“บิ๊กบี้” ไปแล้ว ถึงคิว “บิ๊กเบี้ยว” สายลุงกำนันตะเพิด!

               วนกลับมาอีก เรื่องราคายางพาราตกต่ำ เหลือกิโลกรัมละ 40 บาท ถือว่าตกต่ำมากเป็นประวัติการณ์ มินับราคายางก้อนถ้วยที่ต่ำกว่า “5 โลร้อย” เกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศเดือดร้อนแสนสาหัส รายรับไม่พอกับรายจ่าย หนี้สินพอกพูนจนล้นพ้นตัว

               เหล่าจอมยุทธ์ชาวสวนยางเดินเรียงหน้าออกมาดับเครื่องชน "การยางแห่งประเทศไทย" ชนิดไม่เกรงใจ คสช. โดยระบุว่า "บิ๊กเบี้ยว" พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เป็นนายทหารที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง แต่ยังติดกรอบความคิดเดิมๆ แบบข้าราชการเก่า และไม่เคยฟังเสียงเกษตรกรชาวสวนยาง กลับเชื่อแต่เจ้าหน้าที่ กยท.ที่ห้อมล้อมอยู่

               ส่วน ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ในทัศนะของจอมยุทธ์ชาวสวนยางมองว่าเป็นผู้ซึ่งไร้ความสามารถเรื่องยาง ไม่มีเครดิตพอที่จะกล่าวถึง

               จำได้ว่า ถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เคยวิจารณ์ "บิ๊กเบี้ยว" ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่งประธานบอร์ด กยท.ว่า "คนที่เรียนโรงเรียนนายร้อย อาจไม่ได้เรียนเรื่องการเกษตรและการบริหารจัดการ จึงไม่เหมาะสมกับตำแหน่งประธานบอร์ด กยท." ฝ่าย "บิ๊กเบี้ยว" ก็โต้กลับเบาๆว่า "เป็นทหารก็เรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการมาเหมือนกัน" 

               มาถึงวันนี้ “ถาวร” คนสนิท “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ลุกขึ้นมาเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ ประสานเสียงกับ ชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช สายลุงกำนันเหมือนกัน

               สรุปความได้ว่า ทางออกจากวิกฤตราคายางตกต่ำคือ ปลดบอร์ด กยท. โดยทันที เพราะบอร์ด กยท.ชุดนี้ไม่สามารถขับเคลื่อนในการสร้างเสถียรภาพราคายางตลอด 3 ปี ที่ พรบฺ.การยางแห่งประเทศไทย มีผลบังคับใช้

               ที่ควรโฟกัสเป็นอย่างยิ่งคือ “บิ๊กเบี้ยว” พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย(กยท.)

               “บิ๊กเบี้ยว" หรือ พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข นายทหารผู้นี้เป็นอดีตนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 15 นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่น 26 มีเพื่อนร่วมรุ่นเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล คือ “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รวมทั้ง พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชาย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

               เส้นทางชีวิตราชการของ พล.อ.ฉัตรเฉลิม เติบโตมาในสายยุทธการ กระทั่งรับตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก ก่อนขึ้นเป็นรองเสนาธิการทหารบก หรือรองเสธ.ทบ. และผงาดขึ้นเป็น เสธ.ทบ.ต่อจาก “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร นายทหารรุ่นพี่

               การได้รับความไว้วางใจให้นั่งตำแหน่งประธานบอร์ดการยาง เป็นคำสั่งสายตรงจาก “บิ๊กตู่” เพราะ “พล.อ.ฉัตรเฉลิม” มีภาพความโปร่งใส มือสะอาด เป็นนักเจรจา อีกทั้งยังมีจิตวิทยาสูงในการพูดคุยโน้มน้าว แถมความสามารถทางภาษาก็ดี

               ผ่านมา 1 ปี ตัวแทนชาวสวนยาง โดยเฉพาะ “อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์” ให้คะแนน “บิ๊กเบี้ยว” สอบตก

               สืบเนื่องมาจากบุคลิกผู้นำสายทหารของ “บิ๊กเบี้ยว” ทำให้กลายเป็นนายทหารที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง และไม่เคยฟังเสียงเกษตรกรชาวสวนยาง กลับเชื่อแต่เจ้าหน้าที่ กยท.ที่ห้อมล้อมอยู่

               อย่างกรณีบอร์ด กยท. เห็นชอบจัดตั้ง บริษัทร่วมทุนยางพาราไทย โดยเป็นการลงขันร่วมกันของ กยท. กับ “5 เสือยางปักษ์ใต้” ซึ่งผลจากการที่ กยท.เอาบริษัทร่วมทุนยางพาราไทยมาสร้างความปั่นป่วนในตลาดกลางยางพารา และการออกมาตรการกำหนดราคากลางที่ขัดกับกลไกตลาด จนทำให้ตลาดกลางต้องปิดตัวลงในช่วงที่ผ่านมา และสร้างความเสียหายต่อเกษตรกรที่จะนำยางมาขาย เพราะต้องถูกกดราคาจากพ่อค้าอย่างไม่มีทางเลือก ซึ่งนำไปสู่ปัญหาราคายางตกต่ำอย่างผิดปกติในขณะนี้

               ด้วยเหตุนี้ อดีต ส.ส.สายลุงกำนันสุเทพ จึงอดรนทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นมาเรียกร้องให้ปลดบอร์ด กยท. ชุดที่มีบิ๊กเบี้ยวเป็นประธาน

               “บิ๊กบี้” ก็ไปแล้ว ยังเหลือแต่ “บิ๊กเบี้ยว” ที่ยังได้รับความไว้วางใจจาก “บิ๊กตู่” อยู่??