'เจ๋ง ดอกจิก' ยกพาน ธูปเทียน สาบานไม่เกี่ยวแก๊ง 'ตบทรัพย์' แค่คนไกล่เกลี่ย

1 ก.พ. 2567 นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก พร้อม น.ส.พิมณัฏฐา หรือ การ์ตูน อดีต ผู้สมัคร สส. จังหวัดอุตรดิตถ์  พรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงชี้แจงกรณีที่ตกเป็นผู้ต้องหาฐานร่วมกันเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ 

กรณีดังกล่าว เกิดขึ้นจากการตรวจสอบพบว่าการทุจริตงบประมาณภายในกรมฝนหลวง จึงมีการนัดหมายว่าจะไปยื่นเรื่องร้องเรียน ต่อ กรรมาธิการติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร วันที่ 20 ธ.ค.2566 และมีการแถลงแล้วตนกับ นาย ศ. มีข้อมูลตรงกันว่าในกรมการข้าวก็มีการทุจริต อย่างมโฬารเหมือนกัน จึงเตรียมเอกสารว่าจะร้องกรมการข้าว เมื่อตนพูดไปว่าจะไปร้องเรียนกรมการข้าว ก็มีพรรคพวกที่รู้จักกัน ซึ่งเป็นแกนนำคนเสื้อแดงเช่นเดียวกัน ก็ติดต่อมาบอกว่าอย่าไปยุ่งกับกรมการข้าว อธิบดีเป็นน้องเขา เป็นพรรคพวก เดี๋ยวเขาจะมีปัญหา ขอให้ช่วยดูแล เมื่อพรรคพวกขอร้อง และบอกว่าเป็นคนเสื้อแดงเหมือนกัน 

 

 

 

 

ช่วงกลางคืนของวันที่ 20 ธ.ค. 2566 ตนก็รีบโทรหาอธิบดีกรมการข้าว แต่ไม่รับสายจากนั้นเวลา 23.00 น. อธิบดีกรมการข้าวโทรกลับมาแต่ตนไม่ได้รับสาย และได้มาคุยกันอีกครั้งในเช้าวันที่ 21 ธ.ค. 2566  โดยอธิบดีกรมการข้าว เป็นคนขอนัดหมายคุยกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านบางเขน  แต่มาขอเปลี่ยนสถานที่ เป็นที่กรมการข้าว โดยระหว่างเดินทาง อธิบดี ยังได้โทรตามตนเองหลายครั้งว่าถึงไหนแล้ว 

 

เมื่อถึงกรม เวลา 12.45 น. อธิบดีลงมารับที่หน้าตึก และยกมือไหว้ ตนยังได้โทรกลับไปหาพรรคพวกที่ฝากดูแลอธิบดี ว่าเจอกันแล้ว จากนั้นได้ขึ้นไปคุยกันในห้องของอธิบดี โดยมีภรรยาอยู่ในห้องด้วย อธิบดี ก็เอ่ยขอให้ตนช่วยหน่อย ผมมีปัญหาเรื่องนี้ เคยตกลงกันไว้ตามข่าวว่าจำนวนเท่าไหร่  พี่ช่วยผมหน่อย ผมไม่ไหว พี่ช่วยเจรจาให้ผมหน่อย  ตนจึงบอกว่าไม่ต้องห่วง ที่มาวันนี้ เพื่อมาช่วย เพราะเพื่อนฝากไว้  อธิบดีบอกว่าเป็นคนเสื้อแดงเหมือนกัน ตนจึงบอกว่าจะช่วยเต็มที่ อธิบดีจึงกราบที่ตักของตนและบอกว่าขอบคุณพี่มาก ที่มาช่วย ถ้ามีอะไรให้ประสานกับภรรยาของอธิบดี ขณะที่ภรรยาถามว่าจะให้ประสานกับใคร ตนจึงบอกไปว่าให้ประสานกับ การ์ตูน ซึ่งเป็นเลขาฯ เมื่อเจรจาจบก็เดินทางกลับ โดยอธิบดี กับภรรยาเดินลงไปส่งที่รถ 
 

ส่วนกรณีที่ภรรยาอธิบดีไปติดต่อกับนาย ศ. ที่บ้าน  ตนไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร เป็นเพียงผู้ประสาน เพียงเท่านี้ ตนขอยืนยันว่าเข้าไปช่วยไม่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในแก๊งตบทรัพย์ ตนไม่คิดเลยว่าในกรมการข้าวจะมีงูเห่า 

 

นายยศวริศ กล่าวอีกว่า ถ้ามีการร้องเรียนก็ต้องมีการสอบสวน ถ้าคนเราไม่ผิด จะมาเคลียร์ปัญหา มาเจรจาทำไม ส่วนตนไม่รู้หรอกว่าผิดหรือถูก ตนถ้าพบพิรุธก็มีหน้าที่เตรียมร้องเรียนตาม ซึ่งที่ผ่านมาตนกับนาย ศ. ร้องเรียนมาหลายกรณีส่วนมากเป็นการร้องเรียนการทุจริตองค์กร
 

 

 

 

ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนไม่เคยจัดการปัญหากับใครมาก่อนและจากกรณีนี้ตนไม่ได้เงินสักบาทเดียว วันนี้ น.ส.การ์ตูน กำลังมีอนาคตที่ดี กำลังมีแนวทางในสังคม เขาต้องร้องไห้เสียใจทุกวันเขาผิดตรงไหนเขาไปเป็นแก๊งตบทรัพย์เมื่อไหร่ เขามีหน้าที่แค่ไปประสานงาน ระหว่างผู้ร้องเรียนกับผู้ถูกร้อง

 

นายยศวริศ ยังกล่าวอีกว่าบุคคลใดหรือ สื่อใดที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตน กำลังให้ทนายความรวบรวมทุกกรณี แม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐเองที่กล่าวหาเกินเหตุ ออกมาชี้แจงรายวันว่าจับตัวการใหญ่ตนก็จะใช้กระบวนการยุติธรรมจัดการ ทุกนายไม่เว้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเสียหายสำหรับตนมาก

 

ส่วนที่จะผิดหรือไม่ผิดกระบวนการทางศาลจะมีหน้าที่พิพากษา ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐมาพูดจนประชาชนคนไทยทั้งประเทศมาพิพากษาตนเรียบร้อยแล้ว

 

จากนั้นนายยศวริศ ได้ยกพานธูปเทียน และกล่าวขอสาบานว่าเรื่องทั้งหมดที่มีการกล่าวหาว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ เรียกทรัพย์เพื่อประโยชน์ตนเองและผู้อื่น ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ หาก พิสูจน์ความจริงแล้วใครก็ตามที่กล่าวหาตนที่พิพากษาตนขอให้ได้รับผลไม่ดีขอให้ชีวิตไม่มีความสุขขอให้ต้อง รับผลจากการกระทำของตนเอง

 

 

 

 

ด้าน น.ส.พิมณัฏฐา หรือ การ์ตูน ยืนยันว่าวันนี้ตนไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นตัวกลางระหว่างภรรยาอธิบดีกรมการข้าวกับใคร ตนไม่อยากพาดพิงถึงบุคคลอื่น ส่วนที่ตนพยายามตามยอดเงินคือตนพยายามชี้แจงว่าหากโอนไม่ครบตนที่เป็นคนเจรจาจะถูกมองว่ายักยอกเงิน

 

นายยศวริศ กล่าวถึงเรื่องสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ว่าตนเองได้รับการแต่งตั้งช่วงเดือน พ.ย. 2566 และถูกปลดออกจากตำแหน่งในวันที่ 18 ธ.ค.2566 แต่ขณะเดียวกัน ขัดแย้งกับเอกสารที่ระบุว่ามีการแต่งตั้งในวันที่ 28 ก.ย.  ส่วนวันแต่งตั้งตนเองจำเดือนที่แน่นอนไม่ได้  ส่วนที่เห็นภาพตนเองเข้าไปทำงานที่ทำเนียบรวมถึงมีป้ายชื่อที่ปรึกษารัฐมนตรีนั่งประชุมนั้น ตนเองเข้าออกสภาและทำเนี่ยเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว  ส่วนที่มีป้ายชื่อนั้น เจ้าหน้าที่ทำเนียบเป็นคนจัดเตรียมไว้ โดยที่ไม่รู้ว่าตนเองถูกปลดจากตำแหน่งไปแล้ว

 

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าตนเข้าไปกระทรวงยุติธรรม ยอมรับว่าตนเองเข้าไปจริง และเข้าไปหารือเรื่องกำไล EM เพราะได้รับข้อมูลมาว่ามีการสอบไปในทางทุจริต พร้อมยืนยันว่า ไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด  แต่ยอมรับว่ารู้จักกับนาย อ. ที่มีข้อมูลออกมาว่าเป็นตัวกลาง ส่วนที่มีการจับกุมนาย อ. เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ตนเองยังไม่ทราบเรื่อง ส่วนสาเหตุที่รู้จักกัน เพราะก่อนหน้านี้นาย อ.เคยนำเรื่องโครงการต่างๆ มาให้ตนเองตรวจสอบ รวมทั้ง ยืนยันว่าไม่มีเส้นทางการเงินที่โอนให้กัน ระหว่างนาย อ. และตนเองแน่นอน

 

ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองยังไม่มีการพูดคุยกับนาย ศ. ในส่วนของข้อสงสัยที่บอกว่าตนกับนาย ศ.ต่างขั้วกันนั้นทำไมถึงมาจับมือร้องเรียนกัน ตนมองว่าหากมีเรื่องทุจริตก็สามารถเข้ามาร้องเรียนตรวจสอบร่วมกันได้ เช่นเดียวกันกับที่ตนเองเคยอยู่เสื้อแดง แต่ขณะนี้ไปอยู่กับพรรคการเมืองหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม นายยศวริศ  ยังย้ำได้ว่าสาเหตุที่ตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งตบทรัพย์ น่าจะเป็นเกมทางการเมืองถูกกลั่นแกล้ง แต่ไม่ขอระบุว่าเป็นใคร ก่อนที่จะฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ที่ไปเฝ้าหน้าบ้าน การทำแบบนี้เป็นการริดรอนสิทธิและคุกคาม อยากให้เลิกติดตามตัวเอง ยืนยันยังไงก็ไม่หลบหนี พร้อมสู้คดี