ศาลอาญา สั่งจำคุก 84 ปี "เบียร์ บ้านแพ้ว" แก็ง "คอลเซ็นเตอร์" ตึกประตูดำ ปอยเปต ทำหน้าที่หลอกเหยื่อโอนเงิน รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 51ปี คงจำคุกจริง 50 ปี คืนเงิน 41 ล้านแก่ผู้เสียหาย
27 ธ.ค. 2566 มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ155/2566 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายชลวิชา (สงวนนามสกุล) หรือ เบียร์ บ้านแพ้ว หนึ่งในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตึกประตูดำ หน้าวัดตาด ปอยเปย ทำหน้าที่หลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินในขั้นตอนสุดท้าย เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ ,ร่วมกันฟอกเงิน เป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ส่วนความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ
โดยนายชลวิชา จำเลยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย หลอกเหยื่อว่ามีพัสดุตกค้างพบสิ่งผิดกฎหมาย เหยื่อถูกเอาชื่อไปส่งพัสดุและว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีฟอกเงิน ต้องโอนเงินมาตรวจสอบ ซึ่งมีผู้เสียหาย เป็นนักธุรกิจเล่นหุ้น เสียหายไป 41 ล้านบาท รวมถึงแพทย์ที่ จ.ชุมพร เสียหาย 101 ล้าน และ ข้าราชการเกษียนอีกจำนวน 11 ล้านบาท
โดยจำเลย ให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานแล้ว พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกรรมให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจรและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
ให้ลงโทษฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดจำคุก 8 ปี ,ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและฐานนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็น คนอื่นซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดจำคุกกระทงละ 4 ปี รวม 21 กระทง เป็นจำคุก 84 ปี ความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินจำคุก 10 ปี รวม3 ข้อหา เป็นจำคุก 102 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติคงจำคุก 4 ปี , ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงเป็นคนอื่นคงจำคุก 42 ปี ความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินคงจำคุก 5 ปี รวมจำคุกทั้งหมด 51 ปี
เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุก ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (3) คงจำคุก 50 ปีและให้จำเลยคืนเงิน 41,517,869 บาท แก่ผู้เสียหาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง