ติดตาม เรื่องเล่าท่องเที่ยวย้อนประวัติศาสตร์ประเทศอิตาลี
ตอนที่ 1 ได้ที่ http://www.komchadluek.net/news/hotclip/325620
ตอนที่ 2 ได้ที่ http://www.komchadluek.net/news/hotclip/325746
ตอนที่ 3 ได้ที่ http://www.komchadluek.net/news/hotclip/325928
ตอนที่ 4 ได้ที่ http://www.komchadluek.net/news/hotclip/327270
ตอนที่ 5 ได้ที่ http://www.komchadluek.net/news/hotclip/327431
.
ในเช้าวันที่ไม่มี อะไรต้องให้รีบร้อน แม้จะตื่นขึ้นมานั่งเล่นอยู่บนที่นอนนุ่ มๆ ฟังเสียงคลื่นที่กระทบชายฝั่ง กวาดสายตาไปรอบๆห้องกั บวิวห้องพักติดริมทะเล ความรู้สึกที่เหมือนเวลาได้หยุดเดิน เพราะแต่ละเสี้ยววินาทีนั้น ไม่อยากปล่อยให้ผ่านเลยไป ก็ถึงเวลาเก็บกระเป๋าออกไปผจญภั ยโลกกว้าง เพราะการเดินทางของเราเพิ่ งจะเริ่มต้นขึ้น กับที่นี่ เมืองหลวงวัลเลตตา (Valletta) ประเทศ สาธารณรัฐมอลต้า (Republic of Malta)
.
.
สาธารณรัฐมอลต้า (Republic of Malta) - หมู่เกาะใน ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Sea) ตั้งอยู่ตอนกลางระหว่างเกาะซิซิ ลี (Sicily) และชายฝั่งแอฟริกาเหนือ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เกี่ ยวข้องกับเรื่องราวของ อัศวินเซนต์จอห์น คณะอัศวินแห่งพระวิหาร หรือรู้จักกันในนาม อัศวินเทมพลาร์ (Templar knights) หน่วยรบฝีมือดีใน สงครามครูเสด (Crusades) สงครามแห่งนครศักดิ์สิทธิ์ เยรูซาเล็ม (Jerusalem) เป็นการทำสงครามศาสนาที่มีชื่ อว่า ศาสนาอับราฮัม (Abrahamic religions) ได้แก่ ศาสนายูดาห์ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม สงครามศาสนาครั้งนี้ถือกำเนิ ดบนภูมิภาคเอเชียตะวันตก บนความเชื่อที่ว่าพระผู้เป็นเจ้ ามีเพียงองค์เดียวเท่านั้น หรือถ้าใครเคยได้ชมภาพยนตร์เรื่ อง Kingdom of Heaven เมื่อปี 2005 ก็จะพอเข้าใจในเรื่ องราวของสงครามครั้งนี้ ความตื่นเต้นที่เกริ่นมาทั้ งหมด...นี้(เอานี้ออกมันเยอะไป) เราจะได้ศึกษาประวัติความเป็ นมาผ่านการเดินทางในครั้งนี้
.
.
หลังจากเดินทางออกจากที่พั กเราใช้เวลาไม่นาน มาที่ เมืองหลวงวัลเลตตา (Valletta) - เมืองนี้ถูกขึ้นทะเบียนเป็ นมกดรโลกในปี ค.ศ.1980 มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประวั ติศาสตร์มากมายและตรงหน้ าของเราก็เป็นอาคาร สำนักงานนายกรัฐมนตรีแห่งมอลต้า
(Auberge de Castille) ในสมัยทศวรรษ 1570 ถูกสร้างให้เป็นโรงแรมที่ดีที่ สุดใน เมืองหลวงวัลเลตตา (Valletta) เราเก็บภาพความสวยงามในการออกแบบ ด้วยสถาปั ตยกรรมบารอค (Baroque architecture) เดินตามถนนต่อมาจนถึง สวนบารัคคา (Barracca Garden) ที่สวนบารัคคานี้ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1661 แบบออกเป็น 2 ส่วนได้แก่ Upper Barracca และ Lower Barracca เป็นจุดที่มองเห็ นภาพบรรยากาศของ อ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ (The Grand Harbour) ได้อย่างสวยงาม
.
.
จากนั้นเราใช้เวลาเดินเท้าไม่นานนัก ก็มาถึงจุดสังเกตการณ์ที่ ป้อมปราการโบราณ (The Saluting Battery) แนวปกป้องเมืองชั้นนอก มีชื่อเรียกกันว่า ซานตามาร์การิต้า (Santa Margherita) ถูกสร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 ป้อมปราการโบราณแห่งนี้เป็น สถาปัตยกรรมจอร์เจีย (Georgian architecture) เป็นการผสมผสานกันระหว่ างอารายธรรมจากชนชาติอั งกฤษและฝรั่งเศส ด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบของ กอธิค (Gothic architecture) ผสมผสานกับ สถาปัตยกรรมพาลเลเดียน (Palladian architecture) และสถาปัตยกรรมแบบจีน (Chinoiserie) หรือตัวอย่างสถาปัตยกรรมที่ ผสมผสานกันแบบนี้ที่บ้านเราก็คื อ รูปทรงการก่อสร้างแบบ อาคารกระทรวงกลาโหม ถนนสนามไชย เขตพระนครกรุงเทพมหานครนั่นเอง
.
.
การออกแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อ คริสต์ทศวรรษ 1760 มีหลักการคำนวนยึดถือหลั กของความสมมาตร วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างมั กจะเป็นอิฐหรือหิน สีที่ใช้ก็มักจะเป็นสีแดง ส้ม หรือ ขาว
.
.
และนอกจากนี้ยังมีกิจกรรม ที่ป้อมปราการโบราณ (The Saluting Battery) ก็คือการแสดงโชว์ยิงปืนใหญ่ที่ตั้งอยู่บนแนวป้องกัน โดยมีรอบการแสดงในเวลา 12.00pm และ 16.00pm ส่วนอัตราค่าเข้าชมอยู่ที่ ผู้ ใหญ่ ราคา 3 ยูโร และ เด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปีราคา 1 ยูโร วันปกติที่ป้อมปราการโบราณจะเต็มไปด้วยเด็ กๆจากหลากหลายโรงเรียนที่แวะเวี ยนกันมาทัศนศึกษาให้คุณได้เห็ นถึงความน่ารักที่ แสนจะซุกซนเอาซะเหลือเกิน หลังจากเก็บภาพเป็นที่เรียบร้ อยแล้ว ถึงเวลาเดินทางกันต่อ
.
.
หลังจากลงรถยนต์มาแล้วเราก็เดินชมความสวยงาม ของการออกแบบลวดลายอาคารทั้ งสองฝั่งถนนและก็มาถึงที่ มหาวิหารเซนต์จอห์น (Saint John's Co-Cathedral) ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิ กชาวมอลตา ภายในตกแต่งใน สถาปัตยกรรมบารอค (Baroque architecture) ที่บ่งบอกถึงอำนาจของคริ สต์ศาสนาในยุคสมัยนั้น สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2120
.
.
มหาวิหารเซนต์จอห์น (Saint John's Co-Cathedral) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่ องเที่ยงของ เมืองหลวงวัลเลตตา (Valletta) ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดแห่ งหนึ่ง
.
.
อีกมุมหนึ่งของ มหาวิหารเซนต์จอห์น (Saint John's Co-Cathedral) มีภาพวาดสีของจิตรกร คนสำค้ญของประเทศอิตาลีในสมัย คริสต์ ศตวรรษที่ 17 เขาคนนั่นก็คือ มีเกลันเจโล เมรีซี ดา คาราวัจโจ (Michelangelo Merisi da Caravaggio) ผลงานการวาดสีน้ำมันที่ใช้ ความเป็นธรรมชาติ (Naturalism) ผสมกับความเป็น นาฏกรรม (Drama) เห็นได้จากการใช้แสงเงามาตั ดกันอย่างชัดเจน ทุกๆมุมของที่นี่ถูกแสดงผลงานศิลปะจากผู้สร้างที่มีชื่ อเสียงมารวบรวมไว้ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึ กษาเรื่องราวและความงาม ต่อจากนั้นเราเดินเท้าต่อไปที่ พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grandmaster's Palace)
.
.
พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grandmaster's Palace) - มีชื่ออย่างเป็ นทางการว่า The Palace เป็นพระราชวังใน เมืองหลวงวัลเลตตา (Valletta) ถูกสร้างขึ้นระหว่ างศตวรรษที่ 16 ซึ่งเคยเป็นสถานที่วางแผนการรบของอัศวิน อาคารนี้ถูกสร้ างและออกแบบโดยสถาปนิกชาวมอลตาชื่อ Girolamo Cassar ซึ่งก็มีอีกหนึ่งผลงานนั่นก็คือ มหาวิหารเซนต์จอห์น (Saint John's Co-Cathedral) ที่เราได้เดินเยี่ยมชมมาในช่วงเช้า ปัจจุบัน พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grandmaster's Palace) เป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาแห่ งสาธารณรัฐมอลต้า (Republic of Malta)
.
.
ส่วนต่างๆของอาคาร ได้แก่ Palace State Rooms และ Palace Armory เปิดต้อนรับให้ได้เข้าชมความงดงามใน สถาปัตยกรรมแบบนิโอคลาสสิค (Neoclassical architecture) ซึ่งได้รับอารายธรรมนี้มาจากชาวกรี กโรมัน หากยังนึกไม่ออกก็ให้นึกถึง ตัวอย่างสถาปัตยกรรมแบบนี้ที่ บ้านเราก็คือ สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่นิยมเรียกกันว่า สถานีรถไฟ หัวลำโพง นั่นเอง
.
.
ยังพอมีเวลาเหลืออยู่นิ ดหน่อย ก็เดินสำรวจแหล่งชุมชนที่ เมืองหลวงวัลเลตตา (Valletta) สนุกดีไม่น้อย ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่นี่ต่างก็ออกมาเดินเที่ยวกันอย่างคึกคักในช่วงวันหยุด ต่อจากนั้นเราก็เดินทางด้วยรถยนต์ข้ ามไปอีกฝั่งของเมืองที่ชื่อว่า เมืองแซงเกลีย (Senglea)
.
เมืองแซงเกลีย (Senglea) - เป็นอีกเมืองท่าเรือในภาคตะวั นออกเฉียงใต้ของ สาธารณรัฐมอลต้า (Republic of Malta) เป็นเมืองที่สามารถป้องกันการรุ กรานจาก จักรวรรดิออตโตมัน (Ottoman Empire) หรือชนชาติตุรกี ในยุคสมัยปัจจุบัน ตรงนี้มี สวนสาธารณะ (Gardjola Gardens) ตรงหอคอยนี้มีทิวทัศน์งดงามของ อ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ (The Grand Harbour) เช่นกัน
.
.
สวนสาธารณะ (Gardjola Gardens) - ถูกวางแผนการสร้างในปี พ.ศ. 1551 พร้อมกับหอเฝ้ายามที่สร้างขึ้ นบนปลายป้อมปราการ หอคอย (Il-gardjola) มีสัญลักษณ์ต่างๆที่แกะสลักไว้ เช่น ตา หู และนกเครน ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ ปกครองและการปฏิบัติ ตามกฎของชายฝั่งมอลต้า
.
.
ระหว่างการเดินทางท่องประวัติ ศาสตร์ เราขอแวะเก็บภาพ ณ จุดจอดเรือยอร์ช (Senglea Waterfront) ภาพของการดำเนินชีวิตอย่างเรี ยบง่ายในวันหยุดพักผ่อนของคนเมืองแซงเกลีย (Senglea) ที่แวะเวียนมารับประทานอาหารว่ าง จิบกาแฟพูดคุยกันอย่างสนุ กสนาน ซึมซับบรรยากาศของเรือยอร์ชหลายร้อยลำ ผ่านเข้าออกตรงท่าเรือนี้ ยังไม่รวมถึงเหล่าเรือเล็กๆที่ แวะมาจอดเทียบระหว่างรอคิวรับส่ งนักท่องเที่ยวข้ามไปมาสองฝั่ งเมือง และอีกไม่ไกลเราก็จะถึงอีกหนึ่ งสถานที่ท่องเที่ยวนั่นก็คือ
.
.
เมืองวิททอริโอซา (Vittoriosa) - เมืองนี้ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ ของ อ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ (The Grand Harbour) ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ ของสาธารณรัฐมอลต้า (Republic of Malta) เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณ แหลมป้ อมปราการ ฟอร์ตเซนต์แองเจโล (Fort Saint Angelo) ภายในเมืองมีสถานที่ท่องเที่ ยวศึกษาประวัติก็คือ พิพิธภัณฑ์สงครามมอลต้า (Malta at War Museum) - ที่เล่าถึงเรื่ องราวสงครามโลกครั้งที่สอง
.
.
เดินจนไปถึง โบสถ์นักบุญลอว์เรนซ์ (St. Lawrence's Church) และท่าเทียบเรือยอร์ช (Grand Harbour Marina) เก็บภาพงานสถาปั ตยกรรมการออแบบของเมืองนี้ก็สนุ กสนานไปอีกแบบ
.
.
ที่เมืองเซนต์จูเลียน (St Julian's) เมืองในภาคกลางของมอลต้า ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่ งทางตอนเหนือของเมืองหลวง เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่ องของการทำธุรกิจการท่องเที่ ยวเช่น โรงแรม ร้านอาหารและไนท์คลับ ซึ่งตั้งอยู่ศูนย์กลางที่เรี ยกว่า Paceville และถ้าใครอยากจะหาซื้อของฝากหรื อของใช้ส่วนตัวก็สามารถไปที่ (Bay Street Shopping Complex) แหล่งรวมร้านสินค้ าหลากหลายประเภท ทั้งของกินของใช้ รวมไปถึงโรงภาพยนตร์และลานโบลิ่ ง ก็สามารถไปใช้บริการได้ที่นี่
.
.
ห่างออกมาเล็กน้อย หากคุ ณอยากจะหาบรรยากาศของชายหาดที่สามารถ เล่นน้ำทะเลได้ก็ไปที่ หาดเซนต์จอร์จ (St. George's Bay Malta beach) ทุกๆเย็นผู้คนจะออกมาเล่นน้ำ ทะเล และนอนอาบแดดกันอย่างคึกคั กเพราะรอบๆบริเวณหาดนี้เต็ มไปด้วยโรงแรมระดับห้าดาวไว้ค่ อยให้บริการ
.
.
เดินเลือกสรรสินค้าจนจุใจ ก็ถึงเวลาที่จะพักผ่อนเติมพลั งสำหรับเช้าวันถัดไป เรานั่ งมองแสงตะวันสุดท้ายก่อนจัดเตรี ยมสิ่งของและทิ้งตัวลงบนที่ นอนนุ่มๆปลดปล่อยความเหนื่อยล้ าและหลับไหลเพื่อเตรียมตั วสำหรับการเดินทางในเช้าวันต่อไป
ขอขอบคุณ
Kuoni GTS Thailand Limited
TURKISH AIRLINES
Express Holiday
สำหรับการเดินทางเก็บร่องรอยศิ ลปะอารายธรรมบนเส้นทาง
Republic of Malta/ Sicily/ Southern Italy
เนื้อเรื่อง/ภาพ/โดย AofTenSia
ติดตาม เรื่องเล่าท่องเที่ยวย้อนประวัติศาสตร์ประเทศอิตาลี
ตอนที่ 1 ได้ที่ http://www.komchadluek.net/news/hotclip/325620
ตอนที่ 2 ได้ที่ http://www.komchadluek.net/news/hotclip/325746
ตอนที่ 3 ได้ที่ http://www.komchadluek.net/news/hotclip/325928
ตอนที่ 4 ได้ที่ http://www.komchadluek.net/news/hotclip/327270
ตอนที่ 5 ได้ที่ http://www.komchadluek.net/news/hotclip/327431