“มไหสวรรย์”อุโมงค์ในตำนาน

ก็แปลกนะ กะแค่เปิดอุโมงค์ให้รถวิ่งสะดวกโยธินขึ้น กลับกลายเป็นเรื่องฮือฮา กันทั้งบ้านทั้งเมือง

ก็เพราะ อุโมงค์ที่ว่า ผู้ใช้ทางผ่านแยกถนนมไหสวรรย์ ตัดกับถนนตากสิน เรียกกันว่า อุโมงค์ 7 ชั่วโคตรกันมาหลายปีแล้ว เพราะผ่านไปผ่านมา รถติดหนึบเป็นตังเม ก็ได้แต่มองไซต์งานก่อสร้างไปพลางๆ ว่าเมื่อไรจะได้ใช้บรรเทาสภาพรถติดแบบนรกแตกเสียที

เช้ามืดวันศุกร์สิ้นเดือนกันยายน 2559 เหมือนจะฉลองเงินเดือนออก และวันสุดท้ายของข้าราชการเกษียณก่อนกลับไปเลี้ยงหลาน กทม.ถือฤกษ์พานาทีราวๆ ตีห้า เปิดให้รถราออกสตาร์ทเปิดซิงกันแบบที่เรียกว่า กลิ่นใหม่เตะจมูก

ทั้งๆ ที่อุโมงค์ยังไม่เสร็จสมบูรณ์แบบเต็มร้อย แต่ก็คงเพราะถ้าจะให้รอคอยกันต่อไปอีกสัก 3 ชั่วโคตร สิริรวมเป็น 10 ชั่วโคตร เห็นทีจะมีคนบุกเสาชิงช้า

“เบญทราย กียปัจจ์” ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ในฐานะ รองโฆษกกทม. ซึ่งไปสังเกตการณ์ตั้งแต่นาทีแรกที่เปิดใช้ บอกว่า เวลา 05.00 น. มีประชาชนขับรถมาต่อคิวเพื่อเตรียมลงใช้อุโมงค์ โดยรถยนต์คันแรกที่เข้ามาใช้งานเป็นรถแท็กซี่ ซึ่งได้ไปถามความรู้สึกกับคนขับแท็กซี่ว่าเป็นอย่างไร ได้รับคำตอบว่า รู้สึกดีใจที่เปิดใช้งาน หลังจากรอมานาน 5-6 ปีแล้ว

ขณะเดียวกันผู้ที่ขับรถลงอุโมงค์หลายคัน ก็พร้อมใจบีบแตรรถยนต์ส่งเสียงเป็นระยะ ซึ่งเข้าใจว่าทุกคนรู้สึกยินดีในการเปิดใช้งานอุโมงค์แห่งนี้ แต่เมื่อเช้ามืดยังมีบางคันลังเลไม่กล้าลงอุโมงค์ บางคันขับถอยออกมา แต่เจ้าหน้าที่เทศกิจก็ให้สัญญาณว่าขับลงอุโมงค์ไปได้ เพราะเปิดใช้บริการแล้ว

สำหรับเหตุผลที่ กทม.เร่งรีบเปิดใช้งานในสภาพที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เต็มร้อยนั้น เบญทรายให้เหตุผลว่า ทุกคนรอมานาน สภาพการจราจรในจุดนี้ติดขัดมาหลายปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาหารือกับกทม.ว่าจะดำเนินการเบื้องต้นอย่างไร เพื่อบรรเทาการจราจรในพื้นที่

ขณะนี้อุโมงค์ทางลอดมไหสวรรย์ถือว่ามีความคืบหน้าแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ ยังต้องเพิ่มเติมในสาธารณูปโภคและเก็บรายละเอียดภายใน แต่โครงสร้างส่วนใหญ่มีความมั่นคงแข็งแรง พร้อมให้รถวิ่งได้ โดยการก่อสร้างทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ก่อนสิ้นปี 2559 แน่นอน อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกกทม.ยังไม่อนุญาตให้รถบรรทุกใช้งาน

“ที่ผ่านมาในช่วงก่อสร้าง กทม.รับรู้ความทุกข์ของประชาชนมานาน ได้รับข้อร้องเรียนผ่านเฟซบุ๊กของผู้ว่าฯ กทม. ว่าประชาชนรู้สึกทุกข์ใจหนักหนาสาหัส ในช่วงการก่อสร้างอุโมงค์ แต่กทม.ก็เจ็บปวดใจ เพราะสาเหตุความล่าช้าก็มาจากหลายปัจจัย ซึ่ง กทม.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และยอมรับข้อผิดพลาดเพียงผู้เดียว แต่จากนี้จะขอคืนความสุข จึงได้เปิดใช้งาน เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้ประชาชน เป็นของขวัญชิ้นสำคัญที่จะมอบให้ในช่วงปีใหม่นี้” เบญทราย กล่าว

สำหรับโครงการทางลอดแยกมไหสวรรย์ ของสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการจัดระบบการจราจร (คจร.) มีมติให้กทม.ดำเนินการโครงการก่อสร้างทางลอดถนนตากสินกับถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2547

ต่อมา กทม.ได้ว่าจ้าง บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ใช้งบประมาณ 969,142,655 บาท โดยเริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554 ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน สิ้นสุดสัญญาวันที่ 9 กันยายน 2556 หลังจากเริ่มสัญญาได้ไม่นานงานค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมแต่มีอุปสรรคในการเดินทาง และการขนส่งวัสดุอุปกรณ์ อีกทั้งติดปัญหาการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคทั้งใต้ดินและบนดิน ได้แก่ ท่อประปา สายสื่อสาร สายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า

ดังนั้น กทม.จึงขยายสัญญาให้บริษัทเริ่มก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2555 ระยะเวลาการก่อสร้าง 180 วัน แต่พบว่า ผลการดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนถึง 60.74% เนื่องจากช่วงปีแรกติดขัดอุปสรรคเรื่องการย้ายสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ การประปา การไฟฟ้า สายท่อโทรศัพท์ ฯลฯ

ทำให้ กทม.ขยายสัญญาให้เป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 ระยะเวลาการก่อสร้าง 150 วัน ระหว่างนั้นคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จึงได้พิจารณาขยายสัญญาให้เป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 1 สิงหาคม 2557 ระยะเวลาการก่อสร้าง 288 วัน ระหว่างนั้นติดขัดอุปสรรคเรื่องการย้ายสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ การประปา การไฟฟ้า จึงได้พิจารณาขยายสัญญาให้เป็นครั้งที่ 4 ในวันที่ 7 สิงหาคม 2558 ระยะเวลาการก่อสร้าง 256 วัน ระหว่างนั้นติดขัดอุปสรรคเรื่องการย้ายสายโทรศัพท์ จึงได้พิจารณาขยายสัญญาให้เป็นครั้งที่ 5 ในวันที่ 11 เมษายน 2559 ระยะเวลาการก่อสร้าง 276 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในเดือนพฤศจิกายน 2559

รวมแล้ว กทม.ได้ขยายสัญญาในการก่อสร้างให้แก่ผู้รับเหมา จำนวน 5 ครั้ง จนได้รับฉายาว่า “อุโมงค์ 7 ชั่วโคตร” ไปตามระเบียบ

/////////////////////////////

ล้อมกรอบ

บันทึกไว้ให้เป็นที่สุด

แยกมไหสวรรย์ ชื่อนี้ถือเป็นที่ครั่นคร้ามของผู้ที่ต้องเดินทางใน กทม.เป็นอย่างยิ่ง ชนิดที่เรียกได้ว่า เลี่ยงได้ก็เลี่ยง เลี่ยงไม่ได้ก็จะเลี่ยง แต่ถึงขนาดที่คนพยายามเลี่ยงกันให้มากที่สุด แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับการจราจรแยกนี้ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย และวันที่ 30 กันยายน 2559 เป็นวันที่เปิดใช้อุโมงค์ลอดแยกมไหสวรรย์ที่รอคอยกันมานาน เราลองมาดูว่าสถิติอะไรที่น่าสนใจกับแยกแห่งนี้บ้าง

1.เป็นที่อุโมงค์ยาวมากๆ วัดได้ 1,515 เมตร กว้าง 17 เมตร มีขนาด 4 ช่องการจราจร ความสูงช่องลอด 5 เมตร ความยาวเฉพาะทางลอด 887 เมตร ใช้งบประมาณ 969 ล้านบาท

  2.โครงการ 7 ชั่วโคตร? เริ่มก่อสร้างโครงการอย่างเป็นทางวันที่ 11 ตุลาคม 2554 เริ่มเปิดใช้อย่างไม่เป็นทางการ 30 กันยายน 2559 สิริรวมเวลา 4 ปี 11 เดือน 19 วัน ขาดอีกเพียง 11 วัน ก็จะครบ 5 ปี คาดหมายว่าโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ประมาณเดือน ธันวาคม 2559

3.ใครจะรู้ จริงๆ โครงการนี้ยาวกว่านั้น? ความจริงเริ่มเมื่อปี 2544 หรือ 15 ปีที่แล้ว แต่ต้องล้มโครงการไปเพราะปัญหาความโปร่งใสในการประมูล

4.ขยายระยะเวลาก่อสร้างยาวนานที่สุด ? แรกเริ่มกำหนดเสร็จสิ้น 9 กันยายน 2556 หรือประมาณ 2 ปีหลังเริ่มสัญญา แต่ต่อมาก็ประสบปัญหาต่างๆ

- โดยผู้รับเหมาได้รับสิทธิ์ขยายสัญญารวมทั้งหมด 5 ครั้ง

- เหตุน้ำท่วม 180 วัน

- เหตุปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท อีก 150 วัน

- เหตุปัญหาสาธารณูปโภคใต้ดินและบนดินขวางการก่อสร้าง 288 วัน

- เหตุเคเบิลขนาดใหญ่ของทีโอที ขวางการขุดอุโมงค์เป็นทางยาว ขอต่อสัญญาอีก 256 วัน

5.รถติดที่สุด? แยกนี้รถติดอันดับต้นๆ ของ กทม. โดยมีความเร็วเฉลี่ยไม่ถึง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

6.รวมชื่อเช็กอินสุดฮา ? ด้วยการใช้เวลาก่อสร้างที่ยาวนาน และรถติดอย่างหนักในแต่ละวัน ทำให้ผู้คนตั้งชื่อเช็กอินสถานที่แห่งนี้เชิงประชดประชันอย่างเมามัน อาทิ

- แยกมไหสวรรย์ อุโมงค์แฮนด์เมด

- แยกมไหสวรรย์ แยกที่ใช้ช้อนและส้อมขุดอุโมงค์

- แยกมไหนรกที่ใช้พลั่วและจอบขุดอุโมงค์

- แยกมไหนรกขุดอุโมงค์ชาตินี้ เสร็จชาติหน้า เป็นอุโมงค์ข้ามคลองที่ยาวที่สุดในปฐพี

- แยกมไหสวรรย์อุโมงค์มหัศจรรย์ทะลุห้วงมิติเหนือกาลเวลา

- แยกมไหนรก ตกนรกหมกไหม้จนมาเกิดใหม่ยังไม่ขยับ

- แยกมไหสวรรย์ติดตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์

ฯลฯ