21 ก.พ.2508 21 นัด 'มัลคอม เอ็กซ์' นักต่อสู้ล้มกลางฝูงชน

 

 

****************************

 

 

"มัลคอม เอ็กซ์" คือ นักพูด นักรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนของชาวมุสลิมและชาวอเมริกันผิวดำ แต่ต้องมาตายด้วยน้ำมือของคนกลุ่มที่หลายคนเชื่อว่าเคยร่วมเส้นทางเดียวกันมาก่อน

 

 

 

 

 

 

วันนี้เมื่อ 55 ปีก่อน 21 กุมภาพันธ์ 2508 คือวันที่ มัลคอม เอ็กซ์ ถูกยิงตาย ขณะกำลังปราศรัยในหอประชุมแห่งหนึ่งในแมนฮัตตัน

 

วันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวของเขาอีกครั้ง

 

 

 

ทางวิบาก

 

มัลคอม เอ็กซ์ เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2468 ที่เมืองโอมาฮา รัฐเนบราสกา สหรัฐอเมริกา เดิมชื่อ “มัลคอม ลิทเทิล”

 

ชีวิตวัยเด็กลำบากและน่าสงสารมาก ทั้งๆ ที่เขาเป็นเด็กเรียนดีที่ติดอันดับต้นๆ ของห้อง แต่เมื่อบิดาของเขาถูกฆาตกรรม และมารดาถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการทางประสาท มัลคอมในวัยเพียง 15 จึงต้องใช้ชีวิตวัยเด็กในบ้านเลี้ยงดูเด็กกำพร้า

 

 

 

 

 

 

แน่นอนชีวิตที่ขาดการอบรมเลี้ยงดู ทำให้เขาเดินสู่เส้นทางของการก่ออาชญากรรม โดยตระเวนทำผิดอยู่ในกรุงบอสตันและนิวยอร์ก จนกระทั่งได้เขาไปรับโทษในเรือนจำในปี 2488 ด้วยอายุเพียง 20 ปี

 

 

 

 

 

 

ระหว่างถูกจองจำเป็นเวลากว่า 6-7 ปี เขาได้รู้จักกับคำว่า “อิสลาม” เป็นครั้งแรกผ่านกลุ่มของเนชั่นออฟอิสลาม โดยมีข้อมูลว่า Nation of Islam เป็นกลุ่มมุสลิมผิวดำในอเมริกากำเนิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 (ค.ศ.1930) โดย Wallace Fard Muhammad ซึ่งมีแนวความคิดแตกต่างไปจากอิสลามทั่วไป แนวความคิดนี้มีความเชื่อที่นับถือกัน 3 ประการคือ

 

 

Wallace Fard Muhammad

 

 

 

1.นับถืออัลลอฮ์เป็นพระเจ้า

2.ถือว่าคนผิวขาวคือสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย และเรียกคนนิโกรว่า “ชาวเอเชียผิวดำ”

3.ถือว่าคนผิวดำคือชนชาติที่ดีที่สุด 

 

ทั้งหมดนี้ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีความสุดโต่งเกินไป เพราะคำสอนเหล่านี้ไม่มีในหลักคำสอนของอิสลาม และคนกลุ่มนี้ยังไม่ยอมรับคนผิวขาวเข้าเป็นสมาชิกแถมยังเกลียดชังคนผิวขาวในสหรัฐเอามากๆ

 

 

 

 

เส้นทางเปลี่ยน

 

ที่สุดมัลคอมในวัยเพียง 26 จึงได้ร่วมเป็นสมาชิกของขบวนการนี้ แถมยังเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามอีกด้วย

 

โดยหลังจากเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม มัลคอมเปลี่ยนนามสกุลจาก “ลิทเทิล” เป็น “เอ็กซ์” (X) โดยให้เหตุผลว่า เป็นชื่อที่สื่อแสดงถึงความเป็นนามสกุลของชาวแอฟริกันที่แท้จริง (คือ ไม่ทราบที่มา) แทนที่นามสกุล ‘ลิทเทิล’ ของเดิมที่สื่อถึงชาวผิวขาว ตาสีฟ้า

 

หลังจากเขาได้รับทัณฑ์บนในปี 2495 ด้วยอายุ 27 ปี มัลคอมได้ร่วมงานกับขบวนการชาติอิสลามอย่างจริงจัง ได้รับตำแหน่งโฆษกและเป็นแกนนำคนสำคัญคนหนึ่งขององค์การ

 

แต่แล้วผ่านมา 12 ปี ปรากฏว่า ในปี 2507 มัลคอม เกิดไปมีความขัดแย้งกับ "อีไลจาห์ มูฮัมมัด" ผู้นำขบวนการชาติอิสลาม เขาจึงตัดสินใจลาออกจากกลุ่มในที่สุด

 

 

 

อีไลจาห์ มูฮัมมัด

 

 

จากนั้นยังได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครมักกะห์ ซาอุดิอาระเบีย เป็นอันว่าการเดินทางครั้งนี้ถือว่าทำให้เขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ถึงขนาดเปลี่ยนไปนับถือนิกายซุนนี และเปลี่ยนไปใช้ชื่อในภาษาอาหรับว่าเอล-ฮัจญ์ มาลิก เอล-ชาบาซ

 

โดยที่ซาอุดิอาระเบีย มัลคอมได้เรียนรู้อิสลามในแนวคิดที่ถูกต้อง จนเข้าใจมากขึ้นว่าอิสลามเป็นศาสนาของมนุษยชาติ ไม่มีการแบ่งแยกสีผิวหรือเชื้อชาติใดๆ มนุษย์ทุกคนเป็นพี่น้องกัน มีความเท่าเทียมกันและพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้มองมนุษย์ที่ชาติกำเนิด สีผิวและเผ่าพันธุ์

 

 

 

 

 

 

มัลคอมจึงกลับมาเดินหน้าในวิถีอิสลามที่ถูกต้อง เข้ามาเปลี่ยนแปลงความคิดของคนผิวดำให้ยอมรับความเท่าเทียมกันในอิสลาม

 

และยังเรียกร้องสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมกันของมนุษย์อย่างกว้างขวางในอเมริกา เช่น การเรียกร้องให้คนผิวดำมีสิทธิทางการเมือง การออกเสียงเลือกตั้งเช่นเดียวกับคนผิวขาว ให้ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพทางด้านความคิดเหมือนกัน

 

ในยุคสมัยนั้น ผู้ที่มีสีผิวและออกมาเรียกร้องลักษณะนี้ ย่อมถือเป็นการท้าทายต่อชาวอเมริกันผิวขาวเป็นอย่างมาก

 

 

 

Cr.AP

 

 

 

แต่มัลคอมก็ยังนับเป็นคนหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนมารับอิสลามของใครๆ อีกหลายคน รวมถึง “แคสเซียส เคลย์” ชายคนนี้ไม่ใช่ใครเลย ก็คือ "มุฮัมมัด อะลี" อดีตแชมเปี้ยนมวยสากลรุ่นยักษ์ ผู้เป็นตำนานของวงการมวยนั่นเอง

 

 

 

 

ชีวิตดับ

 

 

อย่างไรก็ดี ในทางหนึ่งยังว่ากันว่า ด้วยแนวคิดที่เปลี่ยนไปของมัลคอม ยังท้าทายต่อกลุ่มขบวนการชาติอิสลามที่เขาเคยร่วมทำงานเช่นกัน

 

ไม่เพียงเท่านั้น เขายังตั้งองค์กรชื่อ “Muslim Mosque, Inc.” และ “Organization of Afro-American Unity” ว่ากันว่าเหมือนท้าชนองค์กรเดิมเห็นๆ

 

ตลอดมา มัลคัม เอ็กซ์ ยังคงเคลื่อนไหวเรียกร้องตามอุดมการณ์ของตนเอง เฉกเช่นวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2508 วันที่เยือกเย็นวันหนึ่งของท้องฟ้าสหรัฐอเมริกาขณะนั้น

 

 

 

 

 

 

มัลคอมมีการเปิดปราศรัยสำคัญในหอประชุมแห่งหนึ่งในแมนฮัตตัน แต่ขณะที่เขายืนอยู่ต่อหน้าผู้คนจำนวน 400 คน  รวมทั้งภรรยาและลูกทั้ง 4 คน เสียงปืนหลายนัดก็ดังขึ้น 

 

มัลคอม ล้มลงต่อหน้าทุกคน ณ ที่นั่น ว่ากันว่าเขาถูกยิงไปทั้งหมด 21 นัดจากการลั่นไกโดยชายฉกรรจ์สามคนที่เป็นสมาชิกของขบวนการชาติอิสลาม แต่องค์กรดังกล่าวได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารครั้งนั้น

 

 

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ดี ยังว่ากันว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสังหารเขาก็คือยิวไซออนิสต์ ซึ่งอยู่เบื้องหลังการกำเนิดของกลุ่ม Nation of Islam นั่นเอง

 

วันนี้ ไม่ว่าจะอย่างไร มัลคอม เอ็กซ์ ก็ถูกจดจำว่าเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และต่อสู้เพื่อสิทธิของคนผิวดำในสหรัฐอย่างกล้าหาญ

 

เป็นผู้ตั้งข้อกล่าวหาคนอเมริกันผิวขาวต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคนอเมริกันผิวดำ

 

เป็นผู้กล้าชนกับระบอบกรอบเดิมๆ

 

และเป็นผู้ซึ่งแม้ถูกเด็ดทิ้งก็ยังแตกหน่อ ชูช่องดงามทั่วไปในแดนดินบนโลกนี้

 

 

******************************