ฮือฮา ชาวบ้านพบหินประหลาดเปลี่ยนสีได้ เชื่อเก็บไว้ทำให้มีโชคลาภ
พัทลุง - ชาวบ้านฮือฮาพบก้อนหินประหลาด ซึ่งเมื่อกระทบแสงนั้น จะสามารถเปลี่ยนสีได้ และเชื่อว่าเป็นของดีสามารถคุ้มครองให้พ้นภัยอันตราย และทำให้มีโชคลาภ
สำหรับก้อนหินดังกล่าวมีลักษณะกลมเป็นวงรี เหมือนไข่ไก่แจ้ สีดำสนิท ผิวเกลี้ยง ความสูงประมาณ 3 ซม. เส้นรอบวงตรงกึ่งกลางวัดได้ 10 ซม. น้ำหนักประมาณ 30 กรัม ก่อนนำออกมาให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ ได้ทำพิธีจุดธูป เทียน และวางก้อนหินไว้ในพาน รองด้วยผ้าขาว เพื่อขอขมาและขออนุญาตให้ถ่ายภาพ จากก้อนหินสีดำสนิททุกคนต้องแปลกใจ เมื่อนำหินมาส่องกระทบกับแสงสว่าง หินจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงคราม หรือบางครั้งก็เป็นสีน้ำเงินเข้ม เมื่อนำมาแช่น้ำสีของหินก็จะเปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัด บางครั้งนำหินมาแช่น้ำ เพื่อเอาน้ำมาดื่มเชื่อว่าสามารถรักษาโรคได้
ทั้งนี้นายชา ชาวบ้านผู้พบหินดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2557 ตนเดินเท้าไปสวนยางพาราแถบเชิงเขาบรรทัด ในพื้นที่ ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ ตอนนั้นทางราชการเริ่มเข้ามาตัดถนนใหม่แทนสายเก่าที่เป็นทางช้าง รถเกรดกำลังเกลี่ยดิน ตนหันไปเห็นก้อนหินดังกล่าวปะปนอยู่กับดินลูกรังที่นำมาถมถนน ลักษณะเหมือนไข่ไก่หรือไข่นก ตนจึงเก็บมาดูจึงพยายามเช็ดถูดินออก พร้อมกับขูดดูปรากฏว่าไม่ใช่ไข่แต่กลับกลายเป็นก้อนหินธรรมดาที่มีรูปร่างเหมือนไข่เท่านั้น จึงเก็บกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้านนำก้อนหินดังกล่าวใส่ในตะกร้าใบจาก โดยไม่ได้ใส่ใจอีกเลยเก็บมาได้ประมาณ 2 ปี วันหนึ่งตนหยิบมาดูอีกครั้งและคิดต่างว่ามันคืออะไรกันแน่ หรืออาจจะเป็นเพชรตาแมวที่คนเฒ่าคนแก่เคยเล่าให้ฟัง จึงนำหินไปแช่น้ำ จากนั้นตนได้เห็นว่าหินได้เปลี่ยนเป็นสีม่วงคราม บางครั้งก็เป็นสีน้ำเงินเข้ม สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก จึงเริ่มเก็บไว้โดยการห่อผ้าขาววางบนหิ้งจุดธูปเทียนบูชา หากออกจากบ้านก็จะนำติดตัวไปตลอด ด้วยความอยากรู้ตนพยายามสอบถามผู้สูงอายุ แต่ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร และไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน
นายชา บอกว่าเคยฝันว่าหินตกลงไปในน้ำ ตนลองใบ้หวยดูเมื่อหวยออกก็ตรงกับเลขที่ใบ้ไว้ แต่ตนไม่ได้ซื้อ เพราะปกติเป็นคนไม่ชอบเล่นการพนัน แต่หลังจากได้หินมาบูชา จู่ๆทางรัฐบาลแจ้งว่าตนมีรายชื่อที่ได้รับเงินสหายที่กลับตัวผู้ร่วมอุดมการณ์กว่า 1 แสนบาท นอกจากนั้นจากที่มีครอบครัวที่ลำบาก ในปัจจุบันก็มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความปลอดภัยในการเดินทาง มีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งตนคิดว่าเป็นผลพวงจากการที่ได้ ครอบครองหินเปลี่ยนสีดังกล่าว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เคยมีผู้เชี่ยวชาญในการลองของ มาขอทดลอง 2-3 ครั้ง ตามความเชื่อถึงความขลัง แต่ก็ทุกคนไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไรจนเกิดเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ เพราะหลังจากมีการทดลองก่อนหน้านี้แล้ว ทางนายชาไม่อนุญาตให้ใครมาทดลองอีกเลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง