ยังมีข้อสันนิษฐานว่า อุบัติเหตุดังกล่าวอาจเกิดมีสาเหตุจากนักบินร่วมของเขา หรืออาจเป็นคำสั่งของ เลโอนิด เบรจเนฟ ผู้นำโซเวียตคนใหม่ ที่อิจฉาความโด่งดังของเขา
ถ้าพูดถึง "วีรบุรุษแห่งสหภาพโซเวียต" ทุกคนจะนึกถึง "นาวาอากาศเอก ยูรี อะเลคเซเยวิช กาการิน" หรือ ที่เราเรียกเขาว่า "ยูริ กาการิน" แน่นอน เพราะเราต่างท่องชื่อของเขามาตั้งแต่สมัยเรียน ว่าเขาเป็นนักบินอวกาศคนแรกของโลกที่สามารถเดินทางกลับโลกอย่างปลอดภัย!
ใช่แล้ว เขาสามารถเดินทางท่องอวกาศและกลับมาได้อย่างปลอดภัย มีชีวิตอยู่ต่อมา แต่ต้องมาพบกับจุดจบอันเหลือเชื่อ โดยไม่เกี่ยวกับเรื่องของอวกาศนอกชั้นบรรยากาศของโลกเลย เขาตายในวันนี้เมื่อ 51 ปีก่อน ตรงกับวันที่ 27 มีนาคม 2511 ใกล้กรุงมอสโค
สำหรับประวัติของยูริ กาการิน เขาเกิดเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2476 ในเมืองกชาทสค์ เป็นบุตรช่างไม้ในนารวม ตั้งแต่ครั้งที่รัสเซียเป็นประเทศคอมมิวนิสต์
แรกเริ่มยูริเรียนเป็นช่างปั้น ที่โรงเรียนการค้าใกล้กรุงมอสโก ในปี พ.ศ. 2494 จากนั้นศึกษาต่อในวิทยาลัยอุตสาหกรรมที่เมืองซาราตอฟ และในเวลาเดียวกันก็เข้าอบรมการบินด้วย เมื่อสำเร็จหลักสูตรก็เข้าโรงเรียนนายเรืออากาศโซเวียต ในโอเรนบูร์ก และสำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2500 โดยในปีเดียวกันนี้เขาก็ได้สมรสกับ วาเลนตินา กอร์ยาเซว่า
ต่อมาในปี 2503 ยูริ กาการิน ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมโปรแกรมการฝึกนักบินอวกาศพร้อมกับสมาชิกอีก 20 คน จนในที่สุดเขาก็ได้รับเกียรติให้เป็นนักบินอวกาศคนแรกที่ได้ขึ้นไปสำรวจเหนือชั้นบรรยากาศในวันที่ 12 เมษายน 2504 ด้วยยานอวกาศ "วอสตอก 1"
ทั้งนี้ ยานวอสตอค 1 (Vostok 1) ของกาการินมีน้ำหนัก 4 ¾ ตัน และถูกปล่อยจากฐานปล่อยจรวดไบคานูร์ ในรัฐคาซัคสถานในขณะนั้น เมื่อเวลา 9.07 น. ของวันนั้นเอง และโคจรรอบโลก 1 รอบ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 48 นาที ที่ระดับความสูงมากที่สุด 187 ไมล์ (301 กิโลเมตร)
การเดินทาง ก็มิได้ราบรื่นเหมอนครั้งอื่นๆ เนื่องจากบางส่วนของยานอวกาศเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นผลกระทบจากรังสีต่าง ๆ ในขณะเดียวเขาต้องพยายามบังคับหนีจากแรงดึงดูดของโลกถึง 8 ครั้งจนกระทั่งสามารถเข้าสู่วงโคจรและบินสำรวจโลกภายนอกโดยรอบได้ในที่สุด ซึ่งใช้เวลาไปประมาณ 10 วัน
อย่างไรก็ตาม ยานวอสตอก 1 ไม่มีระบบชะลอความเร็ว ยูริ กาการิน จึงต้องดีดตัวออกมาจากยานอวกาศที่ความสูง 7 กิโลเมตร และร่อนลงสู่พื้นด้วยร่มชูชีพ เช่นเดียวกับยานวอสตอก ซึ่งลงจอดโดยร่มชูชีพในทุ่งในแคว้นวอลกา ซึ่งทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และยังได้รับการต้อนรับอย่างดีจากผู้คนจำนวนมาก
จรวดนำยานวอสตอค 1 ทะยานขึ้นฟ้า ขอขอบคุณภาพจาก russianspaceweb.com
แน่นอน การบินในอวกาศครั้งนี้ทำให้กาการินมีชื่อเสียงก้องไปทั่วโลก และได้รับเครื่องประดับเกียรติยศเลนิน ยูริในวัยเพียง 27 จึงได้ตำแหน่งเป็นวีรบุรุษแห่งสหภาพโซเวียต นอกจากนี้ยังมีการสร้างอนุสรณ์สถานและตั้งชื่อถนนเพื่อเป็นเกียรติแต่กาการินในสถานที่หลายแห่งทั่วประเทศ
อย่างไรก็ดี ยูริ กาการิน เคยเกือบต้องสิ้นชื่อ เมื่อเขาเคยถูกวางตัวให้ขึ้นบินไปเที่ยวบินทดสอบในโครงการ “โซยูส 1” แต่ “วลาดีมีร์ โคมารอฟ” เพื่อนรักของกาการินขอไปแทน ซึ่งโชคร้ายเขาเสียชีวิต เนื่องจากร่มไม่กางระหว่างเดินทางกลับโลก ทำให้ร่างเขาแหลกด้วยแรงกระแทกพื้นโลก (อ่าน 24 เม.ย.2510 "คงเป็นการเดินทางตั๋วเที่ยวเดียวที่ไม่มีวันกลับ http://www.komchadluek.net/news/today-in-history/322754)
ว่ากันว่า การที่ "วลาดีมีร์ โคมารอฟ" อาสาไปแทน เพราะรู้ถึงข้อบกพรองหลายอย่างของยานโซยูส 1 และไม่อยากให้เพื่อนซึ่งเป็นถึงวีรบุรุษต้องไปตายในงานชุ่ยๆ หนนี้
แต่ไม่ว่าเบื้องหลังจะเป็นอย่างไร ที่สุดหลังสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการอวกาศได้เพียง 7 ปี ยูริ กาการินก็ถึงคราวสิ้นชื่อ หลังประสบอุบัติเหตุจากซ้อมขับเครื่องบินรบเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2511 หรือหลังเพื่อนรักของเขาจากไปแค่ ปีเดียวเท่านั้น
โดยเครื่องเครื่องบินรบตระกูล “มิก” ที่เขาซ้อมรบร่วมกับครูฝึกคือ วลาดิมีร์ เซริออกิน ได้ตก ในแคว้นวลาดิมีร์ซึ่งอยู่นอกกรุงมอสโก ช่วงแรกอุบัติเหตุนี้ไม่ได้รับการอธิบายอย่างชัดเจน บ้างว่าอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนระดับเพดานบินอย่างรวดเร็วเพื่อ หลบหลีกสิ่งกีดขวาง บ้างว่าถูกโจมตีโดยอากาศยานอื่น บ้างก็ว่าขาดออกซิเจนในห้องโดยสาร
https://3c1703fe8d.site.internapcdn.net/newman/gfx/news/2018/topsovietoff.jpg
นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานว่า อุบัติเหตุดังกล่าวอาจเกิดมีสาเหตุจากนักบินร่วมของเขา หรืออาจเป็นคำสั่งของ เลโอนิด เบรจเนฟ ผู้นำโซเวียตคนใหม่ ที่อิจฉาความโด่งดังของเขา
และต่อมาการเสียชีวิตของกาการิน ได้รับการบันทึกจากคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ของสหภาพโซเวียต และสภารัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2511 ว่าเป็นเรื่อง “ลับเฉพาะ” ซึ่งเอกสารของคณะกรรมการระบุว่า การซ้อมรบของกาการินและนักบินร่วมนั้น ได้นำเครื่องบินไปเผชิญกับภาวะวิกฤต และการหยุดทำงานกลางคันของเครื่องยนต์ ท่ามกลางสภาพอากาศอันย่ำแย่
กระทั่งภายหลัง สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทางการของรัสเซียได้เปิดเผยเอกสารที่ไม่เป็นความลับอีกต่อไป ซึ่งระบุว่า ความตายอันเป็นปริศนาของเขานั้นเกิดการซ้อมรบเพื่อหลบ “บอลลูน” ตรวจสภาพอากาศ อย่างฉับพลัน!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง