
'บิ๊กโจ๊ก'ว่าไง? ร้านซักผ้าฟรีช่วยทีมหมูป่าเหยื่อร้านมู่ลี่
ร้านซักผ้าฟรีทีมช่วยนักฟุตบอลและโค้ช "ทีมหมูป่า" ที่ถ้ำหลวง กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดของร้านมูลี่ฯที่เชียงใหม่ ร้อง "บิ๊กโจ๊ก" ช่วย
ยังคงมีเหยื่อโผล่มาเรื่อยๆ สำหรับกรณีร้านมู่ลี่ไม้ไผ่ จ.เชียงใหม่ เหยื่อรายล่าสุดคือเจ้าของร้านซักผ้าใจดี ที่ซักผ้าฟรีให้ทีมที่มาช่วยชีวิตทีมหมูป่าที่ถ้ำหลวง ร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ช่วย ขณะที่เจ้าของร้านมู่ลี่ยังคงเปิดเพจให้ลูกค้าสั่งสินค้าตามปกติ
จากกรณีที่ "คม ชัด ลึก" ได้เสนอข่าวกรณีร้านมู่ลี่ไม้ไผ่ที่ จ.เชียงใหม่ เจ้าของเพจ “โรงงานมู่ลี่ไม้ไผ่ สารภี เชียงใหม่” สร้างความเดือดร้อนให้ลูกค้าด้วยการไม่สินค้าให้ตามนัด หลายรายยกเลิกสั่งสินค้าและขอเงินคืนแต่ยังไม่ได้เงิน บางรายถึงขั้นไปแจ้งความกับตำรวจและร้องศาล
ระวังเป็นเหยื่อ!! โวย ร้านมู่ลี่เชียงใหม่ สั่งของไม่ได้...(อ่านต่อ)
ล่าสุด คม ชัด ลึก ได้รับการเปิดเผยจาก นางสาวรวินท์มาศ ลือเลิศ เจ้าของเฟซบุ๊ก พอ วัชรดล อายุ 38 ปี เจ้าของร้านมิสไวท์ คลีน ร้านซักผ้าที่เป็นจิตอาสาซักผ้าให้ทีมทหารและผู้ที่มาช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ที่เป็นข่าวโด่งดังถึงความมีน้ำใจของเธอ ว่า เธอสั่งมู่ลี่ไม้ไผ่ของร้านดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้รับของ และรู้สึกว่ากำลังถูกหลอก
(อ่านต่อ...แทนคำขอบคุณ!จากคนไทย สาวซักชุดทหารทีมสหรัฐฯช่วย13ชีวิตติดถ้ำ)
“วันที่โทรไปเพื่อสั่งของ เขาบอกมีของอยู่พอดี สามารถส่งให้ได้เลย แต่ตอนหลังกลับไม่ส่งมา พอโทรไปสอบถาม ตอนแรกก็บอกว่าส่งมาแล้ว ตอนหลังก็อ้างเหตุผลโน่นนี่ ล่าสุดเช็คอย่างละเอียดแล้วจึงรู้ว่าเขายังไม่ได้ส่งของมาเลย” นางสาวรวินท์มาศ กล่าว
นางสาวรวินท์มาศ บอกว่า ของที่เธอสั่งมูลค่า 2800 บาท รวมค่าส่งที่เขาเรียกเก็บเพิ่มอีก 500 บาท
“ความจริงเงินก็ไม่ได้เยอะ แต่รู้สึกว่ามันไม่ควรเป็นแบบนี้ ยิ่งพอรู้ว่าคนอื่นอีกหลายคนก็เจอแบบนี้เหมือนกัน เลยรู้สึกว่าไม่ได้ เขาจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเขามีเจตนาบริสุทธิ์ เขาควรจะหยุดรับออร์เดอร์แล้วเคลียร์ของเดิมให้เสร็จเรียบร้อยก่อน แต่กลายเป็นว่าเขายังเปิดรับออร์เดอร์อยู่ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
นางสาวรวินท์มาศ เปิดเผยว่า เธอได้ไปโพสต์ร้องเรียนไว้ที่เพจ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ที่มีบทบาทในการปราบปรามอาชญากรรมต่างๆ เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย
"หนูชื่อ นางสาวรวินท์มาศ ลือเลิศ อยู่เชียงราย หนูคิดว่าหนูโดนฉ้อโกงค่ะ โดยที่สั่งซื้อมู่ลี่ไม้ไผ่ ทางเพจ แล้วเขาไม่ส่งของให้ ตามทวงก็ผลัดวัน อ้างนู้นนี่นั้นค่ะ ตอนนี้มีผู้เสียหายรวมกลุ่มกันแล้วค่ะ และเขายังโพสต์ขายสินค้าตามปกติ โดยที่ใครไปเม้นตามของก็จะลบและบ๊อกคนนั่นค่ะ" ข้อความที่นางสาวรวินท์มาศโพสต์ไว้ที่เพจ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์
“ตอนนี้ทราบว่าหลายคนไปแจ้งความไว้แล้ว บางคนไปร้องศาล แต่ก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้ มีการบอกว่าทางกฎหมายทำอะไรเขาไม่ได้เพราะเขามีโรงงานอยู่จริง แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ หวังว่าบิ๊กโจ๊กจะมาดูแลและแก้ปัญหานี้ได้ ไม่งั้นคนอื่นๆก็จะตกเป็นเหยื่อแบบนี้อีก” เธอกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเพจ โรงงานมู่ลี่ไม้ไผ่ สารภี เชียงใหม่ ยังมีการโพสต์ภาพและข้อความตามปกติ โดยล่าสุดโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 10 กันยายน
อีกด้านหนึ่ง กรณีที่ศาลแขวงลำปางนัดไกล่เกลี่ยคดี หลังจาก นางรัตติยา อินต๊ะ อายุ 48 ปี ชาว จ.ลำปาง เหยื่ออีกรายร้านมู่ลี่แห่งนี้ไปฟ้องร้องคดีแพ่ง และศาลนัดไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเมื่อถึงวันนัด นายปวเรศ ทารส เจ้าของร้านมู่ลี่ก็ไม่มาตามนัด หลังจากที่ก่อนหน้านั้นก็บอกกับนางรัตติยา ว่าจะโอนเงินคืนมาให้ภายในสิ้นเดือน แต่ก็ไม่ได้โอนมา
เบี้ยวอีก !! ร้านมู่ลี่ไม้ไผ่ไม่จ่ายเงินคืนตามสัญญา
นางรัตติยา กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ศาลแนะนำว่าให้เธอกลับไปหาตำรวจที่ สภ.เมือง ลำปาง ที่เธอเคยไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ เพราะดูตามรูปการณ์แล้วน่าจะสามารถฟ้องเอาผิดทางอาญากับทางร้านมู่ลี่ฯได้ ซึ่งตอนนี้เธอกำลังรอตำรวจเจ้าของคดีติดต่อมาอยู่
สำหรับคดีนี้ นักกฎหมายเคยบอกไว้ว่า อาจจะไม่สามารถเอาผิดทางอาญาได้ เนื่องจากมีโรงงานมู่ลี่อยู่จริง เจ้าของร้านอาจอ้างว่าไม่ได้เจตนาฉ้อโกง แต่ผลิตของส่งให้ไม่ทัน จึงอาจจะทำได้แค่ฟ้องเป็นคดีแพ่ง หรือร้องไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เท่านั้น ซึ่งจุดนี้กลายเป็นช่องโหว่ของกฎหมายที่เอื้อให้เจ้าของร้านมู่ลี่ฯ
(อัพเดท 14 ก.ย.61) ล่าสุดนางสาวรวินท์มาศ ลือเลิศ เปิดเผยว่า ในวันนี้ (14 ก.ย.)ได้รับสินค้าที่สั่งไปแล้ว แต่เนื่องจากยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้สินค้า และเมื่อขอยกเลิกการสั่งสินค้าแล้วก็ยังไม่ได้รับเงินคืน โดยทางเจ้าของร้านมู่ลี่หาเหตุผลต่างๆนานามาบ่ายเบี่ยงตลอด ตนจึงจะยังช่วยกลุ่มผู้เดือดร้อนติดตามทวงเงินคืนต่อไป ประเด็นสำคัญคือไม่ต้องการให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อพ่อค้ารายนี้ เพราะตราบใดที่ยังเปิดเพจขายสินค้าอยู่แบบนี้ ก็เชื่อว่าจะมีคนตกเป็นเหยื่ออีก
ทั้งนี้เธอได้เขียนจดหมายร้องเรียนไปยัง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ผ่านหน้าเพจ สุรเชษฐ์ หักพาล อีกครั้งด้วย
หนังสือระบุว่า "พวกเรา (ดังรายชื่อข้างท้ายนี้ ) เป็นกลุ่มลูกค้าของเพจ “โรงงานมูลี่ไม้ไผ่ สารภี เชียงใหม่” พวกเราเป็นลูกค้าที่สั่งสินค้ามูลี่ไม้ไผ่ ซึ่งก่อนการซึ่งผู้ขายแจ้งว่าจะได้รับสินค้าประมาณ 2 สัปดาห์ หลังการโอนเงิน (เข้าบัญชีนายปวเรศ ทารส บัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 2862501988) อย่างไรก็ตาม เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนดไม่มีการส่งสินค้าให้กับลูกค้า เมื่อติดตามทวงถามก็บ่ายเบี่ยงด้วยเหตุผลต่าง ๆ (อาทิ บริษัทขนส่งไม่มารับสินค้าไปส่ง บริษัทจัดส่งสินค้าไปผิดที่ บริษัทหยุด เป็นต้น) ผู้เสียหายบางรายสั่งสินค้าตั้งแต่เดือนพ.ย. 2560 จนปัจจุบันยังไม่ได้รับสินค้าหรือการคืนเงิน ทั้งนี้ผู้เสียหายบางส่วนได้แจ้งความ บางส่วนได้ดำเนินการผ่านศาลซึ่งมีการนัดไกล่เกลี่ย แต่ทางนายปวเรศ ทารส ยังไม่มาไกล่เกลี่ยและไม่มีการโอนเงินคืนแก่ผู้เสียหาย ทางกลุ่มได้แจ้งผู้สื่อข่าว ซึ่งมีการรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 2 กันยายน 2561 (http://www.komchadluek.net/news/crime/341873) ทางกลุ่มผู้เสียหายเห็นว่าในปัจจุบันเพจ“โรงงานมูลี่ไม้ไผ่ สารภี เชียงใหม่” โดยนายปวเรศ ทารส ยังคงเปิดขายสินค้าอยู่ และคาดว่าจะมีเหยื่อเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่านช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับพวกเรา และป้องกันไม่ให้ประชาชนอื่นตกเป็นเหยื่อของเพจดังกล่าว
จึงเรียนมาเพื่อขอความอนุเคราะห์ และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้"
โดยได้ระบุชื่อผู้เสียหายบางส่วนมาด้วย