรรคต่อ กกต.จะมีความชัดเจนว่า “สุเทพ” จะเลือกทางไหน
               อีกพรรคคือพรรคของ “ธนาธร” ซึ่งตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า ผู้ร่วมก่อตั้งคนสำคัญคนหนึ่งคือ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในนามคณะ “นิติราษฎร์” ที่คนทั่วไปจดจำว่าคือกลุ่มที่เคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าด้วยการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
               ล่าสุด “ธนาธร” ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการตั้งพรรคของเขาว่า จะมีความชัดเจนในช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนนี้ 
               ถึงแม้ว่า “ธนาธร” จะยังไม่ได้ให้ความชัดเจนในเรื่องการตั้งพรรค แต่ถ้อยคำของเขาที่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ยิ่งกว่าชัดเจนว่าเขาตัดสินใจแล้ว
               เขายอมรับว่าสิ่งที่เขากำลังคิดทำเป็นเรื่องเสี่ยง ซึ่งอาจจะเสี่ยงไปจนถึงเรื่องเสรีภาพและอิสรภาพของเขา
               “เพื่ออนาคตที่ดีกว่า ก็คุ้มที่จะเสี่ยง” คำพูดของนักธุรกิจหนุ่มวัย 39 ปี ซึ่งด้านหนึ่งคนมองเขาว่าคือ ทายาททางการเมืองของ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้เป็นอา ที่เคยอยู่ในสนามการเมืองฝั่ง “ทักษิณ” 

“ธนาธร” ขยับ สมการการเมืองเปลี่ยน “คสช.” คิดหนัก !!

               ธนาธร บอกว่า “ขอให้ฟังสิ่งที่ผมพูด ดูสิ่งที่ผมทำ อย่าดูนามสกุลของผม”
               แน่นอน หากเขาตั้งพรรคขึ้นมาจริงๆ อีกประเด็นที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ เป็นนอมินีของใครหรือไม่?

               “เราจะไม่ใช่พรรคที่เป็นนอมินีของใคร ถ้าเราจะเป็นนอมินีของใคร เราก็จะเป็นนอมินีของ               ประชาชนที่อยากเห็นอนาคตใหม่ เราจะเป็นนอมินีของประชาชนที่ถูกกดขี่ เราจะเป็นนอมินีของคนที่ถูกริดรอนเสรีภาพไป ถ้าเราจะเป็นนอมินีของใคร เราจะเป็นนอมินีของคนกลุ่มนี้” นักธุรกิจหนุ่มประกาศ ซึ่งสะท้อนภาพของการที่เขาเคยเป็นนักกิจกรรมสมัยที่เขาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว 
               ในเบื้องต้น พรรคของ “ธนาธร” ถูกวางออกมาเป็น “พรรคทางเลือกใหม่” โดย “คนรุ่นใหม่” 
               “ธนาธร” ให้นิยาม “คนรุ่นใหม่” ว่า ไม่ได้หมายถึงเฉพาะเรื่องอายุเท่านั้น แต่หมายถึงคนที่ไม่ยอมจำนนต่อสถานการณ์ปกติ ไม่ยอมจำนนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น คนที่เชื่อว่าพลังของตัวเองสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่ดีได้

               อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน สำหรับการที่ “ธนาธร” จะสลัดความเป็น “จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ถูกผูกโยงไปถึง “นอมินีทักษิณ” รวมไปถึงการอธิบายจุดยืนเกี่ยวกับเรื่องมาตรา 112 แต่ถ้าเขาทำได้ พรรคของเขาอาจจะได้เป็น “พรรคทางเลือก” จริงๆ


               ช่วงที่ผ่านมา การเมืองไทยถูกแบ่งเป็น 2 ขั้ว แต่เสียงของประชาชนจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนเท่าๆกัน ส่วนที่ 3 คือส่วนของคนกลางๆที่ไม่ต้องการเลือกข้างใดข้างหนึ่ง คนกลุ่มนี้คือกลุ่มคนที่กำลังรอคอยขั้วที่ 3 ที่จะมาเป็น “ทางเลือก” ใหม่
               แต่ไม่ว่าเขาจะทำได้หรือไม่ บอกได้เลยว่าตอนนี้ “ธนาธร” ได้ทำให้ “สมการการเมือง” เปลี่ยนไปแล้ว 
               ภารกิจเดิมของ คสช.ที่จะต้องทำ “ไม่ให้เสียของ” ซึ่งถูกแปลออกมาว่า ต้องสกัดไม่ให้ “ฝ่ายทักษิณ” กลับมามีอำนาจ มีความยากขึ้นมาอีกระดับ เมื่อ “ธนาธร” ขยับเข้าสู่การเมือง
               เพราะด้วย “จุดยืน” พรรคนี้ไม่สนับสนุนฝั่ง คสช.แน่ ซึ่งในทางการเมือง เมื่อไม่เลือกฝ่ายหนึ่ง ก็หมายความว่าต้องเลือกอีกฝ่ายหนึ่ง
               จับตาย่างก้าวการเมืองจากนี้ให้ดี !!

---------

เรื่องโดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์  คมชัดลึกออนไลน์

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit

 

***เรื่องที่เกี่ยวข้อง

"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" โชว์กึ๋น ก่อนลุยการเมือง

แรงส์ !! "ธนาธร" ติดอันดับ 1 เทรนทวิตเตอร์

เอาแน่นะ? “จึงรุ่งเรืองกิจ”  นักการเมือง 4.0 ?

 

“ธนาธร” ขยับ สมการการเมืองเปลี่ยน “คสช.” คิดหนัก !!

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ