Program Online

(คลิปข่าว) เปิดวินาทีคนขับ ฟอร์จูนเนอร์ รอดตายปาฎิหาริย์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เหยื่อรอดปาฎิหาริย์รถบรรทุกคอนเทนเนอร์พลิกคว่ำทับ เผยพกตะกรุดพ่อตาได้มาจากบรรพบุรุษ

 

เปิดใจนาทีชีวิต! คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ รอดตายปาฎิหาริย์ พลิกตัวหลบทางซ้าย-หัวพาดที่พักแขน รอดหวิดรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ 18 ล้อ พลิกคว่ำ เผยพกตะกรุดพ่อตาได้มาจากบรรพบุรุษ -วอนเขตลาดกระบัง ขยายพื้นที่ถนน

จากกรณีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์พลิกคว่ำทับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กถ 1695 กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้นายวรวุฒิ อยู่ญาติมาก อายุ 42 ปี หัวโฟร์แมน ประจำการบินไทย สุวรรณภูมิ ติดอยู่ใต้ซากรถนานกว่า 2 ชม. แต่ก็รอดตายราวปฏิหาริย์ เหตุเกิดบนถนนประชาพัฒนา บริเวณโค้งวัดพลมานีย์ แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมานั้นความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 พ.ค. ที่ห้องรับรอง ชั้น 16 โรงพยาบาลวิภาราม ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ นายวรวุฒิ อยู่ญาติมาก อายุ 42 ปี หัวหน้าโฟร์แมน ประจำการบินไทย สุวรรณภูมิ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าดูแลควบคุมอาหาร-เครื่องดื่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ พร้อมด้วยนางละมุล อยู่ญาติมาก อายุ 39 ปี ภรรยา เปิดใจต่อสื่อมวลชน หลังเอาชีวิตรอดราวปาฎิหาริย์จากอุบัติเหตุรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์พลิกคว่ำทับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กถ 1695 กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้นายวรวุฒิต้องติดอยู่กับซากรถนานกว่า 2 ชั่วโมงนายวรวุฒิ เปิดใจว่า วินาทีที่เห็นรถพ่วงขับมา ตนก็ชะลอรถและแตะเบรคแล้ว แต่อีกฝั่งหักเลี้ยว วินาทีนั้นตนเห็นตู้คอนเทนเนอร์ คว่ำมาบริเวณหน้ารถ ตนจึงรีบพลิกตัวมาทางด้านซ้าย เอาศรีษะของตนวางอยู่บนที่พักแขน จากนั้นตนจึงรีบบีบแตรและตะโกนขอความช่วยเหลือทันที จากนั้นไม่นานก็มีคนตะโกนถามชื่อ และถามว่าตนมากี่คน ตนก็ตะโกนตอบกลับไป และบอกให้ไปหาภรรยาของตนที่หมู่บ้านพิสาร ซอย 6 บ้านเลขที่ 331 ต่อมาประมาณ 20 นาที ภรรยาของตนก็มาถึง และตะโกนบอกให้ "สู้ๆนะพ่อ"นายวรวุฒิ กล่าวอีกว่า ตนทนอยู่ท่านั้นประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ตนได้ยินเสียงคนตะโกนเพื่อช่วยเหลือตนตลอด ตนคิดว่าไม่ตายแน่นอน เพราะตนมีสติทุกอย่าง ไม่สลบ สามารถสื่อสารให้คนมาช่วยได้ แต่ในตอนนั้น คิดแค่ว่าจะทำอย่างไรให้ออกไปได้เร็วที่สุด คิดถึงครอบครัว หน้าพ่อและแม่ จากนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา เมื่อเจ้าหน้าที่มาตัดประตู ตนก็ใช้แรงถีบตัวเองให้ออกมาจากรถให้เร็วที่สุด และเจ้าหน้าที่ก็รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที หลังจากที่เกิดเหตุ ตนเพิ่งได้เห็นสภาพรถในช่วงเช้า ซึ่งมีแต่คนบอกว่า ตนไม่น่ารอดมาได้ ส่วนตัวแล้วตนคิดว่าสาเหตุที่รอดมาได้ เพราะตนเคยผ่านการอบรมการช่วยเหลือตนเองเบื้องต้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และควบคุมสติได้เป็นอย่างดี และตนคิดว่ามันเป็นสัญชาตญาณของการเอาตัวรอด หากตนไม่เอียงตัวหลบ คงบาดเจ็บมากกว่านี้ และคิดว่า ตนดวงแข็งนายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า โดยในวัน 26 พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดภรรยาของตน และในวันนี้(28พ.ค.) เป็นวันเกิดตน เมื่อวานจึงจะกินเลี้ยง ตัดเค้ก และกินข้าวกับครอบครัว ซึ่งทำแบบนี้เป็นประจำทุกปี แต่ปีนี้ดันเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีลางสังหรณ์อะไร มีเพียงตนที่อยู่ๆ อยากใส่เสื้อสีดำ กางเกงสีดำ ออกจากบ้าน และนำตะกรุดที่ทางพ่อตาให้ไว้ตอนแต่งงานเมื่อหลายปีมาแล้ว ซึ่งเป็นตะกรุดที่ทางพ่อตาได้มากจากบรรพบุรุษ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าได้มาจากไหน แต่ตนจะนำมาติดตัวไว้ตลอด เมื่อต้องเดินทางไกล ซึ่งปกติแล้ว ครอบครัวของตนบูชา เสด็จพ่อรัชกาลที่ 5 จะใส่ติดตัวไปตลอด แต่วันนั้นตนไม่ได้ใส่ไป ซึ่งหลังจากนี้ จะไปทำบุญที่ วัดพลมานีย์นายวรวุฒิ กล่าวอีกว่า ขณะนี้อาการบาดเจ็บของตนดีขึ้นแล้ว แต่ยังเจ็บหน้าอกด้านซ้าย แขนซ้ายชาทั้งแขน ขยับได้เล็กน้อย แต่แพทย์เอ็กซเรย์แล้ว ไม่พบว่ามีกระดูกหัก แต่จะมีการเอ็กซเรย์ทั้งร่างกายอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ทางแพทย์ยังไม่แจ้งว่าสามารถออกจากโรงพยาบาลวันไหน แต่ตนคิดว่า จะนอนพัก 1 สัปดาห์ และค่อยกลับไปรักษาตัวที่บ้านต่อนายวรวุฒิ กล่าวว่า ในส่วนของคู่กรณี ตนยังไม่มีโอกาสได้คุย แต่ทราบจากภรรยาว่า คู่กรณีมีปริมาณของแอลกอฮอล์ และมีอาการหลับในด้วย จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ส่วนตัวตนไม่รู้สึกโกรธอะไร เพราะทราบว่าทางคู่กรณี ก็ถูกดำเนินคดีแล้วด้านนางละมุล กล่าวว่า ในส่วนของคู่กรณีเมื่อสักครู่ได้คุยกันแล้วแต่ยังไม่สามารถตกลงได้ เนื่องจากเจ้าของบริษัทติดภารกิจที่ต่างจังหวัด ส่วนประกัน ยังไม่สามารถตกลงได้เช่นกัน ต้องรอให้ สามี ออกจากโรงพยาบาลก่อน ตอนนี้ตนยังไม่มีความกังวลอะไรมาก เรื่องอาการบาดเจ็บ ภายนอกอาการดีขึ้นมากแล้ว แต่ภายในยังคงมีความกังวลอยู่ ว่าในอนาคตจะมีผลกระทับอะไรหรือไม่นางละมุล กล่าวอีกว่า วินาทีที่เห็นสภาพของรถ ตนไม่คิดว่าสามีจะรอดมาได้ แต่เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้เรารักกันมากขึ้น จึงอยากขอขอบคุณ คุณลุงท่านหนึ่ง ที่ตอนนี้ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร วิ่งมาบอกตนว่าสามีเกิดอุบัติเหตุ ขอบคุณมูลนิธิร่วมกตัญญูและทุกหน่วยงานที่ร่วมกันช่วยเหลือ ถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือ สามีตนอาจจะไม่รอด และอยากฝากบอกไปถึง เจ้าของธุรกิจ อุตสหกรรมในพื้นที่นั้น ว่าอยากให้มีการกำชับ พนักงานขับรถ ให้ขับขี่อย่างระมัดระวัง เนื่องจาก เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อย แต่ไม่มีใครเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ นอกจากนั้นพื้นที่บริเวณนั้นมีโรงเรียนด้วย จึงอยากให้กำชับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้านนายวรวุฒิ กล่าวว่า อยากฝากไปถึงเขตลาดกระบัง ว่า อยากให้ขยายถนนให้กว้างมากขึ้น เพราะ ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่รถบรรทุกวิ่งเป็นประจำ อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกได้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ