คอลัมนิสต์

ลูกอ้อนเที่ยวล่าสุด “บิ๊กตู่” รำลึกคืนถิ่น “เมืองสามหมอก”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เมื่อ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ลงพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ประเดิมปี 2561 แน่นอนว่าลีลายังคงแพรวพราว มาดูกันว่าลีลา "นักการเมือง" ที่ชื่อ "ประยุทธ์" เป็นอย่างไร

“แม่ฮ่องสอน 17 ม.ค. 2561” นับเป็นทริปเปิดหัวของปี 2561 หลังจากครึ่งปีหลังของ พ.ศ. 2560 “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กระหน่ำลงพื้นที่ มีทั้งแบบ การประชุม ครม. สัญจร และแบบลงพื้นที่แบบจังหวัดเดี่ยวแบบโดด ๆ เพื่อตรวจราชการ และภารกิจเฉพาะ หากนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2560  เป็นต้นมา นายกฯลงพื้นที่ไปแล้ว 9 ครั้ง

แน่นอนว่าแต่ละครั้งลีลาของ “นักการเมือง” ที่ชื่อ “ประยุทธ์” ย่อมแพรวพราวขึ้นทั้งลูกหยอด ลูกอ้อน และลูกเรียกคะแนน การลงพื้นที่แต่ละครั้งย่อมีเป้าหมายและมีของขวัญไปแจกชาวบ้านในพื้นที่ ครั้งนี้ก็เช่นกัน

“ลุงตู่” ออกจาก กทม. แต่เช้าตรู่ พร้อมด้วยคณะรองนายกฯแบบน้องๆ ครม. สัญจรทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ขุนพลเศรษฐกิจ อย่าง “สมคิด จาตุศรีพิทักษฺ์”   มือกฎหมายอย่าง “วิษณุ เครืองาม” และ รัฐมนตรีท่องเที่ยว  "วีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์" ไปถึงสนามบินเมืองสามหมอกตั้งแต่ 9 โมงเช้า โดยภาระกิจหลักอยู่ที่ การมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า จ.แม่ฮ่องสอน เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ประชาชนยังมีปัญหาเรื่องความยากจน และที่ดินทำกิน

โดยโครงการนี้เป็นการมอบสิทธิที่ดินทำกินให้กับชาวบ้าน  ในระยะเวลา 30 ปี ซึ่งมีข้อแม้ว่าผู้ได้รับสิทธิไม่สามารถขายที่ดินดังกล่าวได้ แต่ให้ลูกหลานสืบทอดเป็นมรดกได้ ขณะเดียวกันรัฐบาลได้รณรงค์ให้ผู้ได้รับสิทธิปลูกไม้ยืนต้นในพื้นที่ของตนเองด้วย

เล่ากันว่าโครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการที่รัฐบาลหมายมั่นปั้นมือจะใช้ดึงคะแนนนิยมจากชาวบ้าน

“บิ๊กตู่” บอกกับชาวบ้านว่าคณะของเขาน่าจะเป็นคณะใหญ่ที่สุดที่เคยมาจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมถึงบอกด้วยว่า “เป็นรัฐบาลแรกที่เอาคนมาดูแลพวกเรามากขนาดนี้ เพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ เราให้ความสำคัญกับ จ.แม่ฮ่องสอน”

ว่ากันว่าไม่ว่าจะไปไหน นายกฯจะพยายามเชื่อมโยงและสร้างความคุ้นเคยกับคนในพื้นที่

ครั้งนี้ก็เช่นกันระหว่างการเป็นสักขีพยานการแจกที่ดินทำกิน“ประยุทธ์” ก็เล่าว่ารื้อฟื้นความหลังว่า เคยมาที่แม่ฮ่องสอนตั้งแต่ยังมียศร้อยโท โดยมากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ซ้ำยังเคยตามเสด็จมาตลอดทำให้เข้าใจและมีความรู้เกี่ยวกับแม่ฮ่องสอนเป็นอย่างดี

นายกฯยังย้อนความหลังอีกว่า นายกฯ กล่าวอีกว่า “ผมเคยมาที่เมืองสามหมอกนี่หลายครั้งแล้ว เครื่องบินก็ต้องไปลงที่อื่น นั่งเฮลิคอปเตอร์มาก็ไปแตะกลางป่าบ้าง ทหารเดินเท้าเปล่าจากปาย มาจ.แม่ฮ่องสอน ช่วงฝึกทหารเสือ กระโดดร่มก็ที่นี่”

การปราศรัยยังไม่จบง่ายๆเมื่อเขายังให้คำมั่นสัญญาว่า “อะไรที่สามารถทำให้ได้ก็จะทำทันทีในปีนี้ กราบเรียนว่ามันไม่ใช่ว่าผมมาเพื่อสร้างคะแนนนิยม ผมจำเป็นต้องมาอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องมา เพราะมีความชัดเจนเรื่องการประเมินการกำหนดรายได้ของประชากรแต่ละจังหวัด ที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าจังหวัดของเราอยู่ท้ายๆ แต่ไม่ต้องไปวิตกกังวล เพราะรัฐบาลนี้มีแต่ทำให้ดีขึ้น ในระยะเริ่มต้น 61-62 รัฐบาลนี้ทำให้ พร้อมเร่งรัดทุกกระทรวงให้ลงมาดูแลให้มากที่สุด ถึงแม้ว่าจะไปมายากลำบาก และรัฐบาลต่อไปที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ผมรียกว่ารัฐบาลหรือประชาธิปไตยไทยนิยม”

หลังจากนั้น “บิ๊กตู่” ก็ได้ออกเดินทางไปยัง ลานวัฒนธรรมริมแม่น้ำปาย ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริฯ เพื่อเยี่ยมชมผลผลิตโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมรับฟังข้อเสนอของชาวแม่ฮ่องสอน 6 กลุ่ม เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ชาวแม่ฮ่องสอน โดย นายกฯยังย้ำว่าดีใจที่ได้กลับมาแม่ฮ่องสอนอีกครั้ง แม่ฮ่องสอนถือเป็นที่ทำงานของ ร.21 ลูกน้องหลายคนก็ยังอยู่ที่นี่

 และที่นี่เอง นายกฯได้เยี่ยมชมผลผลิตจากชาวบ้าน อาทิ ข้าวเหนียวห่อใบตองตึง กล้วยไม้ บุก กาแฟพืชสมุนไพร ถั่ว ฯลฯ  และได้แนะนำชาวบ้านว่าทำอย่างไรจะขายได้ราคาสูงขึ้น  โดยได้แนะนำให้สร้าง เรื่องราว (Story) ให้กับผลิตภัณฑฺ์ ห้เห็นว่ามีขั้นตอนเป็นมาอย่างไร ใช้เวลาเท่าใด ซึ่งเป็นวิธีที่ต่างประเทศได้ใช้อย่างประสบความสำเร็จมาแล้ว 

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอีกมากไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมการทอผ้า  อุ้มไก่ชน  ให้นมแกะ  จิบชา ชิมอาหารจากฝีมือชาวบ้าน  เรียกว่าครบเครื่องตามสไตล์ “ลุงตู่”

จากนั้นแน่นอนว่าแทบจะเป็นไฟท์บังคับแล้วว่าไปที่ไหน ต้องมีการถามเรื่องเลือกตั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน “ลุงตู่” ก็หยอดกับชาวบ้านว่า “ขอร้องว่าอย่าเกลียดผมเลย และขอบคุณที่ยังมีคนรักอยู่บ้าง รักผมก็ขอบคุณ”

จากนั้นก็ถามต่อว่า “ แล้วจะเลือกใครในวันที่มีการเลือกตั้ง” เมื่อถามอย่างนี้คำตอบจะเป็นอื่นไปได้อย่างไร ชาวบ้านก็ต้องตอยว่า “เลือกนายกฯนั่นแหละ”

“บิ๊กตู่” จึงกล่าวตอบทันทีว่า “อันนั้นค่อยว่ากันอีกรอบ เดี๋ยวจะหาว่าผมมาหาเสียง ยืนยันไม่ได้มาหาเสียง มาเยี่ยมเยียนในฐานะพี่น้อง วันนี้ผมไม่ได้มาเพื่อการเมือง ถือว่าเป็นการมาพบกับครอบครัวของผม รวมถึงรองนายกฯ และรัฐมนตรีทุกคน ” 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและทิ้งท้ายว่า

“ขอให้ชาวบ้านยิ้มหวานๆ มีความสุข”

ก่อนจะกลับ นายกฯก็ไม่พลาดการไปสักการะ “พระธาตุดอยกองมู”  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัด  ไม่มีใครรู้ว่านายกฯขอพรอะไร  แต่ที่แน่ตลอดปีนี้ยังจะมีอีกหลายทริป และยังมีสีสันของ “นักการเมืองที่ชื่อประยุทธ์” ให้รอชมอีกมาก

 -----------

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ