ข่าว

ป้าวัย 53 ปี เลี้ยง "สุนัขแมวจรจัด" นับ 100 ตัว ลำบากแค่ไหนก็ทิ้งไม่ลง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ป้าวัย 53 ปี เลี้ยง "สุนัขแมวจรจัด" นับ 100 ตัว ลำบากช่วงโควิดก็ยังเลี้ยงไม่ทอดทิ้ง 

วันที่ 10 มิถุนายน 2564 ทางด้านเรื่องราวของ "ป้าจ๋า" ชาวสตูลวัย 53 ปี ผู้ใจบุญช่วยเหลือ หมา-แมวจรจัดนำมาทิ้งไว้ริมถนน และบาดเจ็บ อุ้มกลับมารักษาเลี้ยงไว้เกือบ 100 ตัว ทามกลางอุปสรรค์รายได้ไม่มี ตระเวนขอข้าววัด ร้านอาหารนำเศษกระดูกของเหลือมาเลี้ยงไปวันๆ เผยทั้งน้ำตา สงสารเวลาเห็นโดนทิ้ง โดนตี น้ำตาที่ไหลออกมา ด้วยความที่สงสารหมา แมวจรที่จัดที่ตนเองเลี้ยงไว้ มีทั้งลูกหมาที่บาดเจ็บ และลูกแมวที่ร้องอยู่ในกรง ได้ส่งเสียงร้องโหยหวน ด้วยอาการเจ็บแผลที่เกิดจากรถชนบ้าง ถูกตีทำร้ายมาบ้าง บางตัวร้องด้วยความดีใจที่ "ป้าจ๋า" กลับมาดูแลในช่วงเย็น นำอาหาร น้ำมาให้ สุดเวทนาในกลุ่มคนที่รักหมาแมว และผู้คนผ่านไปมา รวมทั้งผู้สื่อข่าวที่ไปดูในครั้งนี้ 

"ป้าจ๋า" เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองเลี้ยงหมา แมวจรจัดมานานถึง 20 ปี เลี้ยงโดยน้ำพักน้ำแรงของตนเองที่ไปรับจ้างทำงานอื่นๆโดยทั่วไป ได้เงินมาจากค่าจ้างเพียงเล็กน้อยที่ตนเองพอทำงานไหว ได้มาก็เจียดเอามาซื้ออาหารเม็ด ข้าวสาร และยารักษาสัตว์ที่ต้องคอยซื้อมาโดยเฉพาะยากำจัดหนอน ยาแผลสด  ยาลดไข้  ต้องนำมารักษาหมา แมวจรจัดที่ถูกทอดทิ้ง ถูกทำร้ายตามข้างทาง บางตัวก็มาขาหัก ตาบอด โรคเรื้อน เจอสัตว์เหล่านี้ทีไรจะร้องไห้ 

บางวันตนเองไม่ได้กินข้าวเพราะต้องยอมเอาเงินที่หามาซื้ออาหาร บ้านที่อาศัยอยู่รวมกับสัตว์จรจัดเหล่านี้ค้างค่าไฟมาถึง 3 เดือนแล้ว และที่สำคัญพื้นที่ดินที่ได้ปลูกสร้างอาศัยอยู่กับหมาแมวจรจัด ก็ไม่ใช่ที่ของตน โดยเจ้าของที่ดินให้อาศัยอยู่ชั่วคราว หากวันไหนที่ดินตรงนี้โดนเอาคืนก็ไม่มีที่อยู่พักพิงรวมทั้งหมาแมวจรจัดเกือบ 100 ตัวด้วยสำหรับ"ป้าจ๋า" หรือ นาง สุวรรรัตน์ นันทพงศ์ อายุ53ปี อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่  หมู่ที่ 1 เทศบาลตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  เลี้ยงหมาจรจัดกว่า 40 ตัว แมวอีก 30 กว่าตัว 

"ป้าจ๋า"บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อก่อนป้าจ๋าเคยทำงานประจำอยู่ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดสตูล  แต่ต่อมาป้าจ๋าได้ประสบอุบัติเหตุรถชน ทำให้ไปทำงานไม่ได้อีก ได้แต่เพียงรับจ้างทำงานเล็กๆน้อยๆไปวันๆบางวันก็ไปทำไม่ไหว บวกกับตนเองมีใจรักและเอ็นดูพวกหมาแมวอยู่แล้ว จึงรับมาเลี้ยงดู 

ในแต่ละวัน "ป้าจ๋า" จะหุงข้าวผสมกับอาหารเพื่อให้หมาและแมวทุกตัวได้กิน ส่วนปริมาณในการหุงนั้นเมื่อก่อนเคยหุงวันละถึง 15 กิโล  แต่ด้วยตนเองนั้นไม่ได้มีงานทำประจำ และยิ่งในช่วงสถานการณ์โควิด19  จึงทำให้ต้องลดปริมาณในการหุงอาหารให้หมาแมวกิน วันใดมีคนใจบุญนำอาหารมาให้บ้าง แต่ก็ไม่บ่อยนัก  ส่วนหมาแมวก็ได้อิ่ม ส่วนบางตัวที่ป่วย "ป้าจ๋า" ก็จะไปหาซื้อยามารักษาจนกว่าจะหาย ในบางครั้งค่ายาหากมีจ่ายบ้าง บางครั้งก็ต้องติดค้างไว้ จนตอนนี้ทำให้เป็นหนี้ติดค้างยุประมาณนึง  สิ่งหนึ่งสิ่งทีป้าจ๋าต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยงานหรือผู้ใจบุญในตอนนี้คือ อาหาร และยาสำหรับหมาแมวที่เลี้ยงโดยทาง "ป้าจ๋า" เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังอีกว่า และพี่จ๋ายังบอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่าต่อให้ชีวิตจะอยู่อย่างไร ก็จะไม่มีวันทิ้งพวกเค้าเด็ดขาด หากมีคนใจบุญขอกราบและขอให้เจริญๆที่ช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตบนโลก

ป้าวัย 53 ปี เลี้ยง "สุนัขแมวจรจัด" นับ 100 ตัว ลำบากแค่ไหนก็ทิ้งไม่ลง

ป้าวัย 53 ปี เลี้ยง "สุนัขแมวจรจัด" นับ 100 ตัว ลำบากแค่ไหนก็ทิ้งไม่ลง

ป้าวัย 53 ปี เลี้ยง "สุนัขแมวจรจัด" นับ 100 ตัว ลำบากแค่ไหนก็ทิ้งไม่ลง

ขณะที่นายสมบัติ เจริญขวัญ คนที่ไปพบเจอ"ป้าจ๋า"นางฟ้าของหมาแมวจรจัด เล่าให้ฟังว่า เห็นป้าตระเวนขออาหารเศษเหลือตามร้านอาหารบ้าง ตามวัดบ้าง และได้สอบถามได้รู้ว่า ป้าจ๋านำหมา -แมวจรจัดโดนถูกทำร้าย ทอดทิ้ง เอามาเลี้ยงดูแล และตอนนี้พบว่าป้าจ๋าลำบากเรื่องอาหารที่ต้องดูแลหมาแมวจร หากใครใจดีโทรสอบถามในการช่วยเหลือเบอร์โทรผมได้ 0897387070 

ป้าวัย 53 ปี เลี้ยง "สุนัขแมวจรจัด" นับ 100 ตัว ลำบากแค่ไหนก็ทิ้งไม่ลง

ป้าวัย 53 ปี เลี้ยง "สุนัขแมวจรจัด" นับ 100 ตัว ลำบากแค่ไหนก็ทิ้งไม่ลง

ล่าสุดขณะทำข่าวพูดคุยอยู่นั้นก็มีคนใจบุญเห็นการโพส์แชร์ผ่านเฟสบุ๊คสมบัติ เจริญขวัญผู้พบเห็น"ป้าจ๋า"ซึ่งนายนาวิน มานะกิจสมบูรณ์ ไต๋เรือโชควรรพร สมทบทุนค่าอาหาร ค่ายาช่วยเหลือหมาแมวจรจัดเบื้องต้น 2,500 บาท 
เอนก ขันทสิกรรม จ.สตูลรายงาน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ