อารีเพ็ญ แถลงข่าวดี ‘ฮามาส’ รับปากปล่อย ‘ตัวประกัน’ วันนอร์ บินไปรับ

การสู้รบอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส เข้าสู่สัปดาห์ที่4 ท่ามกลางความสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ ที่น่ากังวลคือความปลอดภัยของ “ตัวประกัน”  ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไป รวมถึง“แรงงานไทย” 22 ชีวิต ยังไม่รู้ชะตากรรม ล่าสุด หลังคณะที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราฏษร บินลัดฟ้าเจรจาล่วงหน้าก่อนรัฐบาลไทยจะขยับเพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลนั้น 

 

 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พ.ย. 2566 ที่รัฐสภา นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาฯแถลงข่าวการเจรจาช่วยเหลือตัวประกันคนไทย จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล

 

นายอารีเพ็ญ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ไปเจรจาเพื่อช่วยเหลือตัวประกันที่กลุ่มฮามาสจับตัวไป หลังจากนายวันมูหะมัดนอร์ มีหนังสือไปยังตัวแทนของกลุ่มฮามาสที่อยู่ในประเทศอิหร่าน โดยทางกลุ่มฮามาสได้ตอบรับให้ตนพบในวันที่ 26 ต.ค. 2566  แต่ด้วยความรีบร้อน ตนไปตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2566 โดยไป 2 คน ซึ่งเป็นคนที่ประสานงานช่วยเหลืออยู่ที่ประเทศอิหร่าน

 

 

“นายวันนอร์ ถือว่ามีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่ของชาวอิหร่าน จึงมีผลต่อกลุ่มต่างๆ ไม่ว่ากลุ่มฮามาส กลุ่มฮิบูเลาะห์ ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าทั้ง 2 กลุ่มเข้มแข็งเพราะใคร นอกจากนั้นเรามีคณะทำงานที่เข้มแข็งอยู่ในอิหร่าน สามารถประสานเข้าพบกับแกนนำกลุ่มฮามาสที่อยู่ในอิหร่านได้ เราจึงพุ่งเป้าที่อิหร่านช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน 22 คน และด้วยความตั้งใจของประธานสภา และตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศ ทางใดที่ท่านจะชี้แจงกับกลุ่มฮามาสได้ หรืออิหร่าน ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลต่อฮามาส ท่านยินดีให้ความร่วมมือ เพื่อให้คนไทยกลับมาโดยสวัสดิภาพ” นายอารีเพ็ญกล่าว

 

นายอารีเพ็ญ กล่าวต่อว่า การได้เจอกับตัวแทนกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นบุคคลที่เป็นเป้าหมายของสหรัฐในระดับต้นๆ โดยพูดคุย 2 ชั่วโมง ขอร้องให้เขาปล่อยแรงงานคนไทยที่ถูกจับไปเป็นตัวประกัน เพราะแรงงานไทยไม่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ครั้งนี้ ซึ่งตัวแทนกลุ่มฮามาสบอกกับตนว่า ช่วยบอกกับญาติพี่น้องของผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันทั้งหมดว่า คนเหล่านี้ได้รับการดูแลอย่างดี และไม่เดือดร้อน

 

 

แต่หากเขากำหนดวันเวลาที่จะปล่อย เขาเกรงว่าระเบิดที่มาจากฝ่ายคู่ต่อสู้จะเกิดอันตรายกับผู้ที่ถูกปล่อยตัว เขาจึงรอจังหวะ เวลาใดที่เหมาะสม เขาจะปล่อยทันที ซึ่งเขาให้คำสัญญา เพราะเขาอยากให้คนไทยที่อยู่กับเขาเมื่อถูกปล่อยตัวออกมา และพูดว่าฮามาสโหดร้ายจริงหรือไม่ อยู่กับเขามา 10 วัน ได้รับการกระทำอะไรบ้าง เขาอยากให้มาออกสื่อในประเทศไทย เขาจึงต้องดูแลทุกคน ซึ่งคือความปรารถนาของเขา และเขาบอกว่าเขาจะพยายามทุกวิถีทางที่ให้คนไทยทั้งหมดที่ถูกกักตัวอยู่อย่างปลอดภัย นี่คือสิ่งที่เขารับปากกับเรา

 

 

พบ 3 บุคคลสำคัญของอิหร่าน

นายอารีเพ็ญ กล่าวอีกว่า จากนั้นวันที่ 29 ต.ค. 2566 ตนได้พบกับคนที่มีบทบาทของอิหร่าน คือ 1.อายาตุลเลาะห์ อัคตารี ที่ปรึกษาประธานาธิบดีและประธานสมัชชาองค์กรปาเลสไตน์แห่งสำนักประธานาธิบดีอิหร่าน 2.ดร.ระมีฮียาน เลขาธิการใหญ่องค์กรช่วยเหลือประชาชาติปาเลสไตน์แห่งชาติ และ 3.ดร.รูวัยรอน ประธานสมาพันธ์พิทักษ์เยาวชนปาเลสไตน์และต่อต้านอิสราเอลแห่งชาติ ซึ่งบุคคลทั้ง 3 มีความสัมพันธ์กับปาเลสไตน์ โดยพูดคุยนาน 3 ชั่วโมง ทั้ง 3 คนก็รับจะให้ความช่วยเหลือ

 

 

ฮามาส ปฏิเสธข่าวทารุณคนไทย

นายอารีเพ็ญ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีข่าวทารุณคนไทย เขาบอกว่า ทางฮามาสไม่เคยทำอย่างนี้ แต่เขาบอกว่าตอนที่มีกำแพงถล่ม แล้วมีการบุกเข้าไป ไม่รู้ว่าใครเป็นใครก็อาจจะมีการยิงกัน นี่คือสิ่งที่เขาตอบตน และบอกว่าไม่ใช่การกระทำของฮามาสแน่นอน ดังนั้น การที่อิสราเอลและสหประชาชาติเอาภาพมาออกก็ชัดเจนว่าเป็นใครทำอะไรที่ไหน วิธีการกระทำ หรือโดนทุบ รวมถึงการพูดต่างๆ ก็ไม่ใช่ของฮามาสและยังไม่ยืนยันว่าเป็นคนไทยหรือไม่ อาจเป็นคนที่มีความแค้นส่วนตัว

 

 

“จากที่ผมไปสัมผัส ตัวแทนของเขาให้เกียรติเรา และเขาจะดูแลคนไทยที่อยู่เป็นอย่างดี จะไม่ให้เสียชีวิต เพราะคนเหล่านี้จะเป็นกระบอกเสียง เมื่อออกมาแล้วจะบอกว่าเขาอยู่ในการกักกันของฮามาสได้รับผลกระทบและเดือดร้อนอะไรบ้าง”นายอารีเพ็ญกล่าว

 

 

เมื่อถามว่าจากการพูดคุยกับตัวแทนฮามาส ทางกลุ่มฮามาสได้ให้พูดคุยหรือวิดีโอคอลกับแรงงานที่ถูกจับเป็นตัวประกันหรือไม่ เพื่อยืนยันว่ายังมีชีวิตอยู่ นายอารีเพ็ญ กล่าวว่า การใช้โทรศัพท์ที่นั่น ถือเป็นอันตรายสำหรับคนที่อยู่ที่นั่น เพราะเมื่อมีการจับคลื่นได้ที่ไหน ระเบิดจะจับทันที เขาจึงไม่ได้ให้พูดคุย แต่เขาบอกว่าหากตนจะเดินทางไป เขายินดีพาไป แต่ตนไม่ไปเพราะหากไปก็เสี่ยงอันตราย

 

 

เมื่อถามย้ำว่าอะไรที่ทำให้เรามั่นใจว่าตัวประกันยังปลอดภัยอยู่ นายอารีเพ็ญ กล่าวว่า เขามายืนยันกับตน และให้บอกกับญาติพี่น้องในประเทศไทยให้สบายใจ ซึ่งตนก็จะบอกกับ ส.ส.ในพื้นที่ให้ไปบอกแทน

 

 

ต่อข้อถามว่า กลุ่มฮามาสได้บอกกรอบกว้างๆหรือไม่ว่าจะปล่อยตัวประกันเมื่อไหร่ นายอารีเพ็ญ กล่าวว่าเขาจะปล่อยตัวให้เร็วที่สุด คิดว่าคงไม่นานเกินรอ และถ้าจะปล่อยตัวก็อยากให้ปล่อยทางอิหร่านเพราะสะดวก โดยนายวันมูหะมัดนอร์ จะเดินทางไปรับเองและจะขอบคุณผู้ใหญ่ที่อิหร่านด้วย ทั้งนี้ เขายืนยันว่าถ้ามีความปลอดภัยพรุ่งนี้ก็ปล่อยตัวได้เลย และการที่เราเลือกไปอิหร่าน เพราะอิหร่านสนับสนุนฮิบอเลาะห์ และฮามาส คิดว่าฮามาสไม่น่าจะปฏิเสธ ทำให้ตนเดินทางกลับประเทศไทยด้วยความสบายใจว่าตัวประกันอาจมีชีวิตรอดกลับมาได้

 

 

“การทำหน้าที่ครั้งนี้ไม่ได้ข้ามหน้าข้ามตาใคร แต่เป็นการช่วยเหลือตามศักยภาพ เราเป็นกลุ่มแรกที่พูดคุยกับกลุ่มฮามาสอย่างเป็นทางการ หากคนไทยได้ปล่อยตัว ก็เป็นผลงานของคนไทยทั้งหมด ไม่ใช่ผลงานของคนใดคนหนึ่ง เราจะไม่ก้าวก่ายในการทำหน้าที่ของรัฐบาล”นายอารีเพ็ญ กล่าว

 

 

ด้านนายมุข กล่าวว่า เราต้องให้เกียรติเขาว่า เขาต้องพูดความจริง เพราะถ้าเขาพูดอย่างทำอย่าง ก็คงปฏิเสธไม่ให้เราเข้าไปพบตั้งแต่แรกแล้ว ฉะนั้นการที่เขาให้ไปพบ แสดงว่าเขายินดีรับ และพร้อมพูด และเชื่อว่าเขาก็ต้องพูดความจริง ในเมื่อเขาบอกว่าคนไทยอยู่ปลอดภัยดีแล้ว เราก็เชื่อ อย่าลืมว่าคนเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นผู้นำของศาสนา เพียงแต่เป็นซีอะห์ ถ้ายึดมั่นในหลักการของศาสนาเขาจะไม่พูดโกหก ส่วนที่มีคนพูดว่าคนไทยที่ถูกจับถูกทารุณกรรม ถูกเอามาเป็นหลักประกันที่จะต่อสู้ เป็นเกราะป้องกันกลุ่มฮามาสนั้น จากที่นายอารีเพ็ญพูดคุย เขายินดีปล่อย เขาไม่ได้หวังยึดเหนี่ยวเอาไว้ แต่เขาอยากจะดูความปลอดภัยเท่านั้นเอง