เจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบควันดำรถเมล์ ที่อู่รถเมล์ เขตการเดินรถที่ 4 ย่านคลองเตย
พลตำรวจตรีนิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจรร่วมกับนายสมชาย ราชแก้ว หัวหน้าฝ่ายตรวจการกองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบกและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมเขตคลองเตย กรมควบคุมมลพิษ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.จร. ลงพื้นที่อู่รถเมล์ของขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ เขตการเดินรถที่ 4 ย่านคลองเตย เพื่อตรวจควันจากท่อไอเสียรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่อาจมีค่าควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดร้อยละ 45 เป็นสาเหตุของปัญหามลภาวะฝุ่นละอองในอากาศ หรือ PM2.5
ทั้งนี้ พลตำรวจตรีนิธิธร ระบุว่า การเข้ามาตรวจอู่รถเมล์นั้นไม่ได้เป็นการจับผิด แต่เป็นการตรวจตามคำร้องเรียนของประชาชนชนที่ส่งคลิปมา และการตรวจครั้งนี้ได้ประสานร่วมกับกรมการขนส่งกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งจะใช้เครื่องตรวจควันชนิดทึบแสงของทั้งกรมการขนส่งและของ บกจร. หากพบมีค่าเกินมาตราฐานจะออกคำสั่งห้ามใช้รถจนกว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขซึ่งจะทำการพ่นสัญลักษณ์ ห้ามใช้รถไว้ด้านหน้า แต่หากพบมีการลับลอบนำออกไปใช้จะดำเนินการปรับสูงสุดตาม พ.ร.บ.ขนส่ง 50,000 บาท
นอกจากนี้ พลตำรวจตรีนิธิธร ระบุเพิ่มเติมว่า ด่านตรวจควันดำ 20 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก็ยังคงดำเนินการตลอด เฉลี่ยตรวจสอบพบควันดำประมาณวันละกว่า 500 คัน ซึ่งตำรวจได้เปรียบเทียบค่าปรับตาม พ.ร.บ.จราจร รวมถึงจะรวบรวมรายชื่อบริษัทรถที่ตรวจพบควันดำ ให้ดำเนินการแก้ไข แต่หากไม่ดำเนินการก็จะส่งรายชื่อไปยังกรมการขนส่งทางบกให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ขนส่งต่อไป พร้อมยอมรับว่าด่านตรวจควันดำ ที่บริเวณถนนพระราม 2 นั้นมีเยอะมากเพราะเป็นเส้นทางที่รถบรรทุกใช้ โดยหลังจากนี้จะตรวจเข้มมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังได้ฝากไปยังประชาชนหากพบเห็นรถโดยสารสาธารณะหรือรถบรรทุกสามารถที่จะถ่ายคบิปวีดิโอมาร้องเรียนยังตำรวจจราจรได้เพื่อร่วมกันบรรเทาปัญหามลพิษในอากาศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง