Lifestyle

"สนธยา คุณ(ตู่)ปลื้ม" ??

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สนธยา" คุณปลื้ม ?? ใครปลื้มบ้างไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ใจคือ "บิ๊กตู่" น่าจะปลื้ม !!

 

               จู่ๆ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ ก็ใช้อำนาจในฐานะหัวหน้า คสช. ออกคำสั่งโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 แต่งตั้งให้ “สนธยา คุณปลื้ม” เป็น “นายกเมืองพัทยา” ทั้งที่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพิ่งเปิดทำเนียบรับ “สนธยา” และน้องชายอีกคนคือ “อิทธิพล คุณปลื้ม” มาช่วยงาน

               ครั้งนั้น “บิ๊กตู่” ให้ “สนธยา” มาทำหน้าที่เป็น “ที่ปรึกษานายกฯ ด้านการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน" ส่วน อิทธิพล มีตำแหน่ง “กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ” ซึ่งต่อมามอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

               หลังจากการเซ็นแต่งตั้งครั้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นผู้เซ็นแต่งตั้งจริง แต่เป็นตามขั้นตอนของส่วนราชการ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอมา

               “เมื่อตรวจสอบไม่มีอะไรเสียหายก็อนุมัติตามขั้นตอนนายสนธยาจะมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และให้คำปรึกษา ซึ่งผมก็ต้องฟังเพราะจำเป็นต้องมีฝ่ายการเมืองมาให้คำปรึกษาบ้างเพื่อมาทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ได้ตั้งเพื่อประโยชน์ทางการเมือง แต่เพราะวันนี้กำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งจึงจำเป็นต้องมีคนเหล่านี้มาให้คำปรึกษา เนื่องจากส่วนตัวไม่รู้ว่าที่ผ่านมา ฝ่ายการเมืองได้ดำเนินการมาอย่างไรบ้าง” ท่าทีของบิ๊กตู่ที่ทำให้หลายคนตั้งคำถาม เพราะก่อนหน้านั้นเคยแสดงอาการรังเกียจนักการเมือง

 

"สนธยา คุณ(ตู่)ปลื้ม" ??

(อ่านต่อ..."บิ๊กตู่" ไม่รังเกียจ "ตระกูลคุณปลื้ม")

 

               ขณะที่ครั้งนั้นนายสนธยาให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 27 เมษายน ว่า “เข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมืองโดยได้รับการทาบทามเข้ามาช่วยงานเกี่ยวกับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ(อีอีซี) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมายหรือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องของการเมืองว่าต้องหนุนหรือไม่หนุน”

               แต่ก็บอกว่า “การเข้ามาก็สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อยู่แล้ว ถ้าไม่สนับสนุนหรือเห็นด้วยกับแนวทางของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คงไม่เข้ามานั่งทำงานร่วมด้วย แต่ในส่วนที่ว่าเราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกันหรือไม่นั้นวันนี้ยังไม่มีการเลือกตั้ง และยังไม่มีการประกาศแนวทางทางการเมืองที่ชัดเจน เราก็ต้องมองอนาคตข้างหน้าว่าเป็นอย่างไร”

               ผ่านมา 5 เดือน พล.อ.ประยุทธ์เซ็นใหม่ ตั้ง “สนธยา” ให้ไปเป็น “นายกเมืองพัทยา” ซึ่งนายสนธยาต้องลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ เพราะตาม พ.ร.บ.เมืองพัทยา ห้ามผู้บริหารเมืองพัทยาเป็นข้าราชการการเมือง

               ในการคำสั่งแต่งตั้งนายสนธยาครั้งนี้ ให้เหตุผลว่า “เมืองพัทยาซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษที่มีบทบาทสําคัญในการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้าการลงทุน พัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจ จัดให้มีกิจกรรมภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จและครบวงจร จัดทําโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคที่มีประสิทธิภาพและพัฒนาเมืองให้ทันสมัยระดับนานาชาติ...จึงมีความจําเป็นต้องได้มาซึ่งนายกเมืองพัทยาและผู้บริหารเมืองพัทยาที่มีศักยภาพสูง พร้อมด้วยประสบการณ์และความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประโยชน์ต่อการสนับสนุนกิจกรรมและการดําเนินการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก รวมทั้งเป็นการปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่นอันจะส่งผลดีต่อการปฏิรูปประเทศ”

 

"สนธยา คุณ(ตู่)ปลื้ม" ??

(อ่านละเอียด...คลิก)

 

               โดยสรุปมีเหตุผล 2 ประเด็น คือ หนึ่ง เมืองพัทยาจะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนอีอีซี โครงการที่รัฐบาลกำลังทำ และสอง นายสนธยา เป็นผู้ที่มีศักยภาพสูง มีประสบการณ์และความรู้ความสามารถ

               นายกฯ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “เป็นการแต่งตั้งตามความเหมาะสม ขออย่ามองเป็นเรื่องการเมือง”

               พล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกด้วยว่าครั้งที่แล้วก็เป็นคนแต่งตั้งนายกเมืองพัทยา ที่ปรับย้ายไม่ใช่เพราะมีความผิดอะไร เพียงแต่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ที่ผ่านมาอาจจะเน้นเรื่องความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก ขณะนี้กำลังเดินหน้าไปสู่เศรษฐกิจ เรื่องอีอีซี ซึ่งจำเป็นต้องใช้คนที่มีความชำนาญเรื่องเหล่านี้ มีความคุ้นเคยกับพื้นที่

               “อย่ามองทุกอย่างเป็นการเมืองหมด เพราะถ้ามองเป็นการเมืองไปหมดก็ทำอะไรไม่ได้ ขยับอะไรก็เป็นการเมืองหมด ไม่ได้หรอก เพราะคนที่ทำงานก็มีอยู่ไม่กี่คนที่จะเข้ามาช่วยผม หลายคนก็เป็นห่วงเป็นใยแต่ก็ไม่โอเคที่จะเข้ามาเอง”

"สนธยา คุณ(ตู่)ปลื้ม" ??

​​(อ่านต่อ...มาตรา 44 ตั้ง "สนธยา คุณปลื้ม" นายกเมืองพัทยา)

 

"สนธยา คุณ(ตู่)ปลื้ม" ??

(อ่านต่อ..."บิ๊กตู่" แจงงัด "ม.44" ตั้ง "สนธยา" นั่ง "นายกเมืองพัทยา")

 

               สำหรับตำแหน่งนายกเมืองพัทยานี้ จากประกาศ คสช. ออกมาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 ที่ให้ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำหน้าที่นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรณีที่นายกหมดวาระหรือตำแหน่งว่างลง ทำให้ในช่วงแรกหลังจาก "อิทธิพล คุณปลื้ม" พ้นจากตำแหน่งเพราะครบวาระในเดือนมิถุนายน 2559 ปลัดเมืองพัทยาจึงมาทำหน้าที่เป็นนายกเมืองพัทยา แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 พล.อ.ประยุทธ์ได้ออกคำสั่งตามมาตรา 44 สั่งให้ “พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี” ซึ่งเดิมเป็นรองประธานสภาเมืองพัทยามาเป็นนายกเมืองพัทยาแทนปลัด

               เหตุผลในการตั้ง พล.ต.ต.อนันต์ ครั้งนั้น คือ “เนื่องจากการบริหารจัดการเมืองพัทยา ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ผู้บริหารจะต้องเป็นผู้บริหารจัดการที่มีศักยภาพสูง ในการประสานงานกับราชการส่วนกลางทั้งในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง การปกครอง ตลอดจนการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด รวมถึงภาคประชาชนอย่างมีเอกภาพทั้งต้องเป็นผู้มีประสิทธิภาพในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ และสามารถบริหารงบประมาณบังคับบัญชาบุคลากร ตลอดจนบริหารงานบุคคลให้ได้อย่างเด็ดขาดตามกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่พนักงานและลูกจ้างเมืองพัทยา และภาคประชาชน โดยเฉพาะในการรักษาความสะอาดการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การแก้ปัญหาการจราจร การพัฒนาชุมชน การแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจของเมืองท่องเที่ยว และปัญหาเร่งด่วนต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาล”

"สนธยา คุณ(ตู่)ปลื้ม" ??

(อ่านละเอียด...คลิก)

 

               ด้วยเมื่อครั้งมีการตั้ง พล.ต.ต.อนันต์ มาเป็นนายกเมืองพัทยาแทนปลัด ก็ให้เหตุผลเพราะ “มีศักยภาพสูง” จึงอดไม่ได้ที่จะมีการตั้งคำถามว่าทำไมต้องเปลี่ยนอีกครั้ง ถึงแม้ตอนนั้นไม่ได้พูดถึงนโยบายอีอีซีของรัฐบาล แต่รายละเอียดที่เขียนไว้ก็ถือว่าครอบคลุมหากไม่ใช่เพราะเรื่องการเมือง ?

               อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ในเมื่อ “อิทธิพล คุณปลื้ม” เคยดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยามาก่อน โดยเขาดำรงตำแหน่งนี้มาถึง 2 สมัย คือ ปี 2551-2559 จึงมีคำถามว่า ทำไมไม่ให้ “อิทธิพล” กลับไปเป็นนายกเมืองพัทยา ?

               คำตอบอาจเพราะว่า ตอนนี้มีการวางตัวให้ “อิทธิพล” ไปเป็นผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ พรรคที่ถูกวางให้มาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง

               อีกกรณีที่มองข้ามไม่ได้ว่าเกี่ยวกับเรื่องที่ตระกูลคุณปลื้มเข้ามาช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่คือ การที่กระทรวงยุติธรรมอนุมัติการพักโทษให้ “กำนันเป๊าะ” สมชาย คุณปลื้ม อดีตผู้กว้างขวางในภาคตะวันออก ผู้พ่อในวัย 80 ปี ที่ถูกจับตัวได้เมื่อต้นปี 2556 ระหว่างหนีคดีร่วมกันทุจริตการซื้อขายที่ดินทิ้งขยะเขาไม้แก้วที่ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 4 เดือน และคดีจ้างวานฆ่า นายประยูร สิทธิโชติ หรือ กำนันยูร ที่ศาลพิพากษาจำคุก 25 ปี (อ่านต่อ...ลำดับเวลา2คดีจำคุก'กำนันเป๊าะ') ไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วด้วยเหตุผล “เจ็บป่วยร้ายแรง เป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย มีอายุเกิน 70 ปี ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้”

               โดยช่วงที่ “พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง” รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เซ็นอนุมัติพักโทษให้กำนันเป๊าะ ก็มีกระแสข่าวเรื่องการเจรจากับนักการเมืองตระกูลคุณปลื้ม เพื่อขอให้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ซึ่งในที่สุดในเดือนเมษายน ปีนี้ สองพี่น้องตระกูลคุณปลื้มก็เข้ามาช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ จนนำมาถึงการแต่งตั้งให้นายสนธยา กลับไปคุมพื้นที่พัทยาในฐานะนายกเมืองพัทยา

               นั่นคือ ข้อมูลด้านหนึ่ง

               แต่ถ้าถามว่า “สนธยา” มีดีอะไร จึงทำให้ “บิ๊กตู่” ปลื้ม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญถึงสองครั้งในรอบ 5 เดือน ก็คงต้องพิจารณาจากโพรไฟล์ของเขา

               สนธยากำลังจะอายุครบ 55 ปี ในเดือนหน้า เขาเป็นลูกชายคนโตของกำนันเป๊าะ เป็น ส.ส.ครั้งแรกเมื่อปี 2535 โดยสังกัดพรรคสามัคคีธรรมของ “ณรงค์ วงศ์วรรณ” ที่สนับสนุน "พล.อ.สุจินดา คราประยูร" เป็นนายกฯ หลังเกิดเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ” ส.ส.พรรคสามัคคีธรรมแตกไปอยู่หลายพรรค สนธยาย้ายมาสังกัดพรรคชาติพัฒนาของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ

               ต่อมาในการเลือกตั้งปี 2538 เขาย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทย และได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นยุคที่ “กลุ่ม 16” ที่มี “เนวิน ชิดชอบ” และ “สุชาติ ตันเจริญ” เป็นแกนนำ และเขาเป็นสมาชิกอยู่ด้วยกำลังเฟื่องฟู

               ต่อมา สนธยายังได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และกระทรวงมหาดไทย ในสมัยรัฐบาล “ชวน 2”

               ในปี 2544 สนธยาได้ขึ้นแท่นเป็นรัฐมนตรีว่าการครั้งแรกที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และต่อมามีการปรับให้ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ตั้งขึ้นใหม่

               ปี 2548 ย้ายมาอยู่พรรคไทยรักไทยและถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี หลังจากพรรคไทยรักไทยถูกยุบ เพราะเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยด้วย ที่เรียกว่า “สมาชิกบ้านเลขที่ 111”

               ในปี 2554 หลังจากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง และ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ได้เป็นนายกฯ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง สนธยา จึงส่งภรรยา คือ “สุกุมล คุณปลื้ม” มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และเมื่อนายสนธยาพ้นโทษแบน เขาก็กลับเข้ามาเป็นรัฐมนตรีแทนภรรยา

 

"สนธยา คุณ(ตู่)ปลื้ม" ??

(สนธยา และภรรยา)

 

               ปัจจุบันเขามีตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังชลด้วย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีฐานเสียงอยู่ที่ จ.ชลบุรี ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าเขาจะพาอดีต ส.ส.จากพรรคพลังชล มาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่

               นอกจากนี้ เขายังมีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี และประธานที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอลชลบุรี ที่มี “วิทยา คุณปลื้ม” น้องชายอีกคนที่เคยเข้ามาโลดแล่นอยู่ในการเมืองสนามใหญ่ด้วย เป็นประธาน

 

"สนธยา คุณ(ตู่)ปลื้ม" ??

(สนธยา กับ วิทยา น้องชาย และ นายสันตศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี)

 

"สนธยา คุณ(ตู่)ปลื้ม" ??

 

               แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอให้ “บิ๊กตู่” ปลื้ม ??

 

====================           

เรื่องโดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ