'เป้ วงมายด์' อยากทำตัวให้เป็นคนดีเพื่อแฟนสาว

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  หลังจากออกมาโพสต์โซเชียลเปิดตัวหวานใจคนพิเศษ "กร" ษิภูตา หลายคนก็จับตาในความสัมพันธ์นี้ เนื่องจาก "เป้ วงมายด์" ไม่เคยเปิดเผยเรื่องความรักของตัวเองมาก่อน จนทำให้มีเรื่องมีราวในรักครั้งก่อนๆ อยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดในงานแถลงข่าว  เมโลดี้ ออฟ ไลฟ์ 12  ONE TWO ทำ  ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หนุ่มเป้เปิดใจถึงเรื่องนี้ 

    
    เปิดตัวสาวคนใหม่แล้ว?
     “ครับ ใช่ครับ ปีหนึ่งนี่คือใหม่ไหมครับ"
    อะไรทำให้มั่นใจในคนนี้เลยเปิดตัว?
     “ผมเป็นคนดูแลตัวเองไม่ค่อยเก่งครับ ต้องมีใครสักคนดูแลอยู่ตลอด ไม่งั้นจะนอกลู่นอกทาง จะดื้อ"

 

 

    เขามีกลัวเราจากข่าวเก่าๆบ้างไหม?
     “เราคบกันที่ปัจจุบันมากกว่า"

    พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าไม่ได้เป็นแบบในข่าว?
     “ผมทำปัจจุบันให้ดีที่สุดมากกว่า ช่วงอดีตที่ผ่านมา ผมมองว่าเป็นช่วงเรียนรู้ เราไม่สามารถตัดสินคนจากอดีตได้ ปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด"

 

    ชอบตรงไหน?
    “ชอบเขาหลายอย่าง น้องยังเด็กมาก แต่ความคิดไม่ได้เด็กเหมือนอายุ เป็นคนช่วยกันคิด ช่วยกันสร้างอะไรหลายอย่าง ตอนนี้ผมทำรายการของผมอยู่ ชื่อรายการ จรจัด ในยูทูป ทำกับน้องครับ เขาดูแลหลายอย่างเลย แล้วยังดูเรื่องไฟแนนเชียลให้ด้วย แล้วก็ดูแลเรื่องบริษัทด้วย"

 

 

 

 

 

    เจอครั้งแรกปิ๊งเลยไหม?
    “ค่อยๆเรียนรู้กัน ไม่ได้ปิ๊งตั้งแต่ครั้งแรก ค่อยๆเพิ่มขึ้นมากกว่า" 

    เขามีถามเราเรื่องข่าวที่ผ่านมาไหม?
    “เราเลือกที่จะมองข้ามเรื่องที่ผ่านไปแล้วของทั้งคู่ ผมเชื่อว่าอดีตของทุกคนมีทั้งดีและไม่ดี เราเลือกที่จะทิ้งมันไว้ข้างหลังดีกว่า เราเป็นปัจจุบันของคนทั้งคู่ ถามว่าเป็นเสือสิ้นลายแล้ว ผมไม่ได้เป็นเสือตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ผมแค่ทานเยอะหน่อยเท่านั้นเอง พูดเล่นครับ เรื่องสิ้นลายไม่เกี่ยวหรอก อยู่ที่เราเจอคนที่พอดีหรือยัง สำหรับน้องก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่พอดี อยู่ในวัยที่จะมีความมั่นคงในชีวิต คุณพ่อคุณแม่ก็รออุ้มหลาน"

 

    แสดงว่าคนนี้จริงจังถึงขั้นแต่งงาน?
     “เรายังเรียนรู้กันอยู่ครับ ผมไม่อยากพูดอะไรมาก ถ้ามันผิดพลาดไป พี่จะมาเล่นผมอีก “

    มีโอกาสพาไปเจอครอบครัวหรือยัง?
     “เรียบร้อยแล้วครับ ผมก็มีโอกาสได้เจอมาม๊าของน้องมาแล้วครั้งหนึ่ง ไปทานข้าวด้วย ผมเพิ่งเจอมาม๊า แต่ยังไม่เจอปาป๊า มีทานข้าวด้วยกันครั้งหนึ่ง แต่คงจะต้องมีมากกว่านี้หน่อย เจอกันครั้งแรกอาจจะไม่มีอะไรเรียนรู้กันมากเท่าไหร่"

 

 

    คุณแม่เราว่ายังไงบ้าง?
     “ฝั่งผมไม่มีปัญหาครับ โอเคอยู่แล้ว เขาน่ารัก อยากให้ดูแล อยากให้ลดปาร์ตี้ลง พอดีมีน้องเข้ามาก็ช่วยดูแลได้"    
    แต่ก่อนหน้านี้เราก็ไม่เคยเปิดตัวว่าคบกับใครเป็นพิเศษ ?
    "คือผมเคยให้สัมภาษณ์ไว้นานมากแล้วครับว่าผมอยากจะขอเก็บเอาไว้เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะก่อนหน้านี้ที่เคยมีปัญหา คุณพ่อคุณแม่ของผมท่านก็เสียใจมาก เพราะท่านก็โดนหนักมากเช่นกันกับกระแสในโซเชียลมีเดีย แต่สำหรับครั้งนี้ เอ่อ...ผมรู้สึกว่าเราทั้งคู่น่าจะอยู่ในวัยที่เหมาะสมแล้ว ผมโตมากพอที่จะรับผิดชอบอะไรบางอย่างได้ ซึ่งมันก็คงไม่เป็นเรื่องผิดหากผมจะได้พูดให้กับหลายๆ คนได้เข้าใจว่าผมกำลังดูใจกับใครอยู่ ถ้าหากเราทำให้มันชัดเจน มันก็น่าจะดีกับทุกฝ่ายครับ"

 

 

 

 

 

    เหมือนเราอยากทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น ?
    "ครับ คือผมอยากจะทำตัวเองให้เป็นคนดีสำหรับทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ หรือครอบครัวของอีกฝ่าย ผมรู้สึกว่ามันเป็นวัยที่ผมควรจะรับผิดชอบทุกอย่างได้แล้ว"

 

 

    แสดงว่าถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด คู่เราก็อาจจะมีข่าวดี ?
    "ผมขอยังไม่พูดอะไรดีกว่าครับ เพราะผมไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะเปลี่ยนแปลงไปยังไง เอาเป็นว่าผมจะทำทุกวันนี้และทำเรื่องของผมในตอนนี้ ให้ดีที่สุดดีกว่าครับ"

 

 

    เหมือนพอมีเขาเข้ามาเราก็เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น ?
    "ใช่ครับ ดีขึ้นมาก ผมหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น เป็นห่วงสุขภาพตัวเองมากขึ้น มีความรับผิดชอบกับชีวิตตัวเองมากขึ้น ใช้ชีวิตอยู่แต่บ้านมากกว่าที่จะออกไปเที่ยว ไม่ได้ถึงขั้นตัดปาร์ตี้ออกจากชีวิต (หัวเราะ) ก็ยังพอมีอยู่บ้างครับ แต่ก็ไม่ได้มากเหมือนแต่ก่อน"

 

 

    คิดว่าสาเหตุที่เราเปลี่ยนตัวเองมันเกิดขึ้นเพราะอะไร ?
    "อย่างที่บอกครับ ผมรู้สึกว่าผมอยากจะมีชีวิตที่มั่นคง ชีวิตผมเดินทางมาถึงอายุ 33 ปี มันก็น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ที่ผมจะต้องลงหลักปักฐานกับอะไรบางอย่าง หรือใครบางคน" ผมคิดเรื่องแต่งงานไหม ผมคิดมาตลอด แต่ว่าคนๆนั้นอยู่ที่ไหน ผมยังไม่เจอในตอนนั้น แต่ว่าตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจว่าคนๆนี้จะใช่ไหม ผมขออนุญาตเรียนรู้กับเขาไปก่อน ผมเชื่อว่าความสุกงอม หรือว่าความพอดีของมันจะบอกเราเองครับ ไม่เร่งรัดมันดีกว่า”

    

 

 

 

 

 

    แสดงว่าที่ผ่านมาก็เป็นการพิสูจน์เรา?
    “มากครับ มันทำให้เราเติบโตขึ้น คิดมากขึ้น ทำให้เราตัดสินใจอะไรบางอย่างช้าลง แต่เฟิร์มมากขึ้น  ผมอยากมีครอบครัวครับ รู้สึกว่ามันเป็นวัยที่เหมาะสม ผมอยากมีลูกทันใช้”

 

 

    เคยถามเขาหรือยังว่าพร้อมไหม?
    “จริงๆผมยังไม่ได้ไปถึงขนาดนั้น ก็นั่นแหละครับ จริงๆก็อยู่ในช่วงเวลาที่กำลังคบหาดูใจ เรียนรู้กัน และอีกอย่างน่าจะเป็นเรื่องของการยอมรับของทั้งสองครอบครัวด้วย มันยังไปอีกหลายขั้น เอาเป็นว่าตอนนี้ผมเอามาเล่าให้ฟังกันก่อน”

 

    เรามองเห็นภาพไหมว่าเขาสามารถเป็นแม่ของลูกเราได้หรือเปล่า?
    “(หัวเราะ) เขาน่ารักครับ เขาเป็นคนดีครับ และผมเชื่อว่าในอนาคตก็หวังไว้ว่าจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นกับคู่ของเรา”
    ถือว่าความรักครั้งนี้มันลงตัวที่สุดไหม?
    “ผมว่ามันเป็นช่วงที่ยังเรียนรู้กันอยู่ครับ แต่ง่าตอนนี้มีความสุขดีมาก ยังคงเป็นรอยยิ้มของกันและกัน”

 

    เขาไปคุมเราทุกงานเลยไหม?
    “ผมว่าไม่ได้คุมหรอกครับ มาช่วยกันดูแล เพราะบางทีผมอาจจะดูแลได้ไม่ทั่วถึงอย่างพี่ๆสื่อ หรือเพื่อนๆของผมทุกคน หรือบางทีบางครั้งผมอาจจะลืมนั่นลืมนี่ พอมีน้องมาก็เหมือนมีสองสมอง มาช่วยกัน ถามว่าเป็นผู้จัดการด้วยไหม ในบางเรื่องครับ ถ้าเป็นงานส่วนตัวจริงๆครับ”

    เขาดุไหม?
    “ดุไหม มันอยู่ที่คนมองนะ (ยิ้ม) เขาเป็นคนชัดเจนดีกว่าครับ และมีความคิดเป็นของตัวเอง คิดก่อนพูด ไม่ค่อยใช้อารมณ์มากเท่าไหร่ กลัวไหม ผมเกรงใจมากกว่า ให้เกียรติครับ”

 

 

    เขาหึงไหมด้วยความที่เราเป็นศิลปินอาจจะต้องเจอคนเยอะ?
    “ผมพยายามจะอธิบายทุกเรื่องให้เขาเข้าใจก่อน พยายามจะเอาเขามาดูทุกอย่างครับ ว่าจริงๆแล้วเราใช้ชีวิตยังไง ทั้งหน้าฉากและหลังฉาก เพื่อที่จะให้สบายใจทั้งคู่ ผมไม่อยากให้สุดท้ายแล้วมาคิดเองทีหลังเวลาที่เขาอยู่ที่บ้านคนเดียวกับน้องหมาอะไรแบบนี้แล้วต้องมานั่งคิดมาก ผมรู้สึกว่าถ้าการที่ทำให้เขาได้เห็นบ่อยๆ มันจะทำให้เขาเข้าใจได้ง่ายๆ ผมว่าความเข้าใจสำคัญกว่าความรักครับ”

 

 

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-(คลิป) เลิกคุยทั้งอำเภอ แต่ขอแดนซ์ทั้งอำเภอได้มั๊ย
-'หนุ่ย' ลั่นยังร้องเพลงแค่ไม่เจอสื่อ
-'กรีนคอนเสิร์ต หมายเลข 22' สะใจชาวร็อค
-(คลิป) 'เป้ วงมายด์' เปิดใจเรื่องความรักครั้งแรก