จับตา วันนี้ 'แพรวา' วางเงินศาลชดใช้เหยื่อ

    5 ส.ค.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ให้ น.ส. แพรวา(นามสมมุติ) ปัจจุบันอายุ 25 ปีเศษ ซึ่งขณะเป็นเยาวชนอายุ 16 ปี ได้ขับรถยนต์ซีวิค เฉี่ยวชนกับรถตู้โดยสารสายธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต-หมอชิต และบิดา-มารดา กับ "นายสุพิรัฐ จ้าววัฒนา" ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ซีวิค ต้องร่วมกันชดใช้เงินค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย นับจากวันเกิดเหตุ 27 ธ.ค.53 ให้กับครอบครัวและญาติคนขับรถตู้กับผู้โดยสารเสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ รวม 22 รายนั้น 

          มีรายงานว่าล่าสุดฝ่ายจำเลยได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 30 ก.ค.62 ขอให้คำนวนจำนวนหนี้ตามคำพิพากษา และในวันนี้ (6 ส.ค.) ช่วงเช้า ทางจำเลยจะได้ให้นายเดชา ทนายความรับมอบอำนาจจากครอบครัวแพรวา  นำเงินชดใช้เหยื่อมาวางศาลต่อศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ซึ่งเมื่อคำนวณหนี้ที่ต้องชำระตามคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 42,637,810.40 บาท

          สำหรับคดีนี้ เป็นข่าวครึกโครมที่สังคมให้ความสนใจ เมื่อเกิดเหตุเยาวชนอายุ 16 ปี ได้ขับรถยนต์ซีวิค เฉี่ยวชนกับรถตู้โดยสารสายธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต-หมอชิตบนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ พลิกคว่ำ เมื่อค่ำวันที่ 27 ธ.ค.53 เป็นเหตุให้คนขับรถตู้และผู้โดยสารเสียชีวิต รวม 9 ราย และผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง 

      และล่าสุดเกิดกระแสสังคมกดดันให้ "ครอบครัวแพรวา"  ออกมารับผิดชอบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น หลังจากทราบข่าวว่า เวลาล่วงเลยมานานแล้วนับจากเกิดเหตุ ทางครอบครัวเหยื่อยังไม่ได้รับการชดใช้ 

      ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม  บอกว่า ตามขั้นตอนต้องรอจนถึงวันที่ 28 ส.ค. หากฝ่ายจำเลยไม่สามารถขายที่ดินจำนวน 21 แปลงได้ ทางศูนย์นิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ที่ช่วยเหลือญาติเหยื่อในคดีนี้ จะนำรายการทรัพย์สินของจำเลยที่ตรวจสอบพบไปยื่นคำขอให้กรมบังคับคดียึดอายัดทรัพย์เพื่อนำออกขายทอดตลาด โดยตั้งเป้าจะเปิดประมูลขายและนำเงินมาเฉลี่ยให้กับผู้เสียหายตามคำพิพากษาให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน หรือ 180 วัน 

    และล่าสุดเมื่อวานนี้ ( 5 ส.ค) นายธวัชชัย ไทยเขียว  รองปลัดยุติธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก มีใจความว่า..

   ขอบคุณคุณแม่น้องแพรวา และดีใจกับผู้เสียหายครับ...!!

   บ่ายวันนี้ได้รับการประสานงานจากคุณแม่น้องแพรวา ว่า..”สามารถหาหลักทรัพย์ได้ครบตามจำนวนตามคำพิพากษาของศาลแล้ว พร้อมทั้งได้มอบหมายทนายความให้ไปขอยอดวงเงินรวมจากศาลแล้วเช่นกัน โดยจะนำไปวางที่ศาลไว้ก่อนในระหว่างรอนัดหมายกับทนายความของผู้เสียหายเพื่อจ่ายเงินให้กับผู้เสียหายแต่ละรายต่อไป

   กรณีที่คุณแม่ไปวางทรัพย์ที่ศาลแล้วนั้น คุณแม่ควรต้องแจ้งการวางทรัพย์ให้เจ้าหนี้หรือทนายผู้เสียหายทราบโดยเร็ว เนื่องจากผลของการวางทรัพย์นั้นจะทำให้หลุดพ้นจากหนี้ที่ต้องชำระไม่ตกเป็นผู้ผิดนัดและไม่ต้องเสียดอกเบี้ยหลังจากวันที่วางทรัพย์ครับ

    ขอบคุณคุณแม่น้องแพรวาและครอบครัว รวมถึงคุณทนายทั้งสองฝ่ายที่ช่วยกันทำให้เรื่องจบไปได้ด้วยดีครับ

   ไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้เกิด แต่เมื่อมันเกิดมาแล้วก็เป็นวิบากของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้แต่เห็นใจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องครับ