ส.อ.ท. ค้านพรรคการเมืองใช้นโยบายขึ้นค่าแรงในการหาเสียง

ประธานสภาอุตสาหกรรมฯ ค้านพรรคการเมืองใช้นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในการหาเสียง ชี้ผลักภาระให้ภาคเอกชน แนะเพิ่มค่าแรงตามฝีมือ ยกตัวอย่างประเทศจีน เมื่อ 10 ปีก่อน ค่าแรงขั้นต่ำคนจีน ต่ำกว่าของไทยหลายเท่า พอเมื่อเศรษฐกิจดี ค่าแรงก็ปรับขึ้นเอง ตอนนี้ถ้าปรับค่าแรงขึ้นมากเกินไป เอกชนจะอยู่ไม่ได้

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท.ระบุกรณีพรรคการเมืองนำนโยบายการขึ้นค่าจ้างแรงงานมาหาเสียง โดยประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400-425 บาท อาชีวะ 1.8 หมื่นบาทต่อเดือน ปริญญาตรี 2 หมื่นบาทต่อเดือน ภาคเอกชนมองว่ารัฐบาลหรือพรรคการเมืองไม่ควรนำเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นการผลักภาระให้ภาคเอกชน มุ่งนำเงินภาคเอกชนไปใช้ เพื่อให้ได้รับคะแนนเสียง ซึ่งมองว่าสิ่งที่ควรทำ คือ ควรมุ่งทำเศรษฐกิจให้ดี เมื่อเศรษฐกิจดี ภาคเอกชนขายของได้ ก็จะมีการขึ้นค่าแรงตามมาก เสียภาษีมากขึ้น เมื่อมีภาษีมากขึ้น ก็ให้นำเงินภาษีมาใช้ได้มากขึ้นตัวอย่างประเทศจีน เมื่อ 10 ปีก่อน ค่าแรงขั้นต่ำคนจีน ต่ำกว่าของไทยหลายเท่า พอเมื่อเศรษฐกิจดี ค่าแรงก็ปรับขึ้นเอง ตอนนี้ถ้าปรับค่าแรงขึ้นมากเกินไป เอกชน จะอยู่ไม่ได้ ล้มหายตายจาก ไม่เงินจ้างงาน สุดท้ายส่งผลกระทบต่อแรงงานส่วนใหญ่

ส่วนประเด็นเงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 2 หมื่นบาท มองว่าควรเป็นไปตามคุณภาพฝีมือแรงงาน รัฐบาลควรแก้ไขให้แรงงานที่จบใหม่ ตรงตามความต้องการภาคเอกชน สามารถทำงานได้เลย ไม่ต้องมาฝึกงาน ทดลองงาน หากแรงงานมีฝีมือภาคเอกชนก็พร้อมปรับเงินเดือนให้สูงขึ้นอยู่แล้ว