กรมชลประทาน เดินหน้าทำภารกิจ เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่ หลังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ชัยนาท ส่งรถแบคโฮ เข้าเสริมคันดินกั้นน้ำ อ่างทอง ติดตั้งเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ ปราจีนบุรี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว ฉะเชิงเทรา ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับด้วยระบบไฮดรอลิก
รายงานข่าวจาก กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมชลประทาน ได้เข้าติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ หลังมีฝนตกหนักหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยการดำเนินการจะ
เร่งระบายน้ำจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะเดียวกันยังได้เสริมคันดินกั้นน้ำ เพื่อลดผลกระทบ และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในขณะนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล และ การสั่งการของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการลดความเดือดร้อน สำหรับการดำเนินการ ประกอบด้วย
- จังหวัดชัยนาท
ส่งรถแบคโฮ จำนวน 1 คัน เสริมคันดินกั้นน้ำ บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา วัดลัดเสนาบดี (วัดเกาะ) รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 3 เครื่อง ในเขตพื้นที่อำเภอสรรพยา อีกด้วย
- จังหวัดอ่างทอง
ติดตั้งเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ชนิดหอยโข่งขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล จำนวน 1 เครื่อง บริเวณพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลยี่ล้น อำเภอวิเศษชัยชาญ
- จังหวัดปราจีนบุรี
ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง บริเวณพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี
- จังหวัดฉะเชิงเทรา
ติดตั้งเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ชนิดหอยโข่ง ขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล จำนวน 1 เครื่อง บริเวณพื้นที่ริมถนนปากทางเข้า วัดเปร็งไพบูลย์ธัญญาหาร ตำบลคลองเปร็ง อำเภอเมือง และ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับด้วยระบบไฮดรอลิก จำนวน 1 เครื่อง และขนาดท่อ 24 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำคลอง 19 และคลอง 20 ตำบลหมอนทอง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว
ในการดำเนินการ กรมชลประทาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทำภารกิจในการช่วยประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ในการบรรเทาความเดือดร้อน สามารถติดต่อโครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือสายด่วน กรมชลประทาน 1460 ตลอด 24 ชั่วโมง
กรมชลประทาน เข้าติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ หลังมีฝนตกหนักหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พื้นที่ภาคกลางประกอบด้วย ชัยนาท , อ่างทอง , ปราจีนบุรี และ ฉะเชิงเทรา โดยการดำเนินการจะ เร่งระบายน้ำจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง