ผอ.โรงเรียน หวิดตาบอด รถบรรทุกทำหินก้อนใหญ่ หล่นใส่กระจกรถแตก

ถึงคราวเคราะห์ ผอ.โรงเรียน หวิดตาบอด รถบรรทุกทำหินก้อนใหญ่ หล่นใส่กระจกรถยนต์แตก หินกระแทกใส่ใบหน้าบาดเจ็บ โชคดีที่ตั้งสติขับรถยนต์จอดได้ เพื่อนครูที่ขับตามมาคันหลัง รีบโทรแจ้งตำรวจและรถพยาบาลมารับตัวเพื่อไปรักษาที่ โรงพยาบาล เหตุเกิดบริเวณแยกเรือนจำกลางสุรินทร์

ก้อนหินใหญ่ร่วงจากรถบรรทุกทะลุกระจกรถยนต์ ผอ.รร.รุ่งรัฐ โชคดีหลบทัน ก้อนหินใหญ่ร่วงจากรถบรรทุกใส่รถเก๋งของ ผอ.รร.รุ่งรัฐ บ้านเสม็ด ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์ แต่โชคดีหันหน้าหลบทัน แต่ยังได้แผลถลอกเล็กน้อยและที่ปากแตก เผยรถบรรทุกสิบล้อที่บรรทุกหินเต็มคันไม่มีผ้าใบคลุมรถ ตำรวจเร่งตามตัวเจ้าของรถมาดำเนินคดี

เมื่อเวลา 14.50 น.วันนี้ (6 ต.ค.2563) ร.ต.ท.กลวัชร บุญส่งแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่า มีรถยนต์ประสบอุบัติเหตุถูกก้อนหินหล่นใส่รถ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ 1 ราย บริเวณถนนบายพาสแยกเรือนจำ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยสุรินทร์ไปตรวจสอบ โดยจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาวทะเบียน กธ- 2541 สุรินทร์ จอดอยู่ไหล่ทาง สภาพกระจกหน้ารถแตกเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ตรงตำแหน่งคนขับรถพอดี และพบหลักฐานเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ หนักกว่า 1 กิโลกรัมตกอยู่บนเบาะนั่งคนขับรถ ส่วนผู้บาดเจ็บคือ นางรุ่งทิวา บูรณ์เจริญ อายุ 48 ปี เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนรุ่งรัฐวิทย์ บ้านเสม็ด ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พบมีบาดแผลถลอกมีเลือดไหลซึมที่บริเวณใบหน้าและปากแตก เจ้าหน้าที่กู้ภัยสุรินทร์ได้ช่วยเหลือทำแผลก่อนนำคนเจ็บส่งผู้ได้รับเจ็บยังโรงพยาบาลสุรินทร์

สอบถามเบื้องต้นทราบว่า นางรุ่งทิวา บูรณ์เจริญ ผอ.รร.รุ่งรัฐวิทย์ ตนพึ่งเลิกประชุมที่โรงเรียนและได้ขับรถกลับ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้ขับตามรถบรรทุกหินเต็มคันประกอบกับไม่มีผ้าใบคลุมท้ายรถ และเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อก้อนหินก้อนใหญ่จากรถบรรทุกได้กระเด็นออกมาและร่วงใส่หน้ารถตน จนกระจกแตกเป็นรูขนาดใหญ่ เสียงดังสนั่นและหินได้พุ่งเข้าใส่หน้า แต่ นางรุ่งทิวา บูรณ์เจริญ ผอ.รร.ได้หันหน้าหลบตามสัญชาตญาณ ทำให้หินครูดหน้าเป็นแผลถลอก กับที่ปากแตก และยังกระแทกที่หน้าอกจนเจ็บ ก่อนที่จะชะลอรถเข้าจอดข้างทางได้สำเร็จ

ส่วนรถบรรทุกสิบล้อเจ้าของก้อนหินไม่รู้ตัวว่าทำก้อนหินตกใส่รถจนได้รับบาดเจ็บ ยังคงขับรถต่อไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามรถบรรทุกหินคันดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว: รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสุรินทร์