คอลัมนิสต์

“บิ๊กตู่” แบ็ก “บิ๊กป้อม” เหนียว !!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เชื่อว่า นายกรัฐมนตรี จะยื้อ พล.อ.ประวิตรอยู่ด้วยกันจนยาวนานที่สุด เพราะเดินมาจนเกือบถึงปลายทางแล้ว

 

             ยังจบไม่ลง สำหรับนาฬิกาหรู ของ “บิ๊กป้อม” พล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ที่ใช้สวมใส่ถ่ายรูป “ครม.ประยุทธ์ 5” เมื่อต้นเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว และพบว่าเป็นรายการที่ไม่ได้แจ้งในบัญชีทรัพย์สินของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (...) พร้อมถูกตั้งคำถามจากสังคมถึงที่มาที่ไป

             ตลอดเวลาที่ผ่านมา พล..ประวิตร ปฏิเสธที่จะชี้แจงข้อสงสัยดังกล่าว ตามคำแนะนำของคนใกล้ชิด เพราะมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว และยิ่งพูด เรื่องจะยิ่งบานปลาย สู้ไปชี้แจงต่อ ป...น่าจะดีที่สุด 

             สอดคล้องกับการถอนตัวของ พล...วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป...  จากการเป็นประธานกรรมการสอบสวนนาฬิกาหรู เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการทำงานด้วยความโปร่งใส ปราศจากข้อกังขา เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับ พล..ประวิตร 

             อย่างไรก็ตาม การนิ่งเงียบและรอผลการตรวจสอบจาก ป... ในครั้งนั้น ไม่ได้ทำให้ทุกอย่างจบลงอย่างที่ พล..ประวิตรคาดการณ์ไว้ แต่กลับสร้างความเคลือบแคลงใจ ที่ขยายเหมือนไฟลามทุ่ง จากคนกลุ่มหนึ่งไปยังอีกกลุ่มหนึ่งผ่านสังคมโซเชียลมีเดีย พร้อมทั้งขุดคุ้ย นาฬิกาหรูอีกหลายเรือนที่ พล..ประวิตร ใช้สวมใส่ในงานต่างๆ

             ความวิตกกังวลเริ่มถาโถมใส่ พล..ประวิตร หลังโซเชียลระแคะระคายว่า นาฬิกาหรูเป็นของเพื่อนผู้ล่วงลับไปแล้วให้ยืมใส่ จนเกิดกระแสเรียกร้องให้ให้แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง และลุกลามไปถึง กลุ่มต่อต้าน ฝ่ายการเมือง เข้ามาโจมตีซ้ำจนสะเทือนถึงรัฐบาลและ คสช. จึงรู้ตัวว่าพลาดที่ไม่รีบชี้แจงความสงสัยให้สังคมทราบตั้งแต่เริ่มแรก 

             จนมาถึงวันนี้ เป็นเวลา 2 เดือนเศษ อาการของ พล..ประวิตร ถือว่า “ร่อแร่” โดยเฉพาะสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ นอนไม่หลับ รับประทานอาหารน้อย จนคนใกล้ชิดไม่ให้ติดตามข่าวสาร

             เพราะทุกปฏิกิริยาและคำวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล ถือเป็นบทสะท้อนที่สำคัญ และส่งผลต่อการตัดสินใจของ พล..ประวิตร ว่าจะลาออก หรืออยู่ต่อ 

             ลึกๆ “บิ๊กป้อม” ถอดใจไปแล้ว แต่ที่ไม่ประกาศอะไรออกมาชัดเจน เพราะติดอยู่ที่ ‘เพื่อนพ้องน้องพี่’ คอยยื้อยุดกันอยู่ โดยเฉพาะ “บิ๊กตู่” พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 

“บิ๊กตู่” แบ็ก “บิ๊กป้อม” เหนียว !!

(อ่านเรื่อง...“น้องตู่” คือ พระจันทร์ “พี่ป้อม” คือ พระอาทิตย์)

             แม้บรรดาคนใกล้ชิดของ พล..ประวิตร จะการันตีว่า นายทหารที่ผ่านสมรภูมิ เข้มแข็งพอที่จะฝ่ามรสุมนี้ และพร้อมจะอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้น้องๆ เดินหน้าแก้ไขปัญหาประเทศชาติ ถึงกับเสนอประโยคเด็ด หวังมัดใจสังคม ให้พูดในงานเลี้ยงเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2561 เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา “ถ้าประชาชนไม่ต้องการ ผมก็พร้อมที่จะไปจากตำแหน่ง” 

             ตบท้ายด้วยกองเชียร์กว่า 50 ชีวิต ที่พร้อมใจบุกกระทรวงกลาโหมในวันรุ่งขึ้น แบบไม่ได้นัดหมาย เพื่อมาให้กำลังใจและเรียกร้องให้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ 

             แต่ดูยังไงก็ไม่เนียน และถูกคาดการณ์ว่าเป็นกองเชียร์จัดตั้งเสียมากกว่า หวังเติมขวัญและกำลังใจให้ พล..ประวิตร ฮึดสู้

             มีการมองว่า การเดินเกมของคนใกล้ชิด พล..ประวิตร ถือว่าพลาดซ้ำสอง เพราะคำพูดดังกล่าว ได้กลายเป็นข้อผู้มัด และชี้ช่องให้ฝ่ายตรงข้ามล่ารายชื่อ ใช้กระแสสังคมกดดันมากขึ้นกว่าเดิม 

             การนิ่งเงียบ งดให้สัมภาษณ์ของ พล..ประวิตร เหมือนที่ทำอยู่ในทุกวันนี้ น่าจะส่งผลดีมากกว่า

             หน่วยงานความมั่นคง ได้วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์บ้านเมืองในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ และยกให้เป็นเดือนที่อันตรายที่สุด สำหรับรัฐบาล ที่ต้องเฝ้าจับตา เพราะเรื่องนาฬิกาของ “บิ๊กป้อม” จะกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญ กลุ่มต่อต้านจุดกระแสเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลและ คสช. ขย่มซ้ำด้วยการเลื่อนการเลือกตั้ง 90 วัน และนายกรัฐมนตรีคนนอก ผ่านกลุ่มเคลื่อนไหว กำลังรวมตัวเพื่อปลุกกระแสให้เหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 หรือ 6 ตุลา โดยใช้นักศึกษา และอาจารย์เป็นหลัก แต่เปลี่ยนสถานที่จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็น จ.ขอนแก่น ในกิจกรรมเดินเพื่อมิตรภาพจากกรุงเทพฯ ถึงขอนแก่น ซึ่งหากตั้งรับไม่ดี จะทำให้รัฐบาลพลาดพลั้งได้ แต่หากผ่านเดือนนี้ไปได้ ถือว่ารอด

             นอกจากนี้ หน่วยงานความมั่นคง บอกอีกว่า แม้ พล..ประวิตร จะลาออก แต่ผลเสียที่จะตามมาคือ ใครจะเข้ามาทำหน้าที่สำคัญนี้ เพราะต้องยอมรับว่า จุดแข็งของรัฐบาลและ คสช.คือ งานด้านความมั่นคง หากไร้คนมีบารมีดูแล ทั้งทหารและตำรวจอาจเดินนอกแถวได้ จะส่งผลให้กลุ่มต่อต้าน ฝ่ายการเมือง ออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้น หากให้นายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม ก็ถือว่าหนักเกินไป เพราะทุกวันนี้งานก็ล้นมืออยู่แล้ว และนายกรัฐมนตรีจะกลายเป็นเป้าสำคัญ ถูกโจมตีคนต่อไป

             สถานการณ์บ้านเมืองที่สงบอยู่ทุกวันนี้ เกิดจากประสิทธิภาพงานด้านความมั่นคง ที่มี พล..ประวิตร ดูแล และบูรณาการให้กองทัพ และตำรวจทำหน้าที่สกัดความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ให้เบาบางลง ถ้าขาด พล..ประวิตรไป เชื่อว่าจะมีแรงกระเพื่อมจากกลุ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น รวมถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มหัวรุนแรง โดยเฉพาะอาวุธสงคราม ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน สามารถตรวจยึดได้เพียง 50% หลังจากทะลักเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมากเมื่อปี 2553” แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง กล่าว

             หนทางที่ดีที่สุด คือประคับประคองสถานการณ์ให้ พล..ประวิตร อยู่ทำหน้าที่ต่อไป แต่ในระหว่างนี้ อย่าให้มีปัจจัยอะไรมาทับถมหรือไปเร่งให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก 

             ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงมองว่า กลุ่มต่อต้านที่เห็นตัวตน คือ กลุ่มหน้าเดิมๆ เพียงไม่กี่คน ไม่ใช่คลื่นมวลชนเป็นหมื่นเป็นแสนเดินขบวนขับไล่เหมือนในอดีต ส่วนกลุ่มต่อต้านที่ไม่เห็นตัวตน คือ กระแสโซเชียล ที่ใครๆ ก็เข้าไปกดโหวต กดไลค์ ได้

             สุดท้ายแล้วไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่า นายกรัฐมนตรี จะยื้อ พล..ประวิตรอยู่ด้วยกันจนยาวนานที่สุด เพราะเดินมาจนเกือบถึงปลายทางแล้ว

             ในระหว่างนี้ ก็รอผลการตรวจสอบจาก ป..หากชี้ว่าผิดจริง ก็ต้องลาออก แต่หากไม่ผิด ต้องเช็กกระแสสังคมกันอีกครั้ง ว่า พล..ประวิตร จะได้ไปต่อหรือไม่ !!??

“บิ๊กตู่” แบ็ก “บิ๊กป้อม” เหนียว !!

(อ่านเรื่อง..."บิ๊กป้อม" ไม่ปิ๋ว... "บิ๊กตู่" ไม่ควบ)

“บิ๊กตู่” แบ็ก “บิ๊กป้อม” เหนียว !!

(อ่านเรื่อง..."บิ๊กตู่" บอก "บิ๊กป้อม" "อยู่กับผมไปทั้งชาติ"!!)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ