ผวา!! พบหัวมนุษย์ถูกตัดลอยแม่น้ำเจ้าพระยา

สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ รับแจ้งมีผู้พบชิ้นส่วนหัวมนุษย์ลักษณะผมยาวลอยอยู่กลางในแม่น้ำเจ้าพระยา มาติดอยู่ที่ข้างแพบรรทุกรถยนต์ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาของบริษัท เภตา ขนานยนต์ ตั้งอยู่ท่าน้ำพระประแดง หมู่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ  

ที่เกิดเหตุบริเวณท่าน้ำได้พบชาวบ้านได้ช่วยกันใช้สวิงด้ามยาวที่เอาไว้ใช้ช้อนปลาตักเอาชิ้นส่วนศีรษะมนุษย์มาวางไว้บนสะพานสำหรับรถยนต์วิ่งขึ้นจากแพ ได้พบว่าศีรษะดังกล่าวมีลักษณะผมยาวซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเป็นศีรษะของผู้หญิงหรือผู้ชาย ถูกตัดเฉียงด้วยของมีคมตั้งแต่ใบหูข้างซ้ายลงมาขาดที่ลำคอด้านขวาฟันกรามช่วงล่างขาดหายไป ที่บริเวณกลางหน้าผากระหว่างคิวทั้ง 2 ข้างมีบาดแผลคล้ายถูกของมีคมฟันจนเป็นบาดแผลลึกยาวประมาณ 2 นิ้ว และหน้าผากด้านบนข้างซ้ายยุบจนมองเห็นได้ชัด และศีรษะด้านหน้าเถิกหน้าผากกว้าง คาดว่าลอยอยู่ในน้ำไม่ต่ำกว่า 3-4 วันเนื่องจากสภาพเนื้อเริ่มเน่าเปื่อย จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุไม่มีใครเคยเห็นหน้าหรือรู้จักแต่อย่างใด จึงได้มอบให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช 

ทั้งนี้ ผู้พบเห็นศีรษะมนุษย์ดังกล่าวเป็นคนแรก ได้เล่าว่า ตนและเพื่อนได้ชักชวนกันมานั่งตกปลาอยู่ที่ท่าน้ำพระประแดง ในขณะที่กำลังนั่งตกปลากันอยู่เพลิน ๆ เพื่อนของตนก็ชี้ไปที่กลางแม่น้ำว่ามีวัตถุลักษณ์คล้ายหัวคนลอยอยู่ ตนจึงมองไปตอนแรกตอนก็ว่าไม่น่าจะใช้น่าจะเป็นตุ๊กตา แต่เพื่อนตนก็เถียงว่าเป็นหัวคน ด้วยความสงสัยตนจึงได้ใช้สวิงด้ามยาวประมาณ 4 เมตรเดินลงไปในแพขนานยนต์ที่จอดอยู่และใช้สวิงดังกล่าวช้อนวัตถุดังกล่าวขึ้นมาดูจึงพบว่าเป็นศีรษะมนุษย์จริง ๆ ด้วยความตกใจตนจึงได้วิ่งไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมาคอยอำนวยการจราจรอยู่ที่ท่าน้ำใกล้ที่พบให้มาช่วยตรวจสอบ 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าศีรษะที่พบเป็นของผู้หญิงหรือผู้ชายไว้ผมยาว ส่วนที่ทำให้ศีรษะขาดนั้นก็ยังไม่สามารถระบุได้เช่นกันว่าถูกของมีคมฟันจนขาดหรืออาจถูกใบพัดเรือบรรทุกสิ้นค้าที่วิ่งเข้าออกในแม่น้ำเจ้าพระยาฟันจนขาดและลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งคาดว่าเหตุน่าจะเกิดมาจากพื้นอื่นและชิ้นส่วนลอยมาตามกระแสน้ำ อย่างไรก็ตามจะได้ประสานไปยังพื้นที่ใกล้เคียงว่ามีญาติมาแจ้งคนหายไว้หรือไม่เพื่อสืบหาเบาะแสว่าผู้ตายเป็นใครและเสียชีวิตด้วยเหตุใดและชิ้นส่วนที่เหลืออยู่ที่ไหน เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

ภาพจาก : คนข่าวต้นปราการ