คอลัมนิสต์

กอ.รมน.เบลอ?“ก๊วนโกตี๋”รับ2แสน เงินช่วยเหลือผรท.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผ่านไปแล้ว พิธีกรรมมอบเงินช่วยเหลือผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) ทั่วประเทศ 6,183 ราย และจ่ายรายละ 2.2 แสนบาท

แต่ในกลุ่มคนเดือนตุลา หรือกลุ่มนักศึกษาที่เคยหนีเข้าป่า หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2560 ยังมีเสียงวิพากษ์มากมายในประเด็น “คุณสมบัติ” ผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือ

หนึ่งในนั้น กอ.รมน.กำหนดให้เป็นผู้มีฐานะยากจน มีรายได้ไม่เกิน 6 หมื่นบาทต่อปี

สำหรับที่กรุงเทพฯ อดีตสหายที่มารับเงินจากมือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จำนวน 294 คน เท่าที่มีการตรวจสอบพบว่า คนที่มารับการช่วยเหลือนั้น เป็นนักศึกษา นักการเมือง กรรมกร และผู้รักประชาธิปไตย ยุค 14 ตุลา หรือ “คนเดือนตุลา” กว่าร้อยละ 80

หลายคนเป็นนักธุรกิจมีรายได้ปีละหลายล้าน หลายคนเป็นข้าราชการบำนาญมีรายได้เดือนละหลายหมื่น บางคนมีสวนยางพารานับร้อยไร่ บางรายมาจากตระกูลคนจีนที่มั่งคั่ง แต่บุคคลเหล่านี้ ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติของ กอ.รมน.ไปได้อย่าง

อดีตสหายอีสานใต้ ได้แสดงทัศนะผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว และเรียกคนเดือนตุลา ที่ไปรับเงิน 2 แสนว่า “สหายเสี่ย” 

"รับทราบข่าวคราวบางเรื่อง อยากถามเพื่อนพ้องน้องพี่่ว่า คิดเช่นใดกับข่าวนี้ สำหรับผม เศร้าครับ

นี่คือข่าว ที่ทำให้ผมสะอึกและเศร้าใจครับ สหายเสี่ยหลายคนเคยพบ เคยรู้จัก แต่ผมทำมันหล่นหายระหว่างทางในชีิวิตผมแล้วครับ"

อดีตประธานสโมสร 19 (อีสานใต้) แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊คเช่นกัน

"บางคนใช้สิทธิ แต่เงื่อนไขอาจไม่ตรง พูดอย่างตรงไปตรงมาคือ โกหกเรื่องสถานะตนเอง พูดยากครับ ระหว่างสิทธิ กับความเหมาะสม แล้วเเต่ดุลยพินิจของสหายแต่ละคน กับเหตุผลเรื่อง ความจำเป็นที่ต้องใช้ปัจจัยการดำรงชีวิต

บังเอิญผมพอจะพึ่งตนเองได้ไม่ต้องไปพึ่งเงินช่วยเหลือจากภาษีประชาชน เก็บความภูมืใจ ไว้เล่าอดีตให้ลูกหลานฟังอย่างสมศักดิ์ศรี"

อดีตสหายนักศึกษาส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือ ผรท. มักจะอ้างว่าเป็น “สิทธิที่ควรได้” โดยลืมนึกถึงประเด็นเรื่องคุณสมบัติ ที่ กอ.รมน.ตั้งใจช่วยเหลือ ผรท.ที่ยากจน ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการประกอบอาชีพ

จะว่าไป กอ.รมน.ก็ใจดี ขนาดอดีตสหายอีสานใต้ คนหนึ่ง ที่ใช้นามแฝงว่า “สหายเผด็จ” ซึ่งวันนี้ รับหน้าที่เป็น “ผู้พิทักษ์โกตี๋” ตะลอนหนีการไล่ล่าอยู่แถวรอยต่อพรมแดนลาว-กัมพูชา ซึ่งตัวเขาผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ ผรท. ก่อนรัฐประหาร 2557 กอ.รมน.ยังอนุญาตให้ทายาทมารับเงิน 2 แสนแทน

เมื่อเร็วๆ นี้ “สหายเผด็จ” เปิดตัวพร้อมกับ “โกตี๋” ระหว่างการแถลงข่าวผ่านช่องทางยูทู้ปของ จอม เพชรประดับ ว่า ทั้งคู่ยืนหยัดต่อสู้ตามแนวทางสหพันธรัฐไท คือ โค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย 

ขณะเดียวกัน คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา “ลุงสนามหลวง” หรือ “สหายสมชาย” หรือ ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ อดีตสหายอีสานใต้ ได้จัดรายการวิทยุใต้ดินผ่านยูทู้ปจากฝั่งลาว แสดงความไม่เห็นด้วยกับการนำเงินภาษีอากรประชาชน มาช่วยเหลือ ผรท. พร้อมกับยืนยันว่า “สหายเผด็จ” และ “สหายยังบลัด” สองสมาชิกสหพันธรัฐไท ไม่ได้เข้าโครงการช่วยเหลือ ผรท.

อดีตสหายอีสานใต้คนหนึ่ง ได้อธิบายว่า การรวบรวมรายชื่อ ผรท.ยื่นขอเงิน 2 แสนบาทนั้น ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2556 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยมีอดีตสหายอีสานใต้ ที่มีบทบาทเป็นแกนนำตั้ง “พรรคใหม่” (องค์กรปฏิวัติ) เป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ “สหายเผด็จ” ก็รวบรวมประวัติเสนอชื่อเข้าร่วมโครงการ ผรท. พร้อมภรรยา

อนึ่ง รายชื่อ ผรท.รอบที่ 4 เหล่านี้ อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แต่งตั้ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.)

ต้นปี 2557 กอ.รมน. คัดกรอง ผรท. ได้ตัวจริง 4,430 ราย และรวมกลุ่มตกค้างจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ 1,175 ราย พร้อมกับมีการยื่นเพิ่มเติมมาจากสหายภาคใต้อีกส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่ทันที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะจ่ายเงิน ก็เกิดรัฐประหาร 2557

สุดท้ายผู้ที่จ่ายเงินให้ ผรท.ก็คือ รัฐประยุทธ์ โดยมี ผรท.จำนวน 6,183 คน จะได้รับเงินรายละ 225,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,391,175,000 บาท

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ