(คลิปข่าว) เลือกตั้งใหญ่ปิดยุคแช่แข็งท้องถิ่น

หลัง คสช.ปลดล็อค พรรคการเมืองก็ประกาศนโยบาย ชูประเด็นหาเสียงกันได้แบบไม่ต้องคอยหวาดระแวง ระแวดระวังกันอีกต่อไป อย่างในวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดเสวนาเรื่อง "ทศวรรษหน้า ท้องถิ่นไทย" ชูนโยบายกระจายอำนาจของพรรค

แต่ก่อนจะไปถึงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เราไปฟังความเห็นของนักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านกระจายอำนาจและการปกครองท้องถิ่นกันก่อน เพราะต้องเข้าใจว่าตั้งแต่ คสช.เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง ก็สั่ง "แช่แข็ง" การบริหารงานของท้องถิ่นเอาไว้ ไม่ให้มีการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นทุกระดับ และยังเข้าไปจัดระเบียบเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ โดยให้เหตุผลเพื่อป้องกันการทุจริต แต่ผลกระทบก็เกิดตามมา เพราะทำให้ท้องถิ่นทำงานบางเรื่องไม่ได้เหมือนเดิมฉะนั้นการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้า จึงเป็นการปลุกความหวังเรื่องการกระจายอำนาจและการบริหารงานในระดับท้องถิ่นด้วย อาจารย์ วีระศักดิ์ เครือเทพ จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ บอกว่า พรรคการเมืองไม่ควรประกาศนโยบายแค่ว่าจะกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องพูดให้ชัดว่าจะทำอย่างไร และปัญหาอะไรบ้างที่จะเข้าไปแก้ไข หลังกระจายอำนาจไปแล้วสอดคล้องกับ อาจารย์ จรัส สุวรรณมาลา นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ที่บอกว่า การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นต้องเป็นนโยบายหลักของพรรคการเมืองทุกพรรค แม้จะแตกต่างกันในรายละเอียดก็ไม่เป็นไร เพราะการกระจายอำนาจจะทำให้อำนาจไม่อยู่แค่ที่รัฐบาลกลาง จนเป็นการบริหารแบบรวมศูนย์เหมือนทุกวันนี้ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ นอกจากนั้น การกระจายอำนาจจะทำให้ชุมชนท้องถิ่นแข็งแรง พึ่งตนเองได้ ลดปัญหาคอร์รัปชั่น และปิดช่องทางไม่ให้มีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกด้านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะผู้จัดเสวนา บอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการเรื่องการกระจายอำนาจมาตั้งแต่ตอนเป็นรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญปี 40 โดยกระจายทั้งอำนาจและงบประมาณ จาก 7% ขยับขึ้นสูงสุดถึง 35% แต่รัฐบาลชุดต่อมากลับยกเลิกกฎหมายกระจายงบประมาณสู่ท้องถิ่นไปส่วนประเด็นที่จะขับเคลื่อนต่อเกี่ยวกับการกระจายอำนาจก็คือ การให้จังหวัดจัดการตนเองได้ มีการเลือกตั้ง "ผู้ว่าราชการจังหวัด" ให้ตัวแทนของประชาชนในจังหวัดมาพัฒนาจังหวัด และพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง โดยให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ. และองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต.เป็นมือไม้ทำงาน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ควบคุมประสานงานคุณอภิสิทธิ์ ยังประกาศจุดยืนทิ้งท้ายว่า พรรคประชาธิปัตย์จะยังคงชูนโยบายเรื่องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้เป็นอิสระ โดยไม่ขัดต่อกฎหมายและรัฐธรรมนูญ โดยจะทำงานด้านนี้ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาล และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม