อ้างทหารตบหน้ากู้ภัยขู่หมอศิริราช

               เพจ แหม่มโพธิ์ดำ โพสต์คลิปภาพข้อความเผย จ่าเอกเมาแล้วกร่าง บอกอาสาคุยเสียงดัง ตบหน้าหันใน รพ.ศิริราช สุดท้ายเปิดตูดหนี ระบุ

 

 

 

               " อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุด.ทวี38 นำคนเจ็บมาส่งที่ โรงพยาบาลศิริราช มีชาย 3 คน อ้างตัวเป็นทหารในกรมวัง อยู่ๆ เดินเข้ามาหาเรื่องอาสาสมัครว่าคุยเสียงดัง และได้ทำร้ายร่างกายอาสาสมัครอีกด้วย โดยใช้มือตบเข้าที่ใบหน้า 1 ที คนมีสีทำอะไรก็ไม่เคยผิด พวกผมก็อาสาสมัครเงินเดือนก็ไม่มี แถมมาโดนคนมีสีรังแกอีก ที่สำคัญตอนเจอตบพวกผมไม่ได้โต้ตอบนะครับพี่ควีน เราอยู่ในชุดมูลนิธิแถมอยู่ในสถานที่ราชการ ต่อให้โมโหแค่ไหนก็พยายามข่มใจไว้ สุดท้ายพี่เขาหนีไป ส่วนพวกผมก็ไปแจ้งความ ช่วยให้ความเป็นธรรมกับพวกผมด้วยนะครับ ในคลิปที่ลงคือตบเสร็จแล้ว "

 

 

 

 

รับเมา ขาดสติ ขอโทษอาสาสมัคร

               เฟซบุ๊ก อลงกรณ์ ชูวงศ์วาน โพสต์ภาพข้อความเผยความคืบหน้าทำร้ายอาสาสมัคร ผู้บังคับบัญชาพาทหารคนดังกล่าวมาไกล่เกลี่ยปรับความเข้าใจ รับเมา ขาดสติ ขอโทษ

 

 

               " จากเหตุการณ์เมื่อคืน กรณีทำร้ายร่างกายอาสาสมัคร ความคืบหน้า ผู้บังคับบัญชาของทหารท่านดังกล่าว ได้พาเข้ามอบตัว ไกล่เกลี่ย ซึ่งผลที่ได้ คือ ปรับความเข้าใจ ฝ่ายพี่ทหารได้ออกมายอมรับว่ามีอาการเมา ทำไปโดยขาดสติ และได้กล่าวคำขอโทษ กับ อาสาที่ถูกทำร้ายร่างกาย เหตุการณ์จบลงด้วยความเข้าใจ และกลับไปสอบสวนทางวินัยและรับบทลงโทษเพิ่มเติม ขอบคุณทุกฝ่ายที่เป็นห่วง และช่วยกันดูแล พี่น้องอาสา ของเราครับ และขอขอบคุณทุกๆ สื่อมวลชนที่สนใจและติดตามมาตลอดครับ "

 

 

 

ปรับ 1 พัน “จ่าเอก” ตบหน้าอาสา

               27 เม.ย. 60  จากกระแสโลกโซเชียลที่มีการแชร์คลิปวิดีโอของชายที่อ้างว่าเป็นทหารกรมวัง จำนวน 3 นาย ซึ่งมีอาการมึนเมา กำลังอาละวาดด่าทอพยาบาลในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลศิริราช แถมยังตบหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่นั่งรออุปกรณ์ชุดกู้ภัยที่ช่วยเหลือชายประสบอุบัติเหตุรถ จยย.ล้มได้รับบาดเจ็บสาหัส อยู่หน้าห้อง โดยอ้างว่ามองหน้าแล้วหัวเราะเยาะขณะกำลังอาละวาด สุดท้ายอาสาคู่กรณีได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางกอกน้อย เหตุเกิดเมื่อประมาณ 22.00 น. วันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา

 

 

               ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น.  จ่าเอก พานิช มีสมคิด อายุ 44 ปี รอง ผบ.หมู่ สารวัตร กรมสารวัตรทหารเรือ ซึ่งเป็นผู้ที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมชาย จิรวรรค รอง ผกก.สส.สน.บางกอกน้อย พร้อมทั้งให้การถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับเพื่อนได้นั่งดื่มกินกันที่ร้านอาหารย่านโพธิ์สามต้น ถ.อิสรภาพ เขตบางกอกใหญ่ และเมื่อเลิกสังสรรค์ จึงได้ขี่รถ จยย.จะกลับบ้าน แต่ได้เกิดอุบัติเหตุรถล้มทับเท้า จนได้รับบาดเจ็บนิ้วนางเท้าด้านขวาเป็นแผลฉกรรจ์ เพื่อนจึงได้พาตนมาส่งที่ห้องอุบัติเหตุ โรงพยาบาลศิริราช โดยพยาบาลได้ทำแผลเบื้องต้น ก่อนจะส่งไปเอกซ์เรย์บาดแผล แล้วให้นั่งรออยู่นานหลายนาที โดยไม่ทำอะไรต่อเลย

               อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นตนรู้สึกปวดแผลมาก และได้เห็นอาสากู้ภัย ได้พาผู้บาดเจ็บอาการสาหัสเข้ามาส่งที่โรงพยาบาล โดยพยาบาลได้รีบนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที และให้ตนนั่งรออยู่ที่หน้าห้อง โดยที่ตนก็ไม่รู้ว่าจะได้เย็บแผลเมื่อใด ประกอบกับมีอาการมึนเมา จึงเกิดบันดาลโทสะอาละวาดกับพยาบาล โดยกล่าวว่า ตนเป็นทหารกรมวัง เคยมาปฏิบัติภารกิจที่โรงพยาบาลศิริราชอยู่บ่อยครั้ง เมื่อถึงคราวตนเจ็บป่วยบ้าง ทำไมไม่ได้รับการดูแล ช่วงนั้นตนเหลือบไปเห็นอาสากู้ภัย นั่งคุยหัวเราะกันอยู่ จึงคิดว่าน่าจะหัวเราะเยาะตน ดังนั้น จึงได้เดินเข้าไปตบหน้านายนัทที มียอด อายุ 32 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุดทวีวัฒนา 38 เข้าที่หน้า 1 ครั้ง จากนั้นจึงเดินทางไปเย็บบาดแผลที่โรงพยาบาลธนบุรี จำนวน 16 เข็ม เพราะทนรอไม่ไหว แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องราวบานปลายขนาดนี้ ตนขอยอมรับผิดทุกประการ และจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก

 

 

               นายนัทที กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้รับผู้บาดเจ็บเป็นชาย จากสาเหตุรถ จยย.ล้ม อาการสาหัส หมดสติ จากหน้า สน.บางขุนนนท์ ถ.บางขุนนนท์ มาส่งที่ห้องอุบัติเหตุ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อมาถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้รีบนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อช่วยชีวิตเป็นการด่วน ช่วงนั้นตนพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน จึงนั่งรออยู่หน้าห้องอุบัติเหตุ เพื่อรออุปกรณ์ช่วยเหลือ ระหว่างนั้น จ่าเอก พานิช ได้เดินเข้ามาพูดจาหาเรื่องตน พร้อมกับบอกว่า ตนหัวเราะเยาะ แล้วก็ตบเข้าที่แก้มขวาของตน 1 ครั้ง จนหน้าสั่น ตนพยายามอธิบาย แต่ จ่าเอก พานิช ก็ไม่ฟัง ทำให้ตนต้องรีบไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุเพื่อนตนได้อัดคลิปช่วงที่ จ่าเอก พานิช อาละวาด ลงโลกโซเชียล เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ และอยากได้ความเป็นธรรม

               อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.สมชาย ได้นำคู่กรณีมาเจรจากัน ซึ่งนายนัททีก็ขอแค่ จ่าเอก พาพิช รับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น และยอมกล่าวขอโทษก็จะไม่เอาเรื่อง ซึ่ง จ่าเอก พานิช ก็ยอมขอโทษ โดยทั้งคู่ได้จับมือกันเลิกแล้วต่อกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการปรับ จ่าเอก พานิช เป็นเงินจำนวน 1 พันบาท ข้อหาใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ก่อนจะแยกย้ายกันไป