ข่าว

'เศรษฐา ทวีสิน' ฉายา เจ้าพ่อ Sold out ขายบ้าน 100 ล้านหมดเกลี้ยง ก่อนเป็นนายกฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'เศรษฐา ทวีสิน' เจ้าของฉายา เจ้าพ่อ Sold out สร้างประวัติศาสตร์ในวงการขายบ้านหรูราคา 50-100 หมดเกลี้ยงภายใน 1 เดือน ก่อนสละเก้าอี้ CEO บ.แสนสิริ มาคว้าเก้าอี้นายกฯ คนที่ 30

"เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ไม่ผิดจากนี้เป็นแน่ เพราะมีการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ "เศรษฐา ทวีสิน" แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วนั้น

 

 

เศรษฐา ทวีสิน

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ดำเนินการจัดทำเอกสารเพื่อให้ประธานรัฐสภาลงนามเพื่อกราบบังคมทูลผลการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อได้ทราบข่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงนามโปรดเกล้าฯ แล้วนั้น ในช่วงเช้าวันนี้ (23 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะไปรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ มายังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อประทับตราพระราชลัญจกรแล้วนำพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ กลับมายังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

 

ต้องบอกว่าก่อนที่  "เศรษฐา ทวีสิน" จะกลายเป็นนายกฯคนที่ 30 ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งเป็น CEO บริษัท แสนสิริ "เศรษฐา ทวีสิน" ก็เป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์มาก่อน โดยก่อนที่เขาจะเบนเข็มทิศชีวิตลงเล่นการเมือง "เศรษฐา ทวีสิน"  ได้สร้างประวัติศาสตร์สามารถขายบ้านหรูราคา 50 ล้านบาท ขึ้นไปหมดภายใน 1 เดือนจนได้รับฉายาว่าเป็น เจ้าพ่อ Sold Out

 

 

สำหรับแวดวงตลาดคอนโดและบ้านหรูต้องบอกว่า บ.แสนสิริ คือผู้นำในแวดวงนี้ ซึ่งเวลาเพียงไม่นานก่อน "เศรษฐา ทวีสิน" จะเข้าสู่เส้นทางการเมืองเขาได้ทุบหน้าประวัตศาสตร์แห่งวงการอังหาริมทรัพย์ โดยการขาบ้านหรู  โครงการนาราสิริ กรุงเทพฯกีฑา มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท  เป็นบ้านระดับ LUXURY ที่มี ราคา50- 100 ล้านบาท ให้กลายเป็นโครงการที่ขายดีที่สุด และปิดการขายได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น  ส่งผลให้ปี 2565 บ.แสนสิริมีกำไร 4,280 ล้านบาท  สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยมีมา และทำให้สามารถปัญผลแก่ผู้ถือหุ้นแบบงามๆ  ทั้งนี้รายได้ บ.แสนสิริในปี 2566 ในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 9,546 ล้านบาทเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า  77%

แม้ว่าที่ผ่านมา "เศรษฐา ทวีสิน" จะเจอมรสุม ข้อครหามากมายแต่ที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่เคยจะออกมาตอบโต้ใดๆ จนกระทั้งเกิดการ แฉเพื่อชาติ จากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ที่ท้ายที่สุดแล้ว เศรษฐา ทวีสิน ต้องแถลงการผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง และความบริสุทธิ์ของ บ.แสนสิริ โดยเจ้าตัวยืนยันว่า บ.แสนสิริ และตัวเขาเองทำธุรกิจด้วยคววามสุจริต ถูกต้องตามกฎหมายทุกครั้งตอน จนท้ายที่สุดวานนี้ (22 ส.ค.) หลังจากที่ รัฐสภามีการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบที่ 3 โดยพรรเพื่อไทยได้เสนอ เศรษฐา ทวีสิน เข้าชิง เจ้าตัวก็ได้รับคะแนนโหวตทั้งจาก สส. และสว. แลลผ่านฉลุย นับจากนี้คงต้องจับตาต่อว่า เจ้าพ่อ Sold out แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ จะกลายเป็นตัวพ่อในสนามการเมือง และสามารถขับเคลื่อนประเทศไทยไปตามเจตนารมย์ และนโยบายที่เคยตั้งใจเอาไว้หรือไม่

 

 

 

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา "เศรษฐา ทวีสิน" อาจจะไม่ค่อยมีบทบาทในสนามการเมืองเท่าไหร่ แต่รู้หรือไม่ว่าในการชุมนุมปี 2556–2557 นายเศรษฐา แสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติการณ์ของ กปปส. ต่อมาหลังรัฐประหารปี 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ออกคำสั่งเรียกให้เขาไปรายงานตัว ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ หลังจากนั้นเมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 และการประท้วง นายเศรษฐา ได้วิจารณ์การบริหารสถานการณ์ดังกล่าวของรัฐบาล

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ