10 เม.ย. 2502 เจ้าชายและหญิงสามัญชน ตำนานรักหวานสนามเทนนิส
เรื่องราวของการพบรักของ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ก็เป็นอีกตำนานความโรแมนติกที่ผู้หญิงทั่วโลกฝันถึง
ช่วงนี้ข่าวคราวของราชวงศ์ของประเทศญี่ปุ่น หรือ ราชวงค์อิมพีเรียล กำลังฮอตฮิตจริงๆ แล้วก็ให้บังเอิญที่วันนี้เมื่อ 60 ปีก่อน ตรงกับวันที่ 10 เมษายน 2502 ก็มีเหตุการณ์สำคัญมากเกิดขึ้นกับสมาชิกสำคัญลำดับต้นของราชวงศ์
นั่นคือเป็นวันพระราชพิธีอภิเษกสมรสของ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ โดยทั้งสองพระองค์ ยังคงเป็น "มกุฎราชกุมารอากิฮิโตะ" และ "นางสาวมิชิโกะ โชดะ" อยู่ในขณะนั้น
เมื่อได้ยินเรื่องราวที่คนสองคน ที่ครองรักมาได้หลายสิบปี พวกเราก็อยากรู้กันว่า ทั้งสองพบกันได้อย่างไร เช่นเดียวกัน เรื่องราวของการพบรักของ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ก็เป็นอีกตำนานความโรแมนติกที่ผู้หญิงทั่วโลกฝันถึง นั่นคือ การที่หญิงสามัญชน ธรรมดา ได้พบรักกับเจ้าชายหนุ่มรูปงาม
สำหรับตำนานรักของทั้งสองพระองค์นั้น มีบันทึกไว้ว่าทรงพบกันที่สนามเทนนิส โดยช่วงปี 2495 สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมาร และทรงสืบพระราชสมบัติหลังจากที่พระราชบิดาเสด็จสวรรคต ขณะที่สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ โชดะ ประสูติที่โตเกียว เป็นธิดาของ นายฮิเดะซาบุโร โชดะ นักธุรกิจผู้ร่ำรวย อดีตประธานบริษัทผลิตภัณฑ์อาหาร นิชชิน เซฟุง กรุ๊ป
ภาพเมื่อครั้งที่ทั้งสองพระองค์ทรงเปิดเผยถึงความรักต่อสาธารณชนแล้ว และยังคงทรงแข่งเทนนิสด้วยกันอีกหลายวาระ
พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาสาขาวรรณคดีอังกฤษที่มหาวิทยาลัยพระหฤทัยคาทอลิกในโตเกียว นอกจากนี้ยังทรงศึกษาหลักสูตรระยะสั้นที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด
เรื่องราวความรักระหว่างสองพระองค์เป็นเหมือนในเทพนิยายก็ว่าได้ โดยใน 2500 สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมาร ทรงพบรักกับหญิงสามัญชนนามว่า “มิชิโกะ โชดะ” ที่สนามเทนนิสในเมืองคารุอิซาว่า จังหวัดนากาโนะ
ว่ากันว่า เดิมที การพบกันครั้งแรกนั้น ทั้งคู่เพียงแค่แข่งขันเทนนิสกันตามปกติ แต่ก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน โดยในวันนั้นทั้ง 2 พระองค์ได้ลงเล่นเทนนิสคู่ผสม (ชายและหญิงอยู่ทีมเดียวกัน) ฝ่ายเจ้าชายอยู่ฝั่งเดียวกับผู้หญิงท่านหนึ่ง ที่เป็นพระสหาย ในขณะที่ฝ่ายนางสาวมิชิโกะเล่นคู่กับเพื่อนชายชาวต่างชาติ ชื่อ บ็อบบี้ ดอยล์ ผลปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายต่างมีฝีมือที่สูสี ก่อนที่ฝ่ายของนางสาวมิชิโกะจะเอาชนะไปได้หลังจากแข่งกันมาถึง 2 ชั่วโมงเต็ม
และอาจเป็นเพราะรอยยิ้มและเสียงหัวเราะนี่เองที่เป็นชนวนความรักให้ผลิบาน จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นรักแรกพบเลยก็ว่าได้ จากข้อมูลระบุว่า ในวันนั้นเจ้าชายก็ได้ตรัสกับเธอว่า “นี่เป็นการแข่งขันที่ยาวนานมากเลยนะ จริงไหม”
สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะและสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะที่สนามเทนนิสในปี 2502
ในวันนั้นพระองค์ยังได้ทรงหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพของนาวสาวมิชิโกะไว้เป็นที่ระลึก และทรงนำไปอัดแล้วนำมาใส่กรอบรูป ก่อนจะฝากเพื่อนของพระองค์นำไปมอบให้เธอ ซึ่งชัดเจนว่าเจ้าชายอากิฮิโตะทรงสนพระทัยนางสาวมิชิโกะเป็นอย่างมาก
ซึ่งที่สุดเมื่อทั้งคู่รู้ใจต่อกัน แต่ก็จำต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ฝ่ายนาวสาวมิชิโกะได้บอกเรื่องนี้แก่พ่อแม่ของเธอ ซึ่งเป็นประธานบริษัทด้านอุตสาหกรรมที่มั่งคั่ง และคุณแม่เอลิซาเบธ บริทท์ คณบดีแห่งมหาวิทยาลัย Sacred Heart
ว่ากันว่า เรื่องราวรักต่างชนชั้นแบบนี้ ย่อมมีอุปสรรคเสมอไป เพราะแม้ว่า นางสาวมิชิโกะจะเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยมากก็ตาม แต่ก็ยังมีกระแสต่อต้านความรักครั้งนี้อย่างกว้างขวาง จึงยังผลให่้ในตอนแรกนั้นทั้งตัวเธอและพ่อแม่ไม่เปิดใจยอมรับเจ้าชาย แต่หลังจากที่เจ้าฟ้าชายทรงเพียรพยายามพิสูจน์หัวใจ ในที่สุด ทุกคนต้องยอมใจอ่อน
ประกอบกับความมั่นคงในรักแท้ของทั้งคู่ ก็ทำให้สามารถฝ่าฟันด่านต่างๆ จนได้อภิเษกสมรสกันในปี 2502 ทำให้นางสาวโชดะกลายเป็นมกุฎราชกุมารีมิชิโกะ และการอภิเษกสมรสครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกเลยทีเดียวที่หญิงสามัญชนได้เป็นพระชายาเอกของสมาชิกราชวงศ์
ดังนั้น นางสาวมิชิโกะจึงสามารถเอาชนะใจชาวญี่ปุ่นได้อย่างไร้ข้อกังขา จนเกิดกระแส “มิชิ บูม” ที่ยกให้เธอเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นยุคใหม่และประชาธิปไตยอีกด้วย เพราะตามประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น พระจักรพรรดิหรือพระบรมวงศานุวงศ์ชายจะทรงอภิเษกสมรสกับหญิงสาวชั้นสูงที่ถูกเลือกไว้เป็นภรรยาเอกเท่านั้น ด้วยเหตุผลทางการเมืองและการปกครอง แต่จะสามารถรับหญิงสามัญชนมาเป็นพระสนมได้
ที่สุด เมื่อเจ้าฟ้าชายอากิฮิโตะได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิอากิฮิโตะ นางสาวมิชิโกะจึงได้รับการสถาปนาเป็นจักรพรรดินีมิชิโกะแห่งญี่ปุ่น และทรงครองรักยาวนานตลอดมาจวบจนวันนี้ ทั้งยังทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดารวม 3 พระองค์ ได้แก่
เจ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ประสูติเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 ปัจจุบันอภิเษกสมรสกับมะซะโกะ โอะวะดะ มีพระราชธิดาด้วยกัน 1 พระองค์ คือ เจ้าหญิงไอโกะ เจ้าโทะชิ
เจ้าชายฟุมิฮิโตะ เจ้าอะกิชิโนะ หรือ เจ้าชายฟุมิฮิโตะ ประสูติเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 ปัจจุบันอภิเษกสมรสกับคิโกะ คะวะชิมะ มีพระราชโอรส และพระราชธิดาด้วยกัน 3 พระองค์ ได้แก่ เจ้าหญิงมะโกะแห่งอะกิชิโนะ, เจ้าหญิงกะโกะแห่งอะกิชิโนะ และเจ้าชายฮิซะฮิโตะแห่งอะกิชิโนะ
อดีตเจ้าหญิงซะยะโกะ เจ้าโนะริ ประสูติเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2512 ต่อมามาสมรสกับสามัญชนนามว่า โยะชิกิ คุโระดะ เจ้าหญิงจึงต้องสละฐานันดรศักดิ์ตามกฎมณเฑียรบาลของญี่ปุ่น และเปลี่ยนชื่อเป็น ซะยะโกะ คุโระดะ
ล่าสุด ในวันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562 ได้มีการประกาศเผยแพร่นามรัชศกใหม่ของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ออกมาคือ เรวะ ที่ได้เตรียมเริ่มต้นใช้วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
เจ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ที่จะขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิลำดับที่ 126
ซึ่ง ยุคเรวะ เป็นศักราชของญี่ปุ่นยุคต่อไป โดยรัชศกเรวะจะเริ่มต้นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 โดยเริ่มนับจากวันที่สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ พระราชโอรสของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิลำดับที่ 126 ในวันหลังสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะสละราชบัลลังก์ในวันที่ 30 เมษายน ซึ่งถือเป็นวันสิ้นสุดของยุคเฮเซ
///////////////////////////////////////////////////////////
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
วิกิพีเดีย
https://jpninfo.com/thai/1227
https://sudsapda.com/top-lists/117156.html
www.JAPAN Forward.com,
www.JapanTimes.com