วันนี้เมื่อ 4 ปีก่อน
วันนี้ในอดีต ย้อนความทรงจำกับ “ประชาธิป มุสิกพงศ์” หรือ สิงห์ นักร้อง นักแต่งเพลง และอดีตมือกีตาร์ ของวง “สควีซ แอนิมอล” (Sqweez Animal)
เพราะเมื่อ 4 ปีก่อน เขาได้ตัดสินใจหยุดอาการซึมเศร้า ไว้ที่ก้าวสุดท้ายของเขาจากชั้น 9 ของอาคารคอนโดมีเนียม ในซอยทองหล่อ ร่างตกลงมานอนแน่นิ่งอยู่ที่ระเบียงของห้องพักในชั้น 4 ของคอนโดเดียวกัน
แน่นอน เรารู้แล้วว่าเขาจากไปไม่มีวันกลับแต่วันนี้เรามารำลึกถึงเขา ด้วยประวัติชีวิตของเขากันดีกว่า
ชื่อของสิงห์
สิงห์เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2527 เป็นบุตรคนกลางในจำนวนบุตรชายทั้งสามคนของบิดาซึ่งบรรจงตั้งชื่อให้สิงห์ว่า “ประชาธิป”
ใช่แล้ว บิดาของเขาคือ “วีระกานต์ มุสิกพงศ์” นักการเมืองชาวไทยผู้เป็นประธานคนแรกของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ และศรีวิไล (สกุลเดิม: ประสุตานนท์) อดีตนักแสดงภาพยนตร์ไทย
แม้แต่เจ้าตัว ยังเคยกล่าวถึงที่มาของชื่อตนว่า มีที่มาจาก “ประชาธิปไตย” ซึ่งผู้เป็นบิดาตั้งให้ โดยถือเป็นการปลูกฝังอุดมการณ์ที่วีระกานต์เชื่อมั่น ให้กับบุตรไว้ตั้งแต่ยังเด็ก
อย่างไรก็ดี เส้นทางของสิงห์กลับห่างไกลจากการเมืองมาก เพราะเขาเลือกเดินในทางของศิลปินผู้อยู่ในโลกของเสียงดนตรีและบทเพลง
เขาเคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ เมื่อปี พ.ศ. 2552 ว่าไม่ได้คุยเรื่องการเมืองกับทางบ้านมากนัก เนื่องจากเขามิได้สนใจการเมือง
ย้อนไปในวัยเด็ก สิงห์จบการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตรจากนั้นครอบครัวส่งเขาไปศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ
จบมัธยมกลับมาก็เข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีดนตรี เรื่องนี้มีเล่าไว้ในคอลัมน์ Talk to dad ของ GM Magazine เล่ม 361 เมื่อปี 2551พ่อของสิงห์กล่าวถึงบุตรชายคนกลางคนนี้ว่า
“ผมเห็นว่าเขาชอบดนตรีตั้งแต่เด็ก พอไปเรียนที่อังกฤษเขาก็เล่นเองหัดเองมาเรื่อยๆ จนครูที่โน่นเห็นแววบอกว่า ยูควรไปเรียนด้าน ‘Music Technology’ หรือพวกเทคโนโลยีทางด้านดนตรี"
“พอรู้ว่าลูกไปได้วิชาปี่มาเหมือนพระอภัยมณีซะแล้ว คนเป็นพ่อเป็นแม่ ส่งลูกไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาก็ต้องคิดมากเป็นธรรมดาว่าจะทำยังไงล่ะทีนี้ แต่พอได้ไตร่ตรองทบทวนก็คิดว่า#อะไรก็ตามที่ทำให้ลูกมีความสุขทั้งชีวิตย่อมเป็นเรื่องดีก็เลยเซ็นอนุมัติยินยอม”
แต่ที่สุดก็ไปจบทางด้านการออกแบบกราฟิกที่มหาวิทยาลัยมิดเดิลเส็กซ์กรุงลอนดอน และใช้ชีวิตที่อังกฤษรวมแล้วประมาณ 10 ปีก็เดินทางกลับบ้านเกิด
ทางของสิงห์
ตามข้อมูล “สิงห์ประชาธิป”เริ่มสนใจดนตรีตั้งแต่อายุ 8 ขวบ อย่างที่บิดาว่าไว้นั่นแหละ โดยมีวงดนตรีโมเดิร์นด็อกเป็นแรงบันดาลใจ จากนั้นเขาก็เริ่มแกะเพลงของศิลปินอื่นๆ อาทิ โยคีเพลย์บอย, สี่เต่าเธอ, ซิลลี่ ฟูลส์ เป็นต้น
นอกจากนี้เขายังมีความสามารถ เล่นเบสและกลองโดยช่วงที่เป็นนักเรียนอังกฤษเขากับเพื่อนๆ ยังเล่นดนตรีกันอย่างจริงจัง
จนเมื่อกลับมามาเมืองไทย เขาตัดสินใจเข้าสู่วงการเพลงอย่างจริงจัง จนกระทั่งจบชีวิตในนามสิงห์ สควีซ แอนิมอล ที่คนไทยเรียกเขาติดปากมาตลอด
ช่วงที่มีชีวิต สิงห์เคยร่วมเล่นกีตาร์ให้กับวงบีเควัน (BK1) ในอัลบั้มที-ฮ็อป (T-HOP) ในสังกัดเบเกอรี่มิวสิค และร่วมออกทัวร์คอนเสิร์ตกับวง ในช่วงปี พ.ศ. 2547 อีกด้วย
ต่อมาราวปี 2550 พี่ชายของสิงห์ หรือ “แชมป์วีรพัฒน์ มุสิกพงศ์”ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับ“วิน ศิริวงศ์” ได้แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันด้วยเห็นว่าทั้งคู่มีความสนใจแนวดนตรีลักษณะเดียวกัน
กระทั่งต่อมาพวกเขาจึงร่วมกันออกซิงเกิลเพลง “อาจยังไม่สาย”กับ “ฉันไม่เหงา”นำออกวางจำหน่ายในงานแฟตเฟสติวัลครั้งที่ 4 พร้อมทั้งส่งตัวอย่างเพลง (demo) ให้กับแฟตเรดิโอ และนำซีดีเพลงไปเสนอกับค่ายเพลงต่างๆ จนกระทั่งค่ายสไปซีดิสก์ให้ความสนใจร่วมงาน
ถึงตอนนี้ สิงห์มีทางเดินร่วมวิญญาณกับ “วิน ศิริวงศ์” ในนาม สควีซ แอนิมอล อย่างเต็มตัวภายใต้แนวเพลงป๊อบ ร่วมกับร็อก โซล อาร์แอนด์บี ฟังค์ และดิสโก้มีเพลงที่เป็นที่รู้จัก นอกจาก อาจยังไม่สาย และ ฉันไม่เหงา ในอัลบั้มแรก ก็ยังมีอัลบั้มที่สองที่ชื่อว่า “ไม่มีที่มา” ในปี 2554
สำหรับชื่อของวงมาจากแนวคิดว่าทั้งสองคนของวงเหมือนลิงที่จะมีชีวิตชีวาในเวลากลางคืน ส่วนคำว่า Sqweez มาจากคำว่า Squeeze ที่แปลว่า “บีบ” อันเป็นแนวการร้องของนักร้องนำ และแนวเพลงที่ต้องการบีบความรู้สึกของผู้ฟังให้คล้อยตามไปกับเพลง
ใจของสิงห์
ด้านของหัวใจ สิงห์มีข่าวว่าคบหาแบบคนรัก กับ “พรปวีณ์ นีระสิงห์” หรือเฟย์นักร้องสาว ซึ่งเป็นสมาชิกวง “เฟย์ ฟาง แก้ว”
แต่ในด้านส่วนตัว เมื่อสิงห์เป็นตัวตนของตนเอง เขาเป็นคนที่เงียบและพูดน้อย มุมหนึ่งนี่อาจเป็นข้อบ่งชี้หนึ่งของอาการซึมเศร้าที่สิงห์น่าจะเป็นอยู่
แต่ยังไม่ชัดเจนเท่ากับจดหมายที่สิงห์เขียนทิ้งไว้ก่อนตาย ซึ่งเขียนด้วยลายมือถึงแฟนสาวมีข้อความว่า
“To Faye only อย่าคิดมากนะที่รัก เราอยากไปมานานแล้ว ชีวิตสิงห์ได้รักคนที่ดีที่สุดในชีวิตมาแล้ว มันพอแล้วครับ” ประชาธิป มุสิกพงศ์
เวลานั้น ข่าวต่างพาดหัวว่าสิงห์พ่ายรักและเลือกจบชีวิตเพราะขณะเดียวกันครอบครัวของเขาให้การตำรวจว่าก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณ 21:00 น.ลูกชายยังโทรศัพท์คุยกับมารดาว่าได้เกิดปัญหาทะเลาะวิวาทอย่างรุนแรงกับแฟนสาว
เวลานั้นบิดาก็นั่งอยู่ด้วย จึงบอกต่อลูกชายไปในโทรศัพท์ว่า ให้ค่อยๆ คิด หากไม่มีทางออกจริง ๆ ก็ให้กลับบ้าน ตนพร้อมจะให้คำปรึกษา แต่ลูกชายก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาและไม่ได้ตอบอีกเลยชั่วชีวิต
แต่คำว่า “อยากไปมานานแล้ว” ในจดหมายของสิงห์ ก็คือสิ่งที่สะท้อนว่า เขาคิดอะไรในช่วงเวลาที่เขาเรียกมันว่า “นานแล้ว” และมันนานแค่ไหนที่เขาต้องแบกมันมาจนถังวันที่ 29 กรกฎาคม 2558
และเช่นเคย วันนี้เรามาคิดถึงเขาซะให้พอ กับผลงานของเขาและเพื่อนร่วมวง Sqweez Animal ดีกว่า
****************//****************
ข่าวที่เกี่ยวข้อง