หนุ่มก่อสร้าง ร้อง 'สายไหมต้องรอด' ถูกลูกชายผู้รับเหมายกพวกรุมฟัน 50 แผล

7 ม.ค. 2567  นายวรชิต  (สงวนนามสกุล)  อายุ 25 ปี และ น.ส. กอบจิต อายุ 41 ปี สองสามีภรรยา เข้าร้องทุกข์กับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้ง เพจสายไหมต้องรอด  หลังนายวรชิต ถูกลูกชายของผู้รับเหมาก่อสร้างในไซต์งาน ย่านคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ ยกพวกรุมทำร้ายร่างกาย และถูกฟันได้รับบาดเจ็บต้องเย็บถึง 50 เข็ม แต่ตำรวจ สภ.คลองด่าน ไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ โดยให้เหตุผลว่าเป็นการทะเลาะวิวาททั้งคู่

นายวรชิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2567ที่ผ่านมา ตนเองไปทำงานวันแรกที่ไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่งย่านคลองด่าน เมื่อไปถึงพบว่าที่บ้านพักคนงานมีการกินเลี้ยงสังสรรค์วันปีใหม่กันอยู่  ตนถูกสั่งให้ไปรับคนงาน แต่เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนแล้ว ทำให้ภรรยาของตนเองไม่พอใจ เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงมีปากเสียงกันเล็กน้อย  แต่ระหว่างนั้นลูกชายของผู้รับเหมาในไซต์งานเดินออกมาเห็น ก่อนจะเข้าไปพูดคุยสอบถามกับภรรยาตนเองว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จู่ๆ อีกฝ่ายกับเพื่อนอีก 1 คน ก็ปรี่เข้ามาต่อยที่หน้าของตนเอง ก่อนจะเดินเข้าไปในแคมป์คนงาน 

จากนั้น ตนถูกเรียกเข้าไปในแคมป์คนงานอีก จึงรู้ได้ทันทีว่าคงมีเรื่องทะเลาะวิวาทจึงหยิบมีดไปป้องกันตัว แต่อีกฝ่ายยกพวกหลายคน เข้ามารุมทำร้ายและฟันตนเอง ได้รับบาดเจ็บทั้งที่แขน 2 ข้าง ไหล่ หัว และหลัง เลือดออกทั้งตัว จนตนเองไม่มีแรงตอบโต้ 

จากนั้นคู่กรณียังได้บังคับพาตนขึ้นท้ายรถกระบะ พาไปยังซอยเปลี่ยว โดยระหว่างอยู่ท้ายรถ พวกของคู่กรณี 2 คนก็รุมทำร้ายตนเองตลอดทาง จนต้องฉวยจังหวะที่กลุ่มคู่กรณีเผลอรีบกระโดดลงคลองข้างทาง และแอบซ่อนตัวอยู่อย่างนั้นกว่าครึ่งชั่วโมง เมื่อคู่กรณีไปแล้วจึงขึ้นมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในพื้นที่

หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจแจ้งว่า เป็นเรื่องทะเลาะวิวาทกันทั้งสองฝ่ายจึงไม่มีการแจ้งข้อหา แต่ตนเองยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายอีกฝ่ายเลย และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพิ่งรู้จักกันวันแรก จึงอยากร้องขอความเป็นธรรม ส่วนคู่กรณีได้ให้เงินเยียวยาจำนวน 3,500 บาท เท่านั้น จากเดิมจะให้ 4,000 บาท แต่อ้างว่าหักค่าทำงานวันแรกที่ตนเองเบิกล่วงหน้าไป 500 บาทออกไป

ด้านนายเอกภพ ยืนยันว่า ผู้บาดเจ็บต้องเย็บถึง 50 เข็ม เข้าข่ายอาการสาหัส แม้ตอนแรกจะเป็นเหตุทะเลาะวิวาท แต่หลังจากนั้นมีการยกพวกมารุมฟันจนคู่บาดเจ็บไม่มีแรงต่อสู้ปกป้องตนเอง แล้วยังอุ้มพาขึ้นรถกระบะไปรุมทำร้ายในซอยเปลี่ยวอีก ถือว่าไม่ใช่การทะเลาะวิวาทแล้ว แต่เข้าข่ายพยายามฆ่า

ซึ่งตนเองทราบข้อมูลจากผู้เสียหายว่า สาเหตุที่กลุ่มผู้ก่อเหตุโมโหทำร้ายกันถึงเพียงนี้อาจเพราะจุดที่เกิดเหตุเป็นบ่อนไก่ อาจกลัวว่าหากผู้บาดเจ็บซึ่งกำลังทะเลาะกับแฟนสาวจนมีปัญหาบานปลายขึ้นมา ตำรวจอาจเข้าระงับเหตุ แล้วเรื่องบ่อนจะพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้นหลังจากนี้ตนเองจะประสานผู้กำกับการ สภ.คลองด่าน ให้ตรวจสอบทั้งเรื่องคดีความตลอดจนเรื่องบ่อนดังกล่าวด้วย