แจ้งความเอาผิด "เคหะ-ผู้รับจ้าง" ทำแฟลตถล่ม

ความคืบหน้ากรณีแฟลตดินแดงของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งอยู่ระหว่างการรื้อถอน เกิดการทรุดตัวพังลงมา เมื่อวานนี้ ทำให้รถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายหลายคัน วันนี้สำนักงานเขตดินแดงได้เข้าไปตรวจสอบความเสียหาย พร้อมแจ้งความเอาผิดในข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร แล้ว

วันนี้ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตดินแดง เรืองเดช คงจันทรโอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต เข้าตรวจสอบสถานที่โดยบอกว่า วันนี้ได้ลงพื้นเพื่อฟื้นฟู และบรรเทาเหตุเบื้องต้นให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเมื่อเช้านี้ ได้ส่งตัวแทนของสำนักงานเขตดินแดง ไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สน.ดินแดง เพื่อให้เอาผิดกับผู้รับจ้างรื้อถอน และ การเคหะแห่งชาติ ในข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร ที่มีคำสั่งให้ระงับการรื้อถอน ห้ามใช้ และเข้าไปภายในอาคาร เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ได้รับผลกระทบจากกรื้อถอนตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.ทั้งปัญหาด้านฝุ่น และเสียง และเมื่อเข้ามาตรวจสอบก็ยังพบว่า เกิดปัญหาจริง และไม่มีการปฏิบัติตามเงื่อนไข กทม.จึงได้ออกคำสั่ง ปิดประกาศห้ามรื้อถอน ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา แต่ก็ยังข้ามารื้อถอนอยู่จนเกิดเป็นเหตุดังกล่าว   ซึ่งหลังจากนี้ จะต้องเคลียร์พื่นที่ และจะต้องประสานให้ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม เข้ามาร่วมดูแลให้การรื้อถอนเป็นไปด้วยความปลอดภัย โดยการรื้อถอน จะต้องทำให้ถูกหลักวิศวกรรม ซึ่งจะต้องดำเนินการที่ชั้นบนสุดของอาคารก่อน แต่การทำครั้งนี้ เป็นการเจาะฐานรากลงมา ทำให้อาคารถล่ม และช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ 15 นาย และเจ้าหน้าที่การเคหะ ก็ได้ร่วมกันทำสะอาด และเร่งเปิดเส้นทางภายในถนนชุมชน ใกล้กับจุดที่อาคาร  โดยเร่งเคลียพื้นที่ซากปรักหักพังที่กีดขวางการจราจรออกไปจากพื้นที่ พร้อมเก็บเศษซากอาคาร ซากต้นไม้ และสายไฟฟ้าที่กีดขวางถนน เพื่อให้ประชาชนได้สัญจรผ่านไปมาได้อย่างสะดวก และปลอดภัย รวมถึงมีการตั้งกองอำนวยการเพื่อให้การดูแลช่วยเหลือด้วยพล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า กรมการขนส่งทางบก จะมีมาตราการจะดูแลเกี่ยวกับการขายตั๋วเกินราคา โดยผู้กระทำความผิดจะมีอัตราโทษปรับ 10,000 บาท และจะมีมาตราการกวดขันบรรทุกผู้โดยสารเกินกำหนด ซึ่งเป็นปัญหาทุกปี รวมทั้งควบคุมความเร็ว กวดขันไม่ให้ผู้ขับขี่ทำรอบเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยจะมีการตั้งจุดตรวจการเข้า-ออก ของรถโดยสาร 3 จุดหลัก ประกอบด้วย สถานีขนส่งหมอชิต เอกมัย และ สายใต้ พร้อมทั้งจะมีการเพิ่มรถโดยสารไม่ประจำทางอีก 300 คันที่ผ่านมาตรฐานการตรวจด้านความปลอดภัย เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาส่วนกรณีอุบัติเหตุของรถตู้โดยสารที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต นั้น ทางกรมการขนส่งทางบก ยืนยันว่าเป็นรถตู้ที่ไม่ได้อยู่ในการดูแลของกรมการขนส่งทางบก เนื่องจากเป็นรถรับส่งไม่ประจำทาง ไม่มีความคุ้นเคยกับเส้นทาง หากพบสามารถร้องเรียกได้ที่หมายเลข 1584 ทางตำรวจจะตั้งด่านกวดขันในเส้นทางหลักและรอง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง นอกจากนี้ตำรวจก็ได้ร่วมกับกรมเจ้าท่าในการดูแลการเดินทางของประชาชนทางน้ำ โป๊ะเรือ เรือรับจ้าง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย