"ดีเอสไอ" หารือ ก.ล.ต.-ปอศ. นัดแรก ถกแนวทางเอาผิด คดีทุจริต "STARK" รองอธิบดี ดีเอสไอ จ่อแจ้งข้อหา อดีตผู้บริหารบริษัท-ลูกน้อง รวม 3 ราย
จากกรณี จากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้อนุมัติให้รับกรณีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) "STARK" ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกรณีที่มีการพบความผิดปกติของงบการเงิน ซึ่งมีมูลน่าเชื่อว่ามีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เป็นคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
ล่าสุดวันนี้ (26 มิ.ย.2566) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดี ดีเอสไอ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการ ร่วมกับ นายธวัชชัย พิทยโสภณ รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กลต., นางพัฒนพร ไตรพิพัฒน์ ผู้ช่วยเลขาธิการ กลต. , พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล รอง ผบก. ปอศ.โดยในมีประเด็นที่ได้หารือกัน ดังนี้
1. รูปแบบในการร่วมกันสืบสวนสอบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดย ดีเอสไอ จะเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักในการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และจะเสนอให้มีการแต่งตั้งให้หน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวนตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2. ที่ประชุมฯ ได้ร่วมรับฟังข้อเท็จจริงและผลการดำเนินการที่ผ่านมา จาก ก.ล.ต. และ บก.ปอศ.
3. ร่วมกันพิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเบื้องต้นเกี่ยวกับวัน เวลา สถานที่ พฤติการณ์แห่งคดี รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินคดีให้เกิดความรวดเร็ว
4. ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการโดยบังคับใช้กฎหมายทุกมิติให้เกิดประสิทธิภาพ โดยให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยเร็ว เพื่อที่จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย และแก้ไขเยียวยาความเสียหายให้กับผู้ลงทุน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุนโดยเร็วต่อไป
พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยอีกว่า ดีเอสไอ รู้ตัวผู้กระทำผิดบ้างแล้วแต่ยังเปิดเผยไม่ได้ ซึ่งพฤติกรรมของผู้กระทำผิดมีมากกว่า 1 คน ประกอบด้วย กลุ่มผู้บริหาร-กรรมการบริษัท ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาคณะทำงานมีการทยอยเรียกบุคคลมาสอบปากคำแล้ว 4 ราย และจากนี้จะทยอยเรียกพยานบุคคลที่เกี่ยวกับการจัดการเรื่องการเงินเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ผู้เสียหารได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับ 3 บุคคล ซึ่งเชื่อว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดคือ อดีตผู้บริหาร STARK และ ลูกน้อง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานก่อนพิจารณษแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง