กสทช.รวบ 2 พ่อค้าลอบจำหน่ายผิด พรบ.วิทยุคมนาคม ยึดสต็อกกว่า 5 ล้าน

วันที่ 11 มีนาคม 2564 เวลา 14.30 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์(กสทช.) นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล. รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. พร้อมด้วย พล.ต.ท. ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผช.ผบ.ตร.)  และตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานลงพื้นที่ตรวจค้นแหล่งเก็บอุปกรณ์ พร้อมผู้ต้องหากระทำความผิด พรบ.วิทยุคมนาคม

โดยเริ่มจากปฏิบัติการเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 เวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ดุสิต วาลีประโคน ผกก.สน.บางยี่เรือ พ.ต.ท.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.ไอยรา อากาศวิภาต สว.(สอบสวน)สน.บางเขน พ.ต.ท.จักรี ศรีนะวงษ์ สว.(สอบสวน)สน.โชคชัย  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร.ชุดประสานงานประจำ กสทช. นายพิชัย สุวรรณกิจบริหาร ผู้อำนวยการ สำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม และนายวีรพนธ์ ศรีนวล ผู้อำนวยการส่วนกำกับกิจการวิทยุคมนาคมได้ทำการขอหมายค้นจากศาลอาญา โดยมีเป้าหมายที่เข้าตรวจค้น 2 จุด

จุดแรกบ้านพัก ภายในหมู่บ้านเอสตร้าโฮมไพรเวทพาร์ค ซ.ราษฎร์อุทิศ 1 ถ.เจริญกรุง แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. สามารถจับกุมนายธนิตศักดิ์ ทรัพย์ค้าสำราญ ส่วนจุดที่ 2  บ้านพัก ภายในซ.รุ่งเรือง แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. สามารถจับกุมนายพลกิจ เย็นใจ พร้อมตรวจยึดของกลาง รวม 23 รายการ 2,505 ชิ้น มูลค่ารวม 4,812,120 บาท

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา "มีค้า นำเข้า และค้า เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ผู้ออกใบอนุญาต" (มาตรา 6  ต้องได้รับโทษตามมาตรา 21,23 ของ พรบ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498)อันมีโทษปรับ 100,000 บาท  จำคุกไม่เกิน  5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนนำตัวนายธนิตศักดิ์ส่ง พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร และนำตัวนายพลกิจ ส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพิ่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายไตรรัตน์ กล่าวว่า สำนักงาน กสทช.ได้ดำเนินการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโทรคมนาคม และวิทยุคมนาคมมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการตรวจสอบทุกรูปแบบ แต่ก็ยังมีประชาชน หรือบุคคลทั่วไป ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งผู้จำหน่ายและผู้ใช้งานเครื่องวิทยุคมนาคม ที่ขาดความรู้ความเข้าใจว่าอะไรเป็นเครื่องวิทยุคมนาคมที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องได้รับอนุญาต หรืออะไรเป็นเครื่องวิทยุคมนาคมที่ต้องได้รับอนุญาตก่อนจำหน่ายหรือใช้งาน ตามที่กฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมกำหนดไว้ ซึ่งประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ กสทช.คอลล์เซ็นเตอร์ หมายเลข 1200

นายพิชัย สุวรรณกิจบริหาร ผอ.สำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า วิทยุสื่อสารที่ตรวจยึดได้ ไม่ใช่สิ่งที่ กสทช.จะอนุญาตได้ เป็นสิ่งที่ใช้ในราชการเท่านั้น ของกลางที่ยึดได้พบว่าลักลอบเข้ามาจากต่างประเทศโดยผ่านเข้ามาทางภาคเหนือของไทย ซึ่งจะต้องขยายผลว่านำเข้ามาได้อย่างไร เนื่องจากเรื่องของวิทยุสื่อสารกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

พล.ต.ท.ปรีชา กล่าวว่า อุปกรณ์ต่างๆ ที่ตรวจยึดได้มีผลกระทบต่อความมั่นคง ทั้งเครื่องตัดสัญญาณ และโดรน ที่นำมาใช้ในการก่อเหตุอาชญากรรมได้ จากนี้ก็จะเร่งประสานกับกรมศุลกากรเพื่อตรวจสอบการนำเข้า