"ขอตอบชัดๆ สั้นๆ ตรงนี้ว่า ไม่จริง และขอบอกด้วยว่า ถ้าวันไหนคุณกรณ์จะไปหาทักษิณแบบหลบๆ ซ่อนๆ สายตาประชาชนไป ต้องข้ามศพเมียไปก่อนค่ะ"
********************
ยังมีเรื่องการเมืองควันหลังสงกรานต์มาฝาก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 6 ปีก่อน ขณะที่คนไทยยังคงอยูในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ไทย
ที่ฟากหนึ่งของฮ่องกง ได้เกิดเรื่องราวที่ทำเอาคนไทยต้องเม้าท์สนั่น เมื่ออยู่ๆ มีข่าวลือกันให้แซ่ดว่า กรณ์ จาติกวณิช ส.ส.กรุงเทพพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางไปยังฮ่องกงเพื่อเข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีต นายกรัฐมนตรี กับภริยา หรือ วรกร จาติกวณิช
ข่าวลือนี้ เริ่มต้นจาก ช่วงวันที่ 14 เมษายน 2556 ที่อยู่ๆ สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมาธิปไตย ขณะที่ยังอยู่ฝั่งเดียวกับค่านสีแดง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อท่วงทำนองว่า มีนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลบิน ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บ่อย
กระทั่งเริ่มลือหนักเข้าว่าหมายถึง กรณ์ จาติกวณิช จนที่สุด ทางด้านของ วรกร จาติกวณิช ภรรยานายกรณ์ จาติกวณิช ถึงกับต้องออกตอบโต้แทนถึงเรื่องดังกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง และบอกด้วยว่า ถ้าวันไหนนายกรณ์จะไปหาทักษิณแบบหลบๆซ่อนๆสายตาประชาชน “ต้องข้ามศพเมียไปก่อน”
กล่าวคือวันที่ 16 เมษายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางวรกร จาติกวณิช ได้โพสต์ข้อความโจมตี ASTV ผู้จัดการ อย่างเผ็ดร้อน พร้อมกับลิงค์ข่าว ASTV ผู้จัดการประกอบท้ายความเห็น โดยระบุว่า ASTV ผู้จัดการ ด่านักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าพรรคอื่น รวมทั้งโจมตี ASTV ผู้จัดการ ที่เขียนข่าวตามคำพูด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ว่า นายกรณ์ จาติกวณิช ผู้เป็นสามีเดินทางไปยังโรงแรมที่ฮ่องกง เพื่อพบ พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร โดยมีข้อความดังนี้
อ่านย่อหน้าก่อนสุดท้ายแล้วสรุปได้ว่า คนเขียนข่าวนี้เลือกที่จะเชื่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เพื่อจะนำไปสนับสนุนให้เชื่อว่า “นักการเมืองเลวพอกัน” ลองคิดต่อไปว่า ถ้าเขาทำให้ทุกคนเชื่อว่า นักการเมืองเลวพอกันทั้งหมด แล้วจะได้อะไร"
"1. หาคนที่ไม่ใช่นักการเมืองมาบริหารประเทศแทน (ถ้าเขาจะทำแบบสร้างสรรค์จริง ก็เริ่มหามานำเสนอได้แล้ว อย่ามัวแต่ด่านักการเมืองอย่างเดียว แต่ไม่มีทางออกมานำเสนอ) 2. ด่านักการเมืองเพื่อให้คนยอมรับสภาพที่เป็นอยู่ แต่ข้อสังเกตคือ ทุกวันนี้เห็นด่าแต่ประชาธิปัตย์หนักกว่าเยอะเหมือนจะช่วยทำให้คนยอมรับว่า มันก็ไม่ต่างจากทักษิณหรอก ถ้าเป็นเช่นนี้ทุกคนคงมองออกว่า เขากำลังทำเพื่อช่วยใครอยู่"
ทั้งนี้ หากใครจำได้ ก่อนหน้านี้ วรกร จาติกวณิช มีปัญหากับ ดร.เสรี วงษ์มณฑา ที่ออกมาจี้ให้ สองสามี-ภรรยา กรณ์-วรกร ยอมรับพูดความจริงว่า ได้เดินทางไปพบคุณทักษิณที่ฮ่องกงจริงหรือไม่ แต่วรกร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า
“วันนี้มีข่าวปล่อยว่าคุณกรณ์ไปหาทักษิณที่ฮ่องกง มีคนเขียนมาถามใน inbox หลายคน ขอตอบชัดๆ สั้นๆ ตรงนี้ว่า ไม่จริง และขอบอกด้วยว่า ถ้าวันไหนคุณกรณ์จะไปหาทักษิณแบบหลบๆ ซ่อนๆ สายตาประชาชนไป ต้องข้ามศพเมียไปก่อนค่ะ” ที่สุดเรื่องนี้ก็บานปลายจน ดร.เสรี วงษ์มณฑา ประกาศยุติการสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์
ที่สุด ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน กระทาชายนายโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ยังลุกขึ้นมาแจมด้วยการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัว มีใจความว่า
“ผมไม่ทราบว่าพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ คลุมเครือๆ ทำไมนิยมทำกันนักครับ พรรคฯ นี้คราวก่อนก็ทีนึง ออกมาปล่อยข่าวเองว่า สุภาพสตรีสูงศักดิ์มาขอสุเทพฯ ให้ไปพบทักษิณฯ ผมถามไปถามมา ทำท่าจะกลายเป็นมาขอทักษิณฯ ให้สุเทพฯ เข้าพบเสียมากกว่า”
"มาคราวนี้อีกเหมือนกัน ไปฮ่องกงจะไปพบหรือไม่พบใคร ได้เข้าพบหรือไม่ได้เข้าพบ ก็ชี้แจงกันไปตรงๆ ครับ ไม่ใช่พูดกันงึมงำๆ ข้าพศพผัวศพเมีย เรียกเสียงกรี๊ดสลิ่มเข้าว่า จะชี้แจงกับพี่น้องประชาชนทั้งทีพูดไม่เคลียร์แบบนี้ ไม่ดีกับทุกๆ ฝ่ายครับ ฝั่งผมนะไม่เท่าไหร่ครับ หนักเเน่นกันอยู่เเล้ว เเต่สลิ่มทั้งหลายอ่ะดิ ยิ่งขวัญอ่อนกันอยู่"
“ดร.เสรีฯ อดีตแฟนคลับตัวยง อุตส่าห์ถามด้วยความเป็นห่วง กลับโดนสลิ่มบ้องตื้นขี้ตกใจทั้งหลายรุมด่ากันกระเจิง จนถอนสมอประกาศเลิกเชียร์ปชป.กันไปคนนึงแล้ว”
“อธิบายกันแค่นี้ทำกันไม่เป็น ก็อย่าจะไปคิดทำการใหญ่กันเลยครับ ก็แค่บอกไปตรงๆ ว่า วันนั้นที่ฮ่องกงไปทำอะไร บังเอิญหรือจงใจ ที่ไปนั่งเล่นอยู่เป็นชั่วโมง 2 ชั่วโมง ไปดักรอพบใครหรือเปล่า ได้เข้าพบหรือไม่ได้เข้าพบ ก็พูดความจริงไปเท่านั้นเอง”
ฝั่งผมชี้แจงชัดเจน “จะบังเอิญอย่างไร ก็ไม่ให้พบ” เคลียร์มั้ยครับ??
ปล. ถ้านึกไม่ออกว่าวันไหน ดูจากในรูปก็ได้ บังเอิญมีคนถ่ายภาพวิวแล้วติดมาครับ"
รูปประกอบ:นางวรกร จาติกวณิช ถ่ายเพื่อลง instagram จากที่นั่งอยู่
เมื่อโอ๊คว่ามาอย่างนี้ วันเดียวกัน กรณ์ จาติกวณิช ก็รีบตอบโต้ ซัดกลับทันควันผ่านเฟชบุค โดยยืนยันว่า ไม่เคยไปพบหรือขอพบ ไม่เคยไปคุย ไปหา ไปเจรจา ไม่เคยคุยทางโทรศัพท์ ไม่เคยสไกป์ โฟนอิน หรือส่งข้อความใดๆ ทั้งสิ้นกับทักษิณ โดยอธิบายว่า
“ล่าสุดเมื่อสามอาทิตย์ก่อน ที่โรงแรม Intercontinental ที่ฮ่องกง ผมนั่งดื่มน้ำชาอยู่กับภรรยา ขณะที่ทักษิณอยู่ในห้องตู้กระจกชั้นลอย ห่างจากผมไปหนึ่งชั้น ระยะประมาณ 20 เมตร มีนักการเมือง และนักธุรกิจรอแถวเข้าพบ เมื่อดื่มน้ำชาเสร็จผมก็ลุกไป เพราะไม่ได้พักอยู่โรงแรมนั้น แต่ภรรยาอยากไปเพราะเป็นโรงแรมที่มีวิวข้ามจากฝั่งเกาลูนมาทางฝั่งฮ่องกงที่สวยที่สุด และผมก็ไม่เคยปฏิเสธว่า ‘เห็น’ ทักษิณที่นั่น ก่อนลุกไปก็ยังได้ SMS มาหาท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ แจ้งให้ท่านทราบว่าเห็นทักษิณอยู่ที่ฮ่องกง คุณอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย”
ทั้งนี้ นายกรณ์ ยังระบุด้วยว่า ไม่รู้จะไปพบทักษิณทำไม ไม่มีอะไรต้องพูดกัน ตนและภรรยาไม่มีเหตุที่จะทำให้ต้องหลบหน้าหลบตาใคร เพราะการนั่งอยู่ใน lobby โรงแรมอย่างเปิดเผย ไม่มีความจำเป็นต้องหลบซ่อนหรือหลีกทางให้ใคร
“ถ้าผมเขียนอย่างนี้แล้วยังมีคนไม่เชื่อ ก็ช่วยไม่ได้แล้ว ดีที่สุดก็ดูท่าที่การทำงานของผมต่อไป นั่นน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด มากกว่าการชี้แจงใดๆทั้งสิ้น ส่วนการที่มีการพยายามปั่นข่าวนี้ ก็เพราะหวังจะทำให้พวกเราเองเคลือบแคลงใจ แตกแยก ไม่สามัคคี คนเราสุดท้ายก็ต้องคิดเอาเอง ว่าอะไรเป็นอะไร ใครได้ประโยชน์จากข่าว ใครเสียประโยชน์ ไม่อย่างนั้นก็เป็นเหยื่อเขาไปตลอด”
สุดท้ายนายกรณ์ ยังแสดงความเห็นต่อกรณีข่าวที่เกิดขึ้นว่า ไร้สาระเกินไป จนทำให้ต้องคิดว่า เขากำลังกลบหรือเบี่ยงเบนข่าวหรือการกระทำอะไรอยู่
อนึ่ง ข่าวนี้ ยังมี ความจริงอีกด้าน จาก เถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์บลูสกาย แชนแนล ได้ระบุผ่านเฟซบุ๊ก “Takerng Somsup” เพื่อตอบโต้เช่นกันว่า
“คืนนี้โทรศัพท์สายร้อนจากแหล่งข่าวระดับสูงมากถึงสูงที่สุดยืนยันว่า...ข่าวเรื่องคุณกรณ์ไปเจอทักษิณที่ฮ่องกงนั้น..จับแพะชนแกะกันมาก...เรื่องน่าจะเป็นอย่างนี้...คุณกรณ์กับคุณวรกรเดินทางไปฮ่องกง พักที่อินเตอร์คอนติเนนตัล ในเวลาเดียวกันคุณทักษิณพักที่นั่นและมีประชุมที่โรงแรมนั้น โดยมีสมาชิกเพื่อไทยบางท่านร่วมอยู่ด้วย...แหล่งข่าวเล่าให้ฟังว่า ทันทีที่คุณกรณ์มองเห็นคุณทักษิณก็ส่งข้อความถึงหัวหน้าพรรคทันทีเพื่อบอกว่าตัวเองเห็นทักษิณ ทั้งนี้คงจะมีข่าวออกไป จึงเอสเอ็มเอสให้คุณอภิสิทธิ์ทราบทันทีตั้งแต่นาทีแรกๆ ที่มองเห็นทักษิณ (เข้าใจว่าเพื่อไม่ให้คุณอภิสิทธิ์เข้าใจผิดหากไปเห็นข่าวจากที่อื่น)"
"...ผมเองก็เข้าใจดีว่าการที่มีข่าวออกมาย่อมตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ แต่ข่าวแบบนี้ก็มีมากมาย เมื่อคุณวรกร ภรรยาคุณกรณ์โพสต์ข้อความ “เด็ดขาด” แบบนี้...ใครรู้จักคุณวรกรคงจะรู้ดีว่า “ทำจริง”... (คุณศิริโชค โสภา ก็โทร.มาแจ้งว่า เป็นข่าวไม่จริง) ...เข้าใจว่าเดี๋ยวคงจะมีการชี้แจงกันละเอียด...ผมขออนุญาตเล่าเรื่องจากแหล่งข่าวของผมให้อ่านก่อนก็แล้วกัน”
ถือว่าเป็นอีกฉากหนั้งในหน้าการเมืองไทย ที่สนุกสนานสีสันพอๆ กับช่วงสงกรานต์เลยก็ว่าได้
//////////////////////////
ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij , เฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra
ข่าวที่เกี่ยวข้อง