อัจฉริยะ ร้องตั้งกรรมการสอบ สภ.สำโรงเหนือ บีบผู้ต้องหาเปิดบัญชีม้า

ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมายื่นคำร้องต่อตำรวจสอบสวนกลาง ขอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีตำรวจสำโรงเหนือ ชุดสืบสวนสอบสวนปราบปราม ตั้งด่านและตรวจค้นจับผู้ต้องหาทั้งเด็กแว้น คนเสพยา พ่อค้ายา วินรถจักรยานยนต์แล้วบังคับให้เปิดบัญชีม้า แลกกับการไม่ดำเนินคดี โดยมีการนำบัญชีม้ามาให้มินนี่ทำธุรกรรมในบัญชีที่เกี่ยวพันกับเว็บพนันออนไลน์และฟอกเงิน เชื่อมโยงไปถึงมินนี่

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ที่มาร้องเรียน สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากญาติ ของนายพุฒิพงศ์ ที่เป็นบัญชีม้า คนที่1 ของมินนี่ ซึ่งทางนายพุฒิพงศ์ ได้ถูกดำเนินคดีในข้อหา ขับรถแว้น ที่ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ และได้มีการกล่าวอ้างว่าได้ถูกบังคับ ให้ไปห้องสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ หลังจากสอบสวนเสร็จ ก็อยู่ในห้องขังจนถึงเช้า ก็ได้มีอาสาของตำรวจ ที่ได้รับคำสั่งจาก ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ มาเสนอนาย พุฒิพงศ์ ให้ทำการเปิดบัญชีม้า แลกกับการไม่ดำเนินคดี และจะปล่อยตัวไป รวมทั้งของกลางที่ยึดมาเป็นรถจักรยานยนต์จะคืนให้ หลังจากที่นายพุฒิพงศ์ ตอบตกลง ทางอาสาตำรวจ ก็ได้พานายพุฒิพงศ์ไปเปิดบัญชี และให้ตำรวจ 1 นายมารับบัญชีพร้อมบัตร ATM และปล่อยตัวนายพุฒิพงศ์ไป

อีกกรณีคือนายครรชิต เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด ได้ถูกจับเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 และโดนเหมือนกันคือ ตำรวจอาสา พานาย ครรชิต ไปเปิดบัญชีม้า 18 เมษายน 2566 ส่วนเรื่องของคดีความ ปล่อยตัวไปเช่นกัน ไม่มีการดำเนินคดี พฤติกรรมของ ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ มีการกระทำเช่นนี้ และบัญชีทุกบัญชีที่เกี่ยวข้องกับ สภ.สำโรงเหนือ มากกว่า 50 บัญชี ไปเกี่ยวข้องกับคดีของมินนี่ จะมีการกระทำเช่นนี้หมด จึงมาร้อง ตำรวจสอบสวนกลางตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ ซึ่งจะมีการประชุมหลังจากที่ตน มาร้องพนักสอบสวนเสร็จเรียบร้อย จะได้มีการนัดหมายพยานให้มาสอบสวน

ซึ่งการกระทำของตนนี้ทำตามนโยบายของรัฐบาลคือการปราบปรามบัญชีม้าและแก๊งคลอเซ็นเตอร์ แต่กับมีตำรวจกระทำตัวยิ่งกว่าโจรอีก บังคับให้คนอื่นไปเปิดบัญชีม้าไปให้มินนี่ ในการกระทำความผิด และมีการขายบัญชีม้าให้กับบุคคลอื่นซึ่งกระทำกันมาเป็นปีแล้ว

อย่างไรก็ดี นายอัจฉริยะกล่าวต่อไปว่า การตั้งด่าน ซึ่งพฤติการณ์ของ สภ.สำโรงเหนือ มีร้อยเวรและพนักงานตำรวจที่เกี่ยวข้อง 8 นาย ที่ตั้งด่าน ซึ่งการตั้งด่านจะมีอยู่ 2 ผลัดแรกคือ เวลา 00.00 น. และผลัด 2 เวลา 01.00 น. – 08.00 น. มีการจ่ายเงินให้รองกับผู้กำกับ ป. ผลัดละ 5000 บาท รวมวันละ 100,00 บาท จะได้เดือนล่ะ 300,000 บาท 

และหลังจากตั้งด่านก็จับคนที่กระทำความผิด บังคับให้เปิดบัญชีม้า ร่วมกันตั้งแต่ สารวัตร สืบสวน รองผู้กำกับ ป. รองผู้กำกับสืบสวน แม้กระทั่ง ผู้กำกับโรงพัก มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด มีการกระทำเช่นนี้มากันอย่างยาวนาน จึงจะมาแฉให้หมด ตนเชื่อมั่นว่าข้อมูลที่ตนมี สามารถเอาผิดกับ ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ได้ครึ่งโรงพัก

ซึ่งล่าสุด นายกสมาคมพนักงานสอบสวน ได้มีการเปิดบัญชีม้าให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งนายกสมาคมสอบสวนอ้างว่าไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า แต่จะมีการสืบสวนอีกครั้ง เพราะจะบอกไม่เกี่ยวข้องได้อย่างไร บัญชีนี้เกี่ยวกับ พ.ต.ท.คริส โดยตรง ในคณะนี้ได้มีการอุ้มบัญชีม้า ซึ่งมีลักษณะการรับจ้างเปิดบัญชีม้า ตนเชื่อว่าถ้าตำรวจสอบสวนกลางจะมีการเรียกพยานทั้งหมด มาให้ปากคำกับตำรวจแน่นอน ซึ่งความผิดดังกล่าวเป็นความผิด มาตรา 157 เป็นความผิดของเจ้าพนักงาน ทุกอย่างมีพยานหลักฐานไม่ได้กล่าวหาแบบลอยๆ จะดำเนินคดีได้แน่นอน

ส่วนพรุ่งนี้ (3 ต.ค.)เวลา 10.00 น. ตนจะมีการแถลงคดีสำคัญ เกี่ยวกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  โดยกล่าวอ้างว่า มีบุคคลสำคัญมาอ้างว่าเอาเงินมาให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ 10 ล้านบาท และอาจจะมีการดำเนินคดีกับบิ๊กโจ๊ก ตามมาตรา 157 และตนยืนยันว่าไม่ได้ไปก้าวล่วงใคร ตนทำตามหน้าที่ตน ทำตามกฎหมายและจะทำต่อไป.