คอลัมนิสต์

ตามกลิ่น “ปู” หนีจากสระแก้ว จะเข้าช่องไหน?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จุด “ต่อรถ ลงเรือ ขึ้นเครื่อง” ของหญิงปู ยังต้องติดตามกันอย่างเกาะติด ชนิดที่ "บางคน" ยังต้องงงว่า จะตามอะไรกันนักหนา? อุตส่าห์หนีไปได้แล้วนะเนี่ย!

 

               ยิ่งกว่าหนัง “เชอร์ล็อกโฮล์มส์” กับการไล่ล่าแกะรอยเส้นทางหลบหนีของ อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จนถึงวันนี้ หลายคนยังคงเกาะติดอย่างเหนียวแน่น!

               โดยนับแต่คนไทยตั้งหลักได้ว่า “เจ๊ปู” หนีแล้วแน่ๆ ในวันที่ 25 สิงหาคม 2560 หรือวันพิพากษาคดีจำนำข้าว

               ภายหลังก็เกิดกระแสข่าวลืออื้ออึงออกมาว่า งานนี้มีการเปิดทางอำนวยความสะดวกให้โดยผู้มีอำนาจแน่ๆ

               เริ่มแรกระบุกันว่า ปูได้หลบหนีออกนอกประเทศ ตั้งแต่คืนวันที่ 23 สิงหาคม โดยมีรถของราชการระดับสูง พาหลบหนีไปตามเส้นทางเกาะช้าง เข้าประเทศกัมพูชา โดยมีปลายทางอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์

               ซึ่งตอนนั้น “บิ๊กป้อม” พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาแจงรัวๆ ว่าฝ่ายความมั่นคงไม่ได้รู้เห็นเป็นใจใดๆ ทั้งสิ้น!

               แต่ดูเหมือนหลายคนจะไม่คิดเช่นนั้น! เพราะเวลานั้นหน้าข่าวสารที่เกาะติดเส้นทางหลบหนีของอดีตนายกฯ ปู ออกมาชั่วโมงต่อชั่วโมง จนคนไทยเวียนหัวไปหมด

               เช่น ยิ่งลักษณ์ได้นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวจากประเทศไทยไปยังประเทศสิงคโปร์เลย ไม่ได้เข้าประเทศกัมพูชา

               หรืออีกเส้นทาง คือ ไปลงที่ชายแดนไทย-ลาว ผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน

               และยังมีอีกกระแส คือ นั่งรถยนต์ส่วนตัวออกจากบ้านพัก มุ่งหน้าออกจากกรุงเทพฯไปยัง จ.สระแก้ว ก่อนจะใช้ช่องทางธรรมชาติ เพื่อผ่านด่านข้ามแดนไปยังบริเวณชายแดนด่านบ้านคลองลึก

               ก่อนเดินทางต่อไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยมีผู้กว้างขวางของกัมพูชาให้การช่วยเหลือ เพื่อต่อเครื่องบินไปยังประเทศสิงคโปร์

               อย่างไรก็ดี เส้นทางที่ค่อนข้างตรงกัน คือ หลังจากที่เธอไปทำบุญที่วัดระฆังโฆสิตาราม ในวันที่ 23 สิงหาคม คืนวันเดียวกัน ปูก็ตีกรรเชียง ชิ่งไปพักที่ เกาะช้าง จ.ตราด

               จากนั้นนั่งรถยนต์เข้าประเทศกัมพูชา ขึ้นฝั่งที่เกาะกง และขึ้นเครื่องบินที่สนามบินโปเชงตง กรุงพนมเปญ ในวันรุ่งขึ้นคือ 24 สิงหาคม 2560 เพื่อนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปที่ประเทศสิงคโปร์

               ตอนนั้นยังมีข่าวออกมาว่า มีผู้พบเห็นสาวปูที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น สิงคโปร์ ซึ่งเป็นสถานที่นัดแนะกับพี่ชายเพื่อมารับอีกด้วย โดยฝ่ายทักษิณนั้น มากับเครื่องบินส่วนตัว Gulf Stream G-650ER ขนาด 12 ที่นั่ง ความเร็ว 1,200 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ราคา 2,400 ล้านบาท!

               และจะนั่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ที่มหานครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แหล่งพักพิงของพี่ชายนั่นเอง

 

ตามกลิ่น “ปู” หนีจากสระแก้ว จะเข้าช่องไหน?

 

               ขณะที่แหล่งข่าวยังคาดว่า ทักษิณ ยังดำเนินการติดต่อสถานฑูตประเทศอังกฤษ เพื่อที่จะขอลี้ภัยการเมืองให้อีกด้วย

               พูดง่ายๆ ว่าการตัดสินใจหนีออกนอกประเทศของหญิงปู แน่นอนว่า ได้รับคำสั่งจากพี่ชายที่เตรียมแผนการเอาไว้ทั้งหมด!

               สำหรับจุด “ต่อรถ ลงเรือ ขึ้นเครื่อง” ของหญิงปู ก็จะประมาณนี้เป็นหลัก แต่รายละเอียดยิบย่อย ก่อนจะข้ามเส้นเขตประเทศไทยนั้น ยังน่าติดตาม

               เพราะมันยังหมายถึงความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอีกด้วย!!!

               กล่าวคือ ช่วงวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา แหล่งข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า เส้นทางการหลบหนีของยิ่งลักษณ์ จากกล้องวงจรปิดได้ภาพว่า เจ้าตัวถือกระเป๋ายี่ห้อกุชชี่ พร้อมผู้ติดตามได้ ที่จอดแวะพักทำธุระส่วนตัวช่วงหนึ่ง

               ก่อนจะข้ามชายแดนไทย ผ่านช่องทางพิเศษ ไปกัมพูชา ด้วยความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างทักษิณ กับ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นใบเบิกทาง!

               และที่สุด ช่วงวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา อัพเดทเส้นทางหลบหนีของปูเริ่มชัดเจนมากขึ้น จากคำยืนยันของ “บิ๊กป้อม” เจ้าเก่า ที่ได้ออกมาบอกว่า การตรวจสอบกล้องวงจรปิด เส้นทางการหลบหนีมีความก้าวหน้าอย่างมาก

               แต่ก้าวหน้าได้ไม่ถึงที่สุด เพราะบิ๊กป้อมยังบอกว่า ภาพวงจรปิดจับได้ไม่ถึงสุดด่านชายแดน สิ้นสุดเพียงแค่ด่านทหารสระแก้ว เพราะไม่ปรากฏขบวนรถที่ใช้หลบหนีบริเวณด่านเข้าออก ชายแดน

               อย่างไรก็ดี จากรายงานข่าวที่สื่อมวลชนไปสำรวจเส้นทาง ระบุว่าด่านทหารที่เป็นด่านใหญ่ และมีกล้องวงจรปิดด้วยนั้น ก็มีเพียงด่านทหารกองกำลังบูรพา อยู่ที่บ้านหนองกุง ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว

               และเมื่อเลยจากด่านทหารกองกำลังบูรพา หรือด่านบ้านหนองกุง มาถึงสี่แยก อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ประมาณ 7 กม.ก็จะมีสี่แยกซึ่งหากเลี้ยวซ้ายสามารถวิ่งไป อ.ตาพระยาฯ และออกไป จ.บุรีรัมย์ และ จังหวัดภาคอีสานตอนลางได้

               และหากขับรถแล้วเลี้ยวขวาบริเวณสี่แยก อ.วัฒนานครฯ ก็สามารถวิ่งผ่านถนนเลียบแนวชายแดน ออกไป จ.จันทบุรี และ จ.ตราดได้

               ทั้งหมดจึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ยิ่งลักษณ์ จะหนีออกไปฝั่งกัมพูชาด้านชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพราะเอาเข้าจริงๆ ก็สามารถหนีออกไปได้ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในหลายจังหวัด นั่นเอง

               ที่สุด พล.อ.ประวิตร จึงสรุปว่า ในเมื่อยังมีเส้นทางอื่นที่ใช้หลบหนีได้ ก็คงต้องตรวจสอบกันต่อไป และได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ รวมถึงจะต้องนำคนขับรถมาสอบสวนด้วย ทั้งนี้ทราบว่ารถที่ใช้หลบหนีคือรถเก๋ง

               งานนี้ จะถือว่าจบแล้วหรือยัง ยังไม่แน่ใจ เพราะถ้ามีข้อมูลใหม่ๆ สื่อมวลชนไทยก็ต้องรายงานอยู่แล้ว

               เพราะแต่ละเส้นทางที่อดีตนายกฯ ปู ผ่าน หรือแต่ละจุดที่พัก ถ้าไม่ใช่ขอมดำดิน ก็ต้องมีเจ้าหน้าที่รู้เห็น ใช่หรือไม่?

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ